5 เหตุผลที่คุณต้องดู My Youth วัยเยาว์ของสองเรา (2025) การกลับมาของ ซงจุงกิ ในฐานะพระเอกโรแมนติกอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานหลายปี ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ถูกจับตามองตั้งแต่ยังไม่ออนแอร์ ประกบคู่กับ ชอนอูฮี นักแสดงหญิงสายเมโลดราม่าที่การันตีฝีมือ ทำให้ My Youth กลายเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่หลายคนบอกว่าพลาดไม่ได้ มาดูกันว่าทำไมเรื่องนี้ถึงน่าดูสุดๆ แวะมาป้ายยา! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ✦ 1. การกลับมาในรอบ 9 ปีของ ซงจุงกิ ในแนวโรแมนติก หลังจากสร้างชื่อเสียงไปทั่วเอเชียในบทบาททหารกัปตันยูชีจินจาก Descendants of the Sun (2016) ซงจุงกิแทบจะไม่รับงานแนวโรแมนติกอีกเลย เขาเลือกไปเล่นบทที่หลากหลาย ทั้งแนวดราม่าซับซ้อน (Reborn Rich), แอ็กชัน–ไซไฟ (Space Sweepers) ไปจนถึงแนวมาเฟียสุดเข้มข้น (Vincenzo) จนหลายคนคิดว่าเขาอาจจะไม่หวนกลับมารับงานโรแมนติกอีกแล้ว การปรากฏตัวใน My Youth จึงเหมือนการคืนบัลลังก์พระเอกสายอบอุ่นที่แฟนๆโหยหามานาน เหตุผลข้อนี้เพียงข้อเดียวก็น่าจะเพียงพอให้แฟนซีรีส์รีบจดวันออกอากาศไว้ในปฏิทิน ✦ 2. เรื่องราวความรักแรกที่หวนคืนในวัยผู้ใหญ่ My Youth เล่าเรื่องของ “ซอนอูแฮ” (ซงจุงกิ) อดีตนักแสดงเด็กที่ตัดสินใจหันหลังให้กับวงการบันเทิงเพื่อค้นหาตัวตนใหม่ และ “ซองเจยอน” (ชอนอูฮี) หัวหน้าทีมในเอเจนซีบันเทิงที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน ทั้งคู่เคยเป็นรักแรกของกันและกัน แต่ด้วยความไม่พร้อมในวัยเยาว์จึงต้องแยกทางกันไป เวลาผ่านไปกว่า 15 ปี พวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้งในฐานะผู้ใหญ่ที่มีแผลในใจและเรื่องราวชีวิตที่แตกต่างออกไป ความรักครั้งเก่าจะถูกเยียวยาและเติบโต หรือว่าจะเจ็บปวดเหมือนเดิม? ประเด็นนี้เองที่ทำให้ My Youth มีมากกว่าความหวานของรักแรก เพราะมันสะท้อนถึงความเป็นจริงของชีวิตและการเติบโตของผู้คน ✦ 3. นักแสดงนำที่ทรงพลังและมีเคมีเฉพาะตัว การโคจรมาพบกันของซงจุงกิและชอนอูฮีถือเป็นการจับคู่ที่หลายคนไม่คาดคิดมาก่อนแต่กลับกลายเป็นว่าลงตัวอย่างน่าประหลาด ซงจุงกิมีเสน่ห์แบบพระเอกที่ทั้งอบอุ่นและเปราะบาง ส่วนชอนอูฮีขึ้นชื่อเรื่องการถ่ายทอดอารมณ์ลึกๆ ผ่านสายตาและบทพูด ทำให้ตัวละคร “ซอนอูแฮ” และ “ซองเจยอน” ดูมีเลือดเนื้อ มีความเป็นมนุษย์ที่มีทั้งความเข้มแข็งและความอ่อนแอ เมื่อทั้งคู่มาชนจอด้วยกัน เคมีที่ผสมระหว่างความอบอุ่น ความดราม่า และความโรแมนติก จึงทำให้ผู้ชมรู้สึกอินราวคล้ายกับกำลังเฝ้ามองคู่รักจริงๆ ✦ 4. ทีมผู้สร้างคุณภาพที่รู้จักการเล่าเรื่องโรแมนติกได้อย่างถึงใจ เบื้องหลังของ My Youth น่าสนใจไม่แพ้ตัวนักแสดง เพราะได้ผู้กำกับ อีซังยอบ ที่เคยสร้างกระแสด้วย Yumi’s Cells 2 ซึ่งโด่งดังในหมู่วัยรุ่นและคนทำงาน เนื่องจากเล่าเรื่องความรักและการใช้ชีวิตอย่างละเมียดละไม ในขณะที่ผู้เขียนบทคือ พัคชีฮยอน จาก Run On ซีรีส์ที่ได้รับคำชมในเรื่องการถ่ายทอดบทสนทนาที่ละเมียดและการสร้างตัวละครที่สมจริง เมื่อทั้งสองคนมาร่วมกันทำงานใน My Youth จึงเป็นเหมือนการการันตีว่า ซีรีส์เรื่องนี้จะไม่ใช่แค่รักโรแมนติกธรรมดาที่หลายๆคนเคยเดาได้แน่นอน ✦ 5. เล่าเรื่องกระชับใน 12 ตอน แต่ครบทุกอารมณ์ อีกหนึ่งจุดแข็งของ My Youth คือจำนวนตอนที่กำลังพอดี—เพียง 12 ตอน แต่ทุกตอนอัดแน่นไปด้วยเหตุการณ์สำคัญ เน้นความสัมพันธ์และพัฒนาการของตัวละครมากกว่าการยืดเรื่องให้ยาวเกินจำเป็น ออกอากาศสัปดาห์ละสองตอน ทำให้คนดูสามารถติดตามต่อเนื่องและไม่รู้สึกขาดตอน จังหวะการเล่าเรื่องแบบนี้เหมาะกับผู้ชมยุคใหม่ที่ต้องการความเข้มข้น กระชับ แต่ก็อยากซึมซับความละเมียดของความรักในแบบที่ค่อยๆเติบโตไปพร้อมกับตัวละคร My Youth วัยเยาว์ของสองเรา ไม่ใช่เพียงซีรีส์รักโรแมนติกที่ขายเสน่ห์พระเอก–นางเอก แต่คือเรื่องราวที่สะท้อนการเติบโต ความทรงจำ และ การหวนกลับไปหาความรักที่เคยหล่นหายระหว่างทาง ใครที่กำลังมองหาซีรีส์ที่จะทำให้หัวใจอบอุ่น พร้อมตั้งคำถามถึงการเลือกของวัยหนุ่มสาวและความหมายของ “รักแรก” ซีรีส์เรื่องนี้คือคำตอบที่ใช่ที่สุดในปี 2025 รอติดตามได้ที่ VIU ค่ะ ขอขอบคุณ @JTBC DRAMA ภาพปก ภาพที่ 1/2/3/4/5 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !