รีวิวหนัง "Kung Fu Panda 4 กังฟูแพนด้า 4" จุดประกายครั้งใหม่กับคำคมแน่นเหลือเกิน
Jeaneration
7 มีนาคม 2567 ( 12:00 )
5K
ก็นับว่าเป็นเวลากว่า 15 ปีแล้วที่โลกได้รู้จักมักคุ้นกับเจ้าแพนด้าตุ๋ยนุ้ยที่เป็นสุดยอดนักรบ หนังแอนิเมชันที่เราคิดว่าไม่น่าจะมีต่อแล้ว ตามกระแสและความนิยมที่เจือจางไปในช่วงทศวรรษก่อน แต่กลับมีการสานต่อลมหายใจและปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้งใน "Kung Fu Panda 4" ท่ามกลางเทรนด์ฮอลลีวูดที่มักจะหวนกลับไปแตะต้องแฟรนไชส์เก่า ๆ ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง และนี่ก็เหมือนจะเป็นการจุดประกายรอบใหม่ ที่พวกเขาอาจจะตั้งความหวังเป็นไตรภาคใหม่...หรือเปล่า?
สำหรับเรื่องราวใน Kung Fu Panda 4 นั้น อาโป นักรบมังกร ที่หลังจากทำหน้าที่ปกป้องยุทธจักรและบ้านเมืองอย่างต่อเนื่องหลายปี ก็ถึงเวลาที่เขาจะต้องหาผู้ที่จะมาสืบทอดตำแหน่งอันสูงส่งของเขาต่อไป แต่เพราะข่าวลือเกี่ยวกับ กิ้งก่าแปลงกาย ที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์ชนิดไหนก็ได้ ความโลภของนางต้องการไม้เท้าแห่งปัญญาที่อาโปครอบครองอยู่ ทำให้ความสั่นคลอนครั้งนี้เป็นการผจญภัยครั้งใหม่กับ เจิน จิ้งจอกสาว กลายเป็นคู่หูคู่ตลกนี้จะต้องจับอุ้งเท้าร่วมงานกัน
โดยในภาคนี้แม้ว่าจะยังคงอยู่ใต้ชายคา ดรีมเวิร์กส์ แอนิเมชัน เหมือนเคย แต่ทีมงานส่วนใหญ่ก็ปรับเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ หลักก็คือได้ผู้กำกับคนใหม่มารับหน้าที่ นำโดย "ไมค์ มิตเชลล์" จากหนัง Trolls ภาคแรก ที่มาคู่กับนักแอนิเมเตอร์หญิงไฟแรง "สเตฟานี สไตน์" ผู้เคยอยู่เบื้องหลังงานสร้างในหนังดัง ๆ อย่าง Raya and the Last Dragon กับ How to Train Your Dragon 3 ได้มีโอกาสมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับสร้างหนังใหญ่เป็นเรื่องแรก
ทางด้านงานสร้างสามารถไว้วางใจได้เลย เพราะการทิ้งช่วงห่างไปจากภาคที่แล้วถึง 8 ปี ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีฝั่งแอนิเมชันก็พัฒนาสร้างขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ Kung Fu Panda 4 เหมือนกับฉบับอัปเกรดขึ้นจากไตรภาคที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังค่อนข้างคลุมโทนกับแวดล้อมที่คุ้นเคย แต่งานโปรดักชันและรายละเอียดในการสร้างยิบย่อยออกมาเป็นแอนิเมชันสวนระยิบระยับให้เรื่องนี้ ทำออกมาได้ดีใช้ได้ แม้ว่าจะเป็นการ์ตูนจ๋า ๆ อยู่มากก็ตาม
ซึ่งใน Kung Fu Panda 4 ภาคนี้ก็ยังคงได้คู่หูมือเขียนบทคู่เดิม "โจนาธาน อัลเบล" กับ "เกลนน์ เบอร์เกอร์" กลับมารับหน้าที่ พ่วงด้วย "ดาร์เรน เลมเก" จากหนังชุด Gossebumps มาช่วยตบมุกต่าง ๆ ให้ คงจะต้องบอกว่าอรรถรสของบทหนังก็ยังค่อนข้างคงเส้นคงวาเหมือนเคย ด้วยความที่ได้คนเก่ามาสานต่อ ทำให้พวกรอยเชื่อมรอยต่อต่าง ๆ ถูกผสานกันด้วยดี เพียงแต่ว่าแนวทางในการพัฒนาบทนั้น อาจจะไม่ได้มีมากมายอะไรขนาดนั้น
อาจจะบอกได้ว่า Kung Fu Panda 4 ก็ยังคงเป็นหนังที่มีโครงเรื่องและเรื่องราวที่ดูได้เพลินสนุกทีเดียว แต่มันอาจจะยังไม่ได้มีจุดไหนที่ทำให้รู้สึกว้าวออกมา เป็นได้แค่เพียงหนังใหม่ภาคใหม่เรื่องหนึ่งแค่นั้นเอง คงเพราะว่าอาจจะเพลย์เซฟในตัวเองไปสักหน่อย แต่กระนั้นพวกเขาก็รู้วิธ๊ที่จะดึงเสน่ห์ของตัวเองออกมาสร้างปฏิกิริยาของคนดูได้เรื่อย ๆ บนพื้นฐานว่าสูตรสำเร็จเก่า ๆ
กลายเป็นว่าเมื่อเดินทางมาถึงภาคที่ 4 ก็ทำให้ Kung Fu Panda เป็นจักรวาลหนังที่ยิ่งใหญ่และขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ นั่นจึงทำให้ภาคนี้มีการเพิ่มเติมตัวละครใหม่ ๆ เข้ามาสมทบ แต่ใด ๆ "แจ็ค แบล็ก" ก็ยังคงรับหน้าที่ให้เสียงเป็น อาโป ได้อย่างคล่องแคล่วและรู้จังหวะที่จะสร้างเสน่ห์ของตัวละครนี้ได้เป็นอย่างดี ถึงจะเอาเข้าจริง ๆ พลังซุปตาร์ในตัวเขาในยุคนี้ก็อาจจะแผ่วบางลงไปแล้วด้วยซ้ำ แต่เขายังขับพลังมันออกมาได้ดี
Kung Fu Panda 4 ปิดฉากไปด้วยความยียวนกวนอารมณ์ตามสไตล์ ด้วยการคัฟเวอร์เพลงดังอมตะ ...Baby One More Time ถูกนำมาใช้เป็นเพลงประกอบในหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการส่งท้ายได้อย่างเพลิดเพลินดี แม้ว่าโดยภาพรวมนั้น ปฏิกิริยาต่าง ๆ ที่มีกับหนังอาจจะยังส่งไปได้ไม่ค่อยสุดทางเท่าไหร่ หนังยังค่อนข้างอยู่ในเซฟโซนมากไปสักหน่อย แต่อย่างน้อย ๆ ก็ยังทำออกมาได้ดีความมาตรฐานของตัวเอง
ถ้าว่าคุณเคยดูมา 3 ภาคก่อนหน้านี้แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องพลาดดูหนังภาคที่ 4 แน่ ๆ ถึงมันจะยังไม่ใช่ภาคโปรดหรือหนังแอนิเมชันเรื่องประทับใจที่สุดอะไร แต่หนังก็รู้จักตัวเองดีว่าจะลำเลียงเรื่องราวออกมาเช่นไรให้ยังเอ็นจอยได้อยู่ และที่สำคัญ Kung Fu Panda 4 ได้กลายเป็นหนังการ์ตูนที่อัดแน่นไปด้วยคำคมสอนใจเอาไว้เป็นเล่ม ชนิดที่น่าจะคัดลอกตำราคำคมมายัดเอาไว้ทุก 5 นาทีของหนังเลยก็ว่าได้ หนังอะไร...คมจริง ๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: Kung Fu Panda 4 กังฟูแพนด้า 4
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa