จบลงไปแล้วสำหรับซีรีส์ "The Good Bad Mother" แม่ดีแม่ร้าย ซึ่ง ในตอนจบ หรือ EP.14 ยังสามารถทำสถิติเรตติ้งสูงสุด ตั้งแต่ได้ออนแอร์มา ทำเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศ อยู่ที่ 12.032% สำหรับ "The Good Bad Mother" นั้น นับว่า เป็นหนังรักอบอุ่นอีกเรื่องหนึ่ง ที่มีหลายรูปแบบความสัมพันธ์ เรียกได้ว่าทำให้คนดู เสียน้ำตาไปแบบไม่รู้ตัวรายละเอียดซีรีส์ชื่อเรื่อง : "The Good Bad Mother"ชื่อภาษาไทย : แม่ดีแม่ร้ายจำนวนตอน : 14 ตอนจบปีที่ออกอากาศ : 2023 (ช่อง JTBC)กำกับโดย : ชิมนายอนนำแสดงโดย : จินยองซุน รับบทโดย รามีรัน (Ra Mi-ran), ชเวคังโฮ รับบทโดย อีโดฮยอน (Lee Do-hyun), อีมีจู รับบทโดย อันอึนจิน (Ahn Eun-Jin), บังซัมชิก รับบทโดย ยูอินซู (Yoo In-soo)ตัวอย่างซีรีส์ "The Good Bad Mother" แม่ดี แม่ร้ายhttps://www.youtube.com/watch?v=wyk2FtMAXfY&t=5sเรื่องย่อ "The Good Bad Mother" เป็นเรื่องราวของแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่ง (จินยองซุน) ที่สามีของเธอได้จากไปแบบมีเงื่อนงำ ก่อนที่เธอนั้น จะคลอดลูกออกมา เป็นเด็กผู้ชาย (ชเวคังโฮ) ด้วยความที่เธอนั้นเสียสามีไปอย่างไม่มีวันกลับแบบไม่ยุติธรรม เธอจึงลี้ยงลูกแบบ “แม่ใจร้าย” ที่เข้มงวดที่กับลูกเพราะไม่อยากให้เขาต้องโตไปเป็นคนยากจนหรือไร้อำนาจ จนสุดท้ายลูกของเธอได้กลายเป็นอัยการ แต่แล้ววันหนึ่งกลับเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ลูกของเธอ ต้องกลายเป็นคนพิการ และสูญเสียความทรงจำ สำหรับผู้เขียนเอง ที่ได้ชม "The Good Bad Mother" จบแล้ว 14 ตอน ต้องบอกว่า ยกให้ซีรีส์เรื่องนี้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องในดวงใจ ของปี 2023 เพราะสร้างออกมาได้ประทับใจ เป็นความรัก ที่แสดงออกมาในรูปแบบ ต่างๆ มีหลายตอนเลยค่ะ ที่ต้องเสียน้ำตา เพราะรู้สึกว่า ความรู้สึกนั้นสมจริง บางทีชีวิตเราๆเองอาจจะมีหลายครั้งที่เจอทั้ง แม่ดี แม่ร้าย ให้ซีรีส์เรื่องนี้ ได้ทบทวนความรู้สึกของตัวเอง แล้วเราจะรักแม่ รักคนในครอบครัวของเรามากขึ้นเริ่มจาก ความรักของ แม่กับลูก คู่แรก จินยองซุน และ ชเวคังโฮ แม่อย่างจินยองซุน ไม่ได้เป็นแม่ใจร้าย เป็นแม่ที่รักลูกมาก แต่เนื่องจากไม่อยากให้ลูกคนเดียวของเธอ เป็นคนยากจน และไร้อำนาจ ความรักที่ให้ลูก จึงได้กลายเป็นความเข้มงวด สร้างให้ ชเวคังโฮ เป็นคนที่มีวินัยในตนเอง ถึงจะกลายเป็นแม่ใจร้ายในสายตาลูกหรือคนรอบข้าง เธอก็ได้แต่อดกลั้น จนได้ภูมิใจเมื่อลูกประสบความสำเร็จเป็นอัยการ แม้แต่ในวันที่ชเวคังโฮ ประสบอุบัติเหตุกลับมา แม่ยังไงก็คือแม่ คอยเป็นกำลังสำคัญ เป็นกำลังใจ ถึงแม้ต้องกลับมาเป็นแม่ใจร้ายอีกครั้ง แต่ถ้าให้ลูกตัวเองได้หายเป็นปกติ ก็ยอมได้ โดยในช่วงที่ชเวคังโฮกลับมารักษาตัวที่บ้าน เหมือนเธอได้มองเห็นความบกพร่องในตอนที่เป็นแม่ใจร้ายอยู่หลายเรื่อง ทำให้ทั้งสอง ปรับความเข้าใจกัน ขอโทษกัน ด้านลูกอย่างชเวคังโฮ ถึงแม้ตอนที่เป็นอัยการ ประสบความสำเร็จ ไม่ได้ลืมว่าแม่รักเค้ามากแค่ไหน เค้าถึงได้มาอยู่จุดนี้ จากคนที่ไม่เคยแสดงความรักกับแม่เลยเพราะโดนกดดันมาตลอด ก็ได้แก้ไขตัวเอง ในวันที่ยังไม่สายเกินไป บทของเรื่องเปรียบไว้ดีมาก ที่เอาตัวละคร เปรียบกับหมู “หมูไม่เคยได้เงยหน้ามองฟ้า มันจะเห็นฟ้าก็ต่อเมื่อมันล้ม” ผู้เขียนมองว่า เหมือนชีวิตของชเวคังโฮ หากไม่ได้เกิดอุบัติเหตุ ก็มองไม่เห็นว่า ชีวิตของตน สวยงามมากขึ้นเพียงไหนที่มีแม่อยู่ข้างๆ คู่ที่สอง บังซัมชิก กับ ครอบครัว อีกครอบครัวหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ถึงแม้ บังซัมชิก จะใช้ชีวิตคนละขั้วกับชเวคังโฮ ไม่ประสบความสำเร็จ ลักขโมยของ ติดคุก และเป็นหนี้สิน แต่ทว่า ครอบครัวของบังซัมชิก เป็นครอบครัวที่ให้โอกาสและช่วยเหลือลูกเสมอ โดยเฉพาะแม่ของเค้า ที่รู้ว่าลูกของตนเป็นคนอย่างไร ก็คอยอบรมตักเตือน และสุดท้ายก็ต้องปกป้องไม่ต้องการให้ใครมาว่าลูกของตนได้ ผู้เขียนมองว่า เหมือนครอบครัวทุกครอบครัว ที่ไม่ว่า ลูกของตนจะเป็นอย่างไร ก็ต้องปกป้องละให้โอกาสอยู่เสมอ เนื้อแท้ของบังซัมชิกเอง ไม่ได้เป็นคนร้ายกาจสุดขั้ว แถมคาแรกเตอร์ตัวละคร ยังทำให้ซีรีส์มีสีสันเรียกเสียงหัวเราะมากขึ้นความรักของหนุ่มสาว อย่าง ชเวคังโฮ และ อีมีจูตัวพระนางของเรื่อง ผู้เขียนมองว่า เป็นความรักที่ซัพพอร์ตกันและกัน ถึงแม้จะมีเรื่องที่เป็นเหตุให้ต้อง แยกจากกันในตอนแรก แต่เมื่อเรื่องคลี่คลาย ก็ได้มีโอกาสปรับความเข้าใจ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริง คนสองคน หากมีเรื่องก็ต้องพูดคุยและปรับความเข้าใจกัน ให้อภัยซึ่งกัน ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาไปพร้อมกันความสัมพันธ์ที่แสนจะจริงใจ ของคนในหมู่บ้านปิดท้ายกับความสัมพันธ์ที่แสนจะจริงใจ โดยผู้เขียนมองว่า คนในหมู่บ้านโจอูรี เป็นความสัมพันธ์ที่ให้ใจกันมาก ซึ่งทีแรกคนในหมู่บ้านก็รวมตัวกันขับไล่จินยองซุน ไม่ให้อยู่ในหมู่บ้าน เพราะไม่อยากให้มาทำฟาร์มหมูที่ทั้งเหม็นและสกปรก แต่ท้ายที่สุด เมื่อทุกคน เปิดใจ มีความจริงใจให้แก่กัน ก็เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่เข้าใจ ช่วยเหลือกัน ถ้า ชีวิตจริงเราได้ไปอยู่ในหมู่บ้านโอจูรี ผู้เขียนคิดว่าเรานั้นโชคดี และต้องมีความสุขมากแน่ๆค่ะ โดยสรุปแล้ว ผู้เขียนนั้นเชียร์ให้ ทุกคนได้ดู "The Good Bad Mother" แม่ดีแม่ร้าย เพราะทำให้เห็นปรัชญาชีวิต และมุมมองความรักในหลายๆด้าน “ในเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้น มักจะมีเรื่องที่ดีเกิดขึ้นด้วยเสมอ” ลองติดตามรับชมกันนะคะ แต่ตอนดู อยากให้เตรียมทิชชู่เอาไว้ด้วย เพราะอาจจะเสียน้ำตาด้วยความซึ้งใจ หลายฉากหลายตอนเลยทีเดียวค่ะเครดิตภาพ ภาพปก ( จาก Facebook : JTBC Drama )ภาพที่ : 1 // 2 // 3 // 4 // 5 // 6 // 7 ( จาก Facebook : JTBC Drama )วีดีโอตัวอย่าง จาก Netflix K-Contentคอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน