เข้าสู่การปิดไตรภาคชุดนี้อย่างสมบูรณ์ กับภาพยนตร์ขวัญใจผู้ชมทั่วโลกอย่าง Jurassic World: Dominion จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร ที่ดำเนินเรื่องต่อจาก Jurassic World: Fallen Kingdom จูราสสิค เวิลด์ 2: อาณาจักรล่มสลายJurassic World: Dominion เป็นเรื่องราวต่อเนื่องจากเหตุการณ์เกาะอิสลาร์ นูบลาร์ถล่มจากภูเขาไฟระเบิด ทำให้เหล่าไดโนเสาร์ต้องเข้ามาสู่ผืนดินเดียวกับมนุษย์ โลกสมัยกับใหม่กับสัตว์จากโลกโบราณล้านปีต้องมาอยู่ในผืนแผ่นดินเดียวกัน ที่หลายคนต่างพากันคิดว่า ในฉากจบของภาคก่อนนั้น ดูจะวุ่นวายและโกลาหลเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งด้วยความที่ทิ้งช่วงห่างไปถึง 4 ปี จนทำให้ลืมเนื้อหาจากภาคที่แล้วไปบ้าง แต่ในต้นเรื่อง ก็ยังสรุปแบบกระชับ สั้น ๆ และเข้าใจง่าย จึงทำให้ผู้ที่ไม่เคยดูสองภาคก่อนหน้า ก็สามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นไปบ้างแต่กระนั้น แก่นเรื่องที่หลาย ๆ คนพากันคิดว่า มันน่าจะเป็นไปในทิศทางของการอยู่ร่วมระหว่างมนุษย์กับไดโนเสาร์ แต่กลับเล่นถึงประเด็นการผูกขาดขององค์กร ที่ได้ประโยชน์จากการที่ไดโนเสาร์เข้ามาอยู่บนแผ่นดินใหญ่ และเรื่องของการทดลองเพาะสัตว์สายพันธ์ใหม่ขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ลึกลับ ก็ทำให้ผู้ชมที่คาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรที่ระทึก ก็ต้องนั่งขมวดคิ้ว และตั้งคำถามว่า เรื่องจะดำเนินไปแบบนี้จริงสิ? และใช่! มันจะดำเนินไปแบบนั้นและในเมื่อแก่นหลักของเรื่องจะถูกดำเนินไปเช่นนั้น ก็ทำให้เรื่องราวการอยู่ร่วมของไดโนเสาร์กับมนุษย์ กลายเป็นส่วนประกอบ และถูกแทนที่ด้วยการเข้าช่วยเหลือ เมซี่ ล็อควู้ด ที่ถูกลักพาตัวไป ซึ่งเธอเป็นกุญแจหลักในเรื่องของสายพันธุ์มนุษย์พิเศษ และอื่น ๆ ที่ประเดประดังเข้ามา ทำให้แก่นเรื่องต่าง ๆ เริ่มออกไปยังเส้นทางอื่น แต่ก็ยังดีที่การหลุดออกจากวงโคจรไปนั้น ก็ถูกกลบเกลื่อนด้วยฉากสนทนาอันขำขัน กับการเอาตัวรอดในตอนที่ตัวเอกต้องเจอกับไดโนเสาร์ และเมื่อเข้าถึงกลางเรื่อง เนื้อหาหลักต้นเรื่องที่ว่า มนุษย์กับไดโนเสาร์จะอยู่ร่วมกันได้อย่างไร? ก็ได้มลายหายไป กลายเป็นเนื้อหาที่มีน้ำหนักแค่ตอนต้นเรื่องเท่านั้นจากเนื้อหาที่เป็นเช่นนี้ ก็ส่งผลไปถึงเหล่านักแสดงทั้ง คริส แพรตต์, ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด, แซม นีล และ เจฟฟ์ โกลด์บลัม ที่เข้ามาแสดงบบาทอย่างสุดฝีมือ แต่ในเมื่อปัจจัยหลักอย่างเนื้อเรื่องที่ไม่ผลักดัน ก็ทำให้บทบาทในเรื่องของพวกเขาดูดร็อปลงไปทันที รวมถึงการตัดต่อลำดับภาพของฉากเอาตัวรอดจากไดโนเสาร์ ที่ถือเป็นจุดขายของเรื่องนี้ ที่ผู้กำกับดูตั้งใจให้การล่า การเอาตัวรอด และไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ จบลงโดยง่าย และบังคับให้ผู้ชมหันไปสนใจในเรื่องผูกขาดของบริษัทในเรื่องแทน จึงอาจจะทำให้ผู้ชมภาคนี้ รู้สึกว่าบทบาทของนักแสดงไม่มีอะไรให้น่าจดจำจึงทำให้กล่าวได้ว่า การปิดไตรภาคของ Jurassic World: Dominion เป็นการจบเรื่องที่น่าผิดหวัง และอาจจะกลายเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับผู้กำกับอย่าง โคลิน เทรเวอร์โรว์ ที่เคยถูกสื่อยกว่าเป็นนิวเวฟ คลื่นลูกใหม่ของวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ต้องไปนั่งทบทวนการสร้างงานอย่างหนักหน่วง และอาจจะต้องลุ้นถึงตัวเลขรายได้ ที่อาจจะส่งผลต่ออนาคตของผู้กำกับคนนี้แต่ข้อดีที่สัมผัสได้จากการมองในเชิงบวก หลังชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบ ก็คือการได้หวนนึกถึง Jurassic Park ปี 1993 ที่พ่อมดแห่งวงการภาพยนตร์อย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก สร้างไว้ และถือเป็นภาพยนตร์ไดโนเสาร์ที่ดีที่สุด ซึ่งก็ต้องยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ที่ไม่ว่าจะมีการสร้างภาพยนตร์หรือสารคดีที่เกี่ยวกับไดโนเสาร์มากี่เรื่องก็ตาม ก็ต้องนึกถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ทุกครั้ง และมักจะต้องเอามาเปรียบเทียบอยู่เสมอ จนถือว่าเป็นของดีเรื่องหนึ่ง ที่ไม่มีเรื่องใดสามารถมาตีให้แตกลงได้ รวมถึงไตรภาคชุดนี้เรื่องย่อ Jurassic World: Dominion จูราสิคเวิล์ด ทวงคืนอาณาจักรhttps://www.facebook.com/JurassicPark.TH/videos/551972259934509/ เครดิตภาพจาก Universal Pictures : ภาพปก | ภาพ 1 | ภาพ 2 | ภาพ 3 | ภาพ 4 | ภาพ 5 | ภาพ 6ขอบคุณวิดีโอ Jurassic World *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/9aryirprอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2565 - วันที่ 22 มิถุนายน 2565