รีเซต

4 ประโยคสุดประทับใจจากซีรีส์ "It’s Okay To Not Be Okay" ที่ทำคนดูน้ำตาคลอ

4 ประโยคสุดประทับใจจากซีรีส์ "It’s Okay To Not Be Okay" ที่ทำคนดูน้ำตาคลอ
Jeaneration
9 สิงหาคม 2563 ( 16:30 )
3.9K
1

ข่าวสารวงการซีรีส์ It’s Okay To Not Be Okay

นับว่าเป็นซีรีส์เกาหลีที่สร้างความประทับใจให้กับคนดูทั่วโลกได้เป็นอย่างดี สำหรับซีรีส์ "It’s Okay To Not Be Okay" ที่มาพร้อมกับแนวดราม่าแฟนตาซีที่สอดแทรกประเด็นละเอียดอ่อนเชิงจิตวิทยา ที่ในท้ายที่สุดกลายมาเป็นเรื่องราวที่ช่วยเยียวยาและบรรเทาทุกข์ที่ส่งต่อมาถึงคนดูได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

ในตอนนี้ซีรีส์ได้มาสู่ช่วงเวลาการปิดฉากสุดท้าย แม้ว่าจะไม่ใช่ซีรีส์ที่มีเนื้อหาที่เรียกกระแสจากคนดูได้ง่ายๆ แต่ก็นับว่าเป็นความสำเร็จในการกล้านำเสนอในประเด็นที่แตกต่างไปจากละครเรื่องอื่นๆ รวมทั้งแตะจุดที่ยังไม่ค่อยมีซีรีส์เรื่องไหนเข้าถึงสักเท่าไหร่นัก และยังมาพร้อมกับทีมนักแสดงคุณภาพที่อัดแน่นด้วยอารมณ์และทักษะการแสดงขั้นสูง ที่ทำให้ผลงานชิ้นนี้ออกมาได้น่าประทับใจยิ่งขึ้นทุกตอน

เพื่อเป็นส่งท้ายซีรีส์ It’s Okay To Not Be Okay ได้ย้อนกลับมาทบทวนมุมมองและแนวคิดต่างๆ ของตัวละครทุกตัว ทำให้ได้เห็นถึงปัญหาที่พวกเขาเผชิญ ความลับและคำลวงที่ส่งผลกระทบต่อภาวะจิตใจในการดำเนินชีวิตของพวกเขา ทุกอย่างได้ย้อนกลับไปในคนดูได้สำรวจตัวเองว่า มีอะไรหลายๆ อย่างที่ทุกคนยังบกพร่องแตกต่างกันไปในชีวิตที่ผ่านมา แต่อย่างน้อยๆ มันก็ "โอเค" ที่ผ่านมาได้ด้วยดี คำปลอบใจสั้นๆ อย่าง "โอเค" จึงกลายเป็นคำที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยเลยทีเดียว

และตลอดทั้งเรื่องที่ผ่านมามีอีกหลายประโยคที่ตัวละครได้ถ่ายทอดออกมา แต่มี 4 ประโยคจาก 4 ตัวละครหลักที่ยังตรึงใจและประทับใจอยู่ จึงได้หยิบยกเอาไว้ขยายความอีกสักรอบ

"เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว" - มุนคังแท

เนื้อหาในตอนที่ 13 ของซีรีส์ มุนคังแทได้ปรากฏตัวขึ้นมาที่สตูดิโอถ่ายภาพครอบครัว ร่วมกับ โกมุนยอง และพี่ชายของ มุนซังแท โดยก่อนหน้านั้นทำให้เราได้เห็นมุมมองจากความคิดของเขา ภายหลังจากที่รู้ว่าผีเสื้อลึกลับเป็นใคร และมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาเช่นไร ก่อนจะกลายเป็นประโยคที่ว่า "จากนี้ไปไม่ใช่งาน แต่เป็นเป้าหมายของฉัน การปกป้องครอบครัวโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพัน พอมาคิดๆ ดูก็สุดยอดดีนะ" และเมื่อโกมุนยองถามกลับว่ามีเธออยู่ในนั้นด้วยหรือไม่ เขาก็ตอบว่า "ถ้าถ่ายรูปครอบครัวพร้อมหน้ากันแล้ว ก็ต้องเป็นครอบครัวเดียวกันสิ"

"เหมือนเด็กตรงที่อยากได้ความเอ็นดู" - โกมุนยอง

ในตอนที่ 4 ภายหลังจากที่จัดการพาคนไข้ที่ออกมาป่วนในที่สาธารณะกลับไปโรงพยาบาลแล้ว โกมุนยอง กับ มุนคังแท ได้แวะกินบะหมี่ข้างทาง ก่อนจะเปิดใจคุยกันแบบเปิดใจในช่วงแรกๆ เธอบอกว่าเขายังดูเหมือนเด็กอยู่เลย เมื่อเขาถามกลับมาว่าเขาดูเหมือนเด็กตรงไหน เธอก็อธิบายไปว่า "ตรงที่เหมือนอยากได้...ความเอ็นดู" จากนั้นเราก็ได้เห็น มุนคังแท ในวัยเด็กปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าโกมุนยอง ทำให้คนดูได้เห็นว่าเขาไม่ใช่เด็กที่เคยมีความสุขตอนวัยเด็กเหมือนกับคนอื่นๆ เลย

"ฉันเป็นพี่ชายคนโต ฉันจะดูแลนายเอง" - มุนซังแท

หลังจากที่มุนคังแทได้ค้นพบความจริงเกี่ยวกับแม่ของเขา และโกมุนยองเองก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่แม่ของเธอทำลงไป ทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในภวังค์ของความช้ำใจกับอดีตอย่างหนัก ช่วงเวลานั้นได้มุนซังแทเข้ามาเยี่ยมหาน้องชาย เมื่อเห็นสภาพของน้องแล้วเขาก็โผเข้ากอดอย่างอบอุ่น ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า "นายกลัวเหรอ? แน่สิ..นายคงกลัว โธ่ น้องชายของพี่" ก่อนจะพูดต่ออีกว่า "ฉันจะปกป้องนายเองนะ ฉันเป็นพี่ชายคนโต ดังนั้นฉันเป็นผู้ปกครองของนายนะ"

"ถ้าเหนื่อยเกินไป ก็แค่คิดถึงแต่ความสุขของตัวเองก็พอ" - นัมจูริ

เหตุการณ์หลังจากที่มุนซังแทได้ระเบิดอารมณ์ออกมากลางโรงพยาบาล สร้างรอยร้ายในบาดแผลในใจของมุนคังแทให้ยั้งลึกและรู้สึกผิดกับเรื่องราวในอดีต นัมจูริได้มีโอกาสพูดคุยและปลอบประโลมเขา ด้วยการหยิบยกเอาคำพูดที่พวกเขามักจะพูดกับคนไข้เสมอๆ ว่า "...'ถ้าจะทำให้คนรอบตัวเรามีความสุข เราเองต้องมีความสุขก่อน' เห็นแก่ตัวบ้างก็ไม่เลวร้ายอะไร ถ้าเหนื่อยเกินไป ก็แค่คิดถึงแต่ความสุขของตัวเองก็พอเถอะค่ะ" คำพูดประโยคนี้เป็นแรงต่อเดิมให้มุนคังแทได้กล้าเผชิญหน้ากับพี่ชายและขอให้เขายกโทษให้

Source: Soompi

----------------------------------------------------

>> ดูหนัง ดูซีรีส์ออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<