ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาแอดเชื่อว่าเพื่อน ๆ คงได้ทราบกระแสข่าวของคุณติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ที่ออกมาเปิดใจและเปิดเผยเรื่องราวของเธอทั้งหมดกับรายการหนึ่ง เกี่ยวกับประเด็นและปัญหาในชีวิตคู่ของคุณติ๊กและคุณหนุ่ม ศรราม วันนี้แอดเลยอยากจะมา ไล่เรียง Timeline เหตุการณ์ประเด็นข่าว และเส้นทางความรักของทั้งสองให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกัน หากพร้อมแล้วก็ตามแอดมาเลยจ้าทำความรู้จักกับติ๊ก บิ๊กบราเธอร์เครดิตภาพ : @mama.veeji ชื่อจริงคือ กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ ชื่อเล่น ติ๊ก หรือหลายคนจะเรียกเธอว่า ‘ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์’ ที่มาของฉายานี้ก็คือเมื่อปี 2549 ติ๊กเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันในรายการ Big Brother ซีซั่น 2 ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ ITV โดย ณ ตอนนั้นเธอมีอาชีพเป็นสตั๊นต์หญิง และเธอนั้นมีบุคลิกที่เรียกว่าเท่ และสตรองสุด ๆ อีกทั้งความแข็งแรงของร่างกาย ทำให้เธอได้คว้าแชมป์ในรายการ Big Brother ซีซั่น 2 นี้ไป หลังจากนั้นเธอก็ได้มีโอกาสทำงานเป็นสตั๊นต์หญิงให้กับละครและภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่อง อาทิ คนไททิ้งแผ่นดิน, ปืนใหญ่จอมสลัด, พายุเทวดา, ป่านางเสือ, เนตรนาคราช เป็นต้นชีวิตรักของติ๊ก บิ๊กบราเธอร์และหนุ่ม ศรรามเครดิตภาพ : @mama.veeji โดยเริ่มแรกในช่วงกลางปี 2561 มีกระแสข่าวว่าติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ กับ หนุ่ม ศรราม กำลังคุย ๆ กัน โดยไม่นานหลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า ทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกันอยู่ เนื่องจากทั้งคู่มี lifrstyle ชีวิตที่คล้าย ๆ กัน อาทิ ชอบทำบุญใส่บาตรเหมือนกันและชอบการออกกำลังกาย ซึ่งทั้งเจอกันในฟิตเนสขณะออกกำลังกายอีกด้วย เลยเข้ากันได้ง่าย เมื่อเปิดตัวผ่านไปประมาณ 2 เดือน ทั้งคู่ก็ประกาศเข้าพิธีวิวาห์แบบสายฟ้าแลบ และจดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 และหลังจากแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันได้ไม่นาน ทั้งคู่ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าติ๊กกำลังตั้งครรภ์ ผ่านไป 9 เดือน เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2562 ติ๊กก็ได้ให้กำเนิดน้อง ‘วีจิ’ ทำเอาหนุ่ม ศรรามเกิดอาการเห่อลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนนี้แบบสุด ๆเครดิตภาพ : @mama.veejiประเด็นใบหย่า (แก้เคล็ด) และเมื่อช่วงเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมานี้ก็มีประเด็นหนาหูร้อนแรงว่าทั้งติ๊กและหนุ่มมีการจดทะเบียนหย่ากันเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากนายอัฉริยะที่เป็นคนพาเจ้าของคลินิคไปเข้าแจ้งความเรื่องฉ้อโกงหน้ากากอนามัย และได้บอกกับนักข่าวว่าทั้งสองได้มีการ ‘หย่า’ กันแล้ว ทำเอาแฟนคลับรายคนถึงกับงงและตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น? แต่แล้วเพื่อให้คลายข้อสงสัย ทั้งคู่ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการหย่าครั้งนี้เป็นเพียง ‘การแก้เคล็ด’ เท่านั้น ซึ่งได้ตอกย้ำความรักที่มีด้วยการโพสต์รูปคู่ รูปน้องวีจิอยู่เรื่อย ๆ แต่แล้วติ๊กก็ได้ให้สัมภาษณ์หลังเกิดประเด็นดราม่าว่าจริง ๆ แล้วการหย่าในครั้งนั้นคือการหย่าจริง ๆ ไม่ได้หย่าเพื่อแก้เคล็ดแต่อย่างใดแต่ที่ให้สัมภาษณ์ไปว่าหย่าแก้เคล็ดนั้นเพราะตนคิดว่าสามารถทำให้ครอบครัวกลับมาอยู่ในจุดเดิมได้Timeline ประเด็นปัญหา ในเดือนมกราคม 2563 ก็มีประเด็นร้อนหนาหูเมื่อหนุ่ม ศรรามได้เข้าแจ้งความกับธนาคารที่ตนมีการฝากเงินว่ามีเงินจำนวน 450,000 บาทได้หายไปจากบัญชีของตน และหลังจากนั้นไม่กี่วันธนาคารก็ได้ทำหนังสือออกมาชี้แจงว่า คนใกล้ตัวของคุณศรรามเป็นคนที่กดเงินออกไป จากนั้นศรรามก็ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอีกเลย และเรื่องก็เงียบหายไป โดยประเด็นนี้หลังจากเกิดกระแสล่าสุดคุณติ๊กได้ให้สัมภาษณ์ว่าตนนั้นได้บอกหนุ่ม ศรรามไปแล้วว่าเป็นคนกดออกมาเอง ส่วนศรรามจะจำได้หรือไม่นั้นตนไม่แน่ใจ ต่อมาในเดือนมีนาคม 2563 ในช่วงวิกฤตโควิด 19 นี้ก็เกิดปัญหาขึ้นมาอีก เมื่อเจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งได้เข้าแจ้งความกับติ๊กในข้อหาฉ้อโกงหน้ากากอนามัยเป็นจำนวน 2 แสนชิ้นและได้โอนเงินค่ามัดจำไปแล้วกว่า 9 แสนบาท ซึ่งหลังจากนั้นศรรามก็ได้ออกมาไลฟ์สดผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวเพื่อชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นนี้แทนติ๊กว่า ติ๊กนั้นไม่ได้โกงแต่ ณ ขณะนั้นหน้ากากอนามันเป็นสินค้าควบคุม หากนำมาขายจะผิดกฎหมาย ซึ่งระหว่างนั้นติ๊กก็ได้มาตอบกลับคนที่เข้ามาด่าเธอผ่านคอมเม้นต์อย่างดุเดือด ซึ่งประเด็นนี้คุณติ๊กได้ให้สัมภาษณ์ว่าเงิน 9 แสนดังกล่าวนั้นได้อยู่ที่โบรกเกอร์หน้ากากอนามัยแล้ว และโบรกเกอร์ก็ได้โอนให้กับทางเวียดนาม ซึ่งก็อาจจะไม่ได้คืนแล้ว จากนั้นคุณหนุ่ม ศรรามก็ได้จ่ายเงินค่ามัดจำคืนคลินิคดังกล่าวไปแล้วซึ่งเป็นเงิน 9 แสนบาทข้างต้นเครดิตภาพ : @sornram_theappitak และล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ที่ผ่านมาศรรามได้โพสต์รูปใบหย่าที่สลักหลังว่าลูกสาวซึ่งก็คือน้องวีจิจะอยู่ในความดูแลของตน พร้อมกับแคปชั่นว่า “🙏เนื่องจากในระยะ 2-3 สัปดาห์ ที่ผ่านมามีบุคคล มาตามหาคุณ ติ้กที่บ้านและโทรศัพท์ มาหาผมหลายครั้ง ซึ่งผมเองก้อทำงานเกือบทุกวัน จึงขอความกรุณา ผู้ใดก้อตามที่ได้ทำสัญญา หรือ ทำธุรกรรม ทางด้านการเงินหรือด้านต่าง ๆ กับคุณ ติ้ก กนิษฐ์ รินทร์ พัชร ภักดี โชติช่วยติดต่อ กับคุณ ติ้กโดยตรงและไม่ต้องมาที่บ้านผมกับลูก เพราะ ผมกับลูก ไม่ทราบเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะสถานภาพของเราทั้งสองได้หย่าขาดกันอย่างเป็นทางการเรียบร้อยตามวัน เวลา ดังกล่าว และคุณติ้กก้อไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านของผม แล้ว เราสองคนต่างทำแค่หน้าที่ พ่อกับแม่ของวีจิตามข้อตกลง ที่ระบุตามเอกสารที่ระบุไว้เท่านั้น ขอบพระคุณ ครับ ผม @mama.veeji @veeji_theappitak @sornramfanclub #saveveeji #STVeeji “เครดิตภาพ : @mama.veeji และหลังจากนั้นติ๊กก็ได้โพสต์รูปสุนัขพร้อมแคปชั่นว่า “❤อิจฉาหมา หมามันยังรักลูก แล้ว .. ล่ะ...รักใคร😎 @sornram_theappitak @veeji_theappitak” ซึ่งเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาคุณติ๊กก็ได้ไปออกให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งถึงประเด็นปัญหาดังกล่าว และตนได้ยอมรับว่าตนนั้นได้มีการเล่นการพนันออนไลน์จริง แต่ที่เล่นก็เพราะว่าอยากจะนำเงินมาคืนหนุ่ม ศรรามเท่านั้น และหนุ่มศรรามได้บอกผ่านพิธีกรในรายการดังกล่าวว่า อยากให้ติ๊กนั้นปรับปรุงพฤติกรรมใหม่ ใช้ชีวิตใหม่ อยู่กับตนเองให้มากขึ้น หางาน หาที่อยู่ให้เป็นหลักแหล่งแล้วตนจะให้ติ๊กกลับมาดูลูกได้ ซึ่งในตอนนี้ศรรามมองว่าติ๊กยังไม่มีความพร้อมในการเลี้ยงลูก และที่ผ่านมานั้นเขาช่วยเหลือติ๊กมาตลอด จนแทบไม่เหลืออะไรแล้ว หลังจากนี้จะต้องเก็บเงินในอนาคตให้ลูกเครดิตภาพ : @mama.veeji และสุดท้ายติ๊กก็ได้พูดประโยคออกไปว่า “หนูอาจจะไม่มีประสิทธิภาพของการเป็นเมีย แต่ก็มีประสิทธิภาพของการเป็นแม่” ซึ่งหลังจากจบรายการไปติ๊กก็ได้ออกมาโพสรูป #เราขอโทษ พร้อมแคปชั่นว่าตนขอโทษทุกคนที่ทำให้เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นมุมมองของชีวิตคู่และการเงิน โดยมุมมองของแอดคิดว่าเรื่องนี้เกิดจากการไม่พูดกันตรง ๆ ไม่โกหกกันค่ะ ยิ่งแน่นอนว่าหากมีปัญหาเรื่อง ‘เงิน’ แล้วนับว่าเป็นปัญหาสำคัญในครอบครัว รวมถึงชีวิตคู่เลยทีเดียว ดังนั้น ‘การบริหารจัดการเรื่องเงินของชีวิตคู่’ นับว่าเป็นสิ่งที่ควรตระหนักและห้ามมองข้ามอย่างยิ่งก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ เรื่องจริงยิ่งกว่าละคร กับบทเรียนจากเส้นทางรัก ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ - หนุ่ม ศรราม ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาดราม่าที่มาแรงและคนจับตามองกันเยอะมากโดยสุดท้ายนี้แอดก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทั้งสองฝ่ายเลยนะคะ ขอให้ก้าวผ่านไปให้ได้ 🙂เครดิตภาพหน้าปก :@mama.veeji