แตงโม เปิดใจทุกข่าวทุกกระแส ใน รายการแฉแต่เช้า

            ผ่านพ้นทนฝ่าไปได้ทุกกระแสข่าวด้วยความแข็งแกร่งจริงๆสำหรับนักแสดงสาว “แตงโม-ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” โดยเฉพาะหลังจากตัดสินใจร่วมชีวิตกับนักร้องนักแสดงขวัญใจประชาชนจากเวทีบ้านดาวอย่าง “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์”  โดยประกอบพิธีตามศาสนาคริสต์ไปแบบอบอุ่นและปิดข่าวเงียบไปเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม2556 จนกระทั้งถึงวันนี้ทั้งคู่ก็ใช้ชีวิตฉันสามี-ภรรยาร่วมกันมาปีกว่าๆแล้ว ถึงแม้จะถูกโจมตีทั้งความเหมาะสมที่ไร้การร่อนการ์ดเชิญแขกผู้ใหญ่และเพื่อนในวงการจนกลายเป็นกระแสดราม่ายืดยาวจนถึงทุกวันนี้ แต่ทั้งคู่การฟันฝ่ามาได้และยังคงยืนหยัดอยู่ในวงการบันเทิงกันได้

          แต่ด้านกระแสต่อต้านก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่องทั้งความชังความโกระที่เกิดขึ้นในกลุ่มแฟนคลับของฝ่ายชายที่ไม่เห็นตัวจนก่อให้เกิดเพจแอนตี้มากมายนับ10เพจและการถูกโจมตีในพื้นที่ส่วนตัวของฝ่ายหญิงอย่างในIG ที่ก็ทำให้เกิดข่าวอย่างที่ได้เห็นกันหลายครั้งและที่ล่าสุดกับการโคจรกลับมาเจอกันทำให้แฟนคลับใจชื้นสำหรับแก๊งค์อสรพิษ “โตโน่-ริท” ล่าสุดสาวแตงโมกลับขึ้นอินสตาแกรมพร้อมโพสท์ข้อความแนวน้อยใจว่า “เหนื่อยไหมแตงโม ที่เทอต้องรับมันอยู่เพียง ฝ่ายเดียว” แต่กลับถูกบุคคลนิรนามมาคอมเม้นต์เหน็บใต้รูปภาพจนเกิดการโต้เถียงไปมา หลายคนจึงสงสัยว่าเหตุใดสาวแตงโมถึงดราม่าโพสท์ข้อความเชิงเสียใจลงอย่างนั้น วันนี้ในรายการ“แฉแต่เช้า” ออกอากาศสดทางทีวีดิจิตอลช่องGMM25 เวลา08.00-09.00น.เลยอยากขอมาเคลียร์และชี้แจงทุกประเด็นกับมรสุมชีวิตที่ผ่านมาจะว่าอย่างไรบ้างไปพูดคุยกับเธอกัน

รู้สึกอย่างไรบ้างที่มาเป็นแขกรับเชิญแฉแต่เช้าเป็นครั้งแรก?

           “ก็ตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบนี้ก็เป็นครั้งแรก จริงๆก็โดนจีบมาซักพักนึงแล้วหละ แต่ด้วยความที่มันเช้ามาก และก็ไม่ค่อยจะว่างช่วงนี้พึ่งปิดกล้องไป ก็ดีใจมากเลยค่ะที่ได้มา สนุกมากแล้วก็คิดจากที่บ้านแล้วว่าคงไม่ต้องเตรียมคำตอบอะไรมาก เพราะว่าเท่าที่เคยดู และจากที่โน่เคยเล่าให้ฟัง เตรียมคำตอบอะไรมาไม่เคยได้ตอบเลยนอกเรื่องกันตลอดเวลา ก็เลยคิดว่าเหมือนมาเล่นกับเพื่อน เหมือนมาอยู่บ้านอะไรแบบนี้ค่ะ”

ก็เรียกได้ว่าเป็นตัวของตัวเอง? 

           “ใช่ สบายๆ ก็ฮาๆกันไป”

ชีวิตที่ผ่านมาต้องเจอกระแสข่าวตลอดเวลารู้สึกยังไงบ้าง? 

          “ก็ถือว่าช่วงนี้เบามาก ช่วงปีที่แล้วจะหนักกว่านี้เยอะ ตอนนี้ถือว่าชีวิตปกติ แฮ๊ปปี้ค่ะ ก็ค่อนข้างที่จะสมบูรณ์แบบในทุกๆด้านนะ”

ช่วงหลังมานี้ทั้งโตโน่และโมมีงานเยอะเลยเหมือนไม่ค่อยได้เจอ? 

           “ใช่ๆ มันก็เป็นกราฟชีวิตนะคะบางช่วงที่เราต้องไปมีครอบครัว บางช่วงที่เราพักผ่อน บางช่วงที่เราทำงานหนัก มันก็จะเป็นวัฐจักรของมนุษย์แหละ”

ช่วงนี้ปิดกล้องแล้วได้เจอกันมากขึ้นไหม? 

           “อยู่บ้านเดียวกันมันเจอกันทุกวันอยู่แล้ว”

แล้วได้คุยกันบ้างไหม? 

            “คุยซิ ไม่ได้โกรธกัน ก็ปกติค่ะก็เหมือนทุกๆครอบครัวทั่วๆไป เพียงแต่ว่าอาจจะมีเวลาสั้นหน่อยเท่านั้นเอง แต่ว่ามันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เพราะว่ามันก็อยู่บ้านเดียวกันอะ”

ล่าสุดที่มีคนเข้ามาคอมเม้นท์ในอินสตาแกรมเรามีการตอบโต้บ้างไหม?

            “ก็ไม่ขอพูดถึงละกัน มันไร้สาระมากเลย”

มีคนจับผิดเราในอิสตาแกรมบ่อย? 

             “ไม่นะ เมื่อก่อนหนักกว่านี้เยอะ เมื่อก่อนเป็นเพจแอนตี้เลยแหละ แต่ว่าเพจแอนตี้เขาก็ปิดไปแล้ว ในไอจีโมมีแต่เรื่องราวดีๆทั้งนั้นเลย ใครอยากได้กำลังใจหรือข้อคิดในการทำงานไปดูไอจีโมได้เลย”

ทุกวันนี้จะโพสต์อะไรต้องระวังตัวขึ้นมั้ย? 

          “โมไม่ต้องระวังตัวมาก เพราะโมพัฒนาจากข้างใน คือการลงของโมไม่มีพิษมีภัยจากจุดประสงค์อยู่แล้ว”

ยังไปโบสถ์ทุกวันอยู่มั้ย? 

         “โบสถ์มีเฉพาะวันอาทิตย์ (หัวเราะ) มีสามัคคีธรรมวันอังคาร พระคัมภีร์วันพฤหัสบดีค่ะ ไปแน่นค่ะ”

ตอนนี้มีละครกี่เรื่องที่ต้องถ่ายทำ?

        “เหลืออีก 2 เรื่องค่ะ รอออนแอร์ก็ 3 เรื่อง”

จะมีงานคู่โตโน่บ้างมั้ย? 

          “ตอนนี้ยังค่ะ เพราะว่าเราต้องต่างคนต่างทำงานของตัวเอง แค่งานเดี่ยวที่ต้องทำยังหาเวลายากมากๆเลยอ่ะ งานคู่ก็น่าจะยากหนักเข้าไปอีก”

ช่วงนี้โตโน่เดินสายออนทัวร์โปรโมทซิงเกิ้ลใหม่ ได้กลับบ้านบ้างมั้ย? 

          “มีตลอดอยู่แล้วค่ะ อย่างงานจ้างก็จะมีคอนเสิร์ตหลายๆที่อยู่แล้วทั่วประเทศค่ะ”

ที่มีข่าวตกอับเป็นเพราะว่าเราไม่ได้เล่นละครช่องฟรีทีวีแล้ว? 

          “ใช่ค่ะ อาจจะมีส่วน เพราะว่าความแรงในการโปรโมทของฟรีทีวีมันจะมีอิทธิพลต่อข่าวมากกว่าช่องอื่นๆ เพราะฉะนั้นถ้าเราหายไปจากสื่อไม่ได้รับการอัดโปรโมทมากๆ มันก็ดูเหมือนเราจะหายไป เพราะว่าอย่างโมเองโมพัฒนาตัวเองมากขึ้น ข่าวอะไรที่มันประหลาดๆมันก็หายตามไปด้วย คนก็เลยรู้สึกว่าโมหายไปรึเปล่า แต่จริงๆแล้วโมทำงานหนักทุกวัน มันหนักมากกว่าตอนที่โมอยู่ช่องฟรีทีวีซะด้วยซ้ำ มันเหนื่อยแบบเหนื่อยจริงๆ”

มันก็ยังมีงานอยู่ทุกวัน? 

         “ใช่ แต่ก็แฮปปี้คือเหนื่อยแต่เราก็มีความสุขกับการทำงาน เป็นประสบการณ์ใหม่ๆที่ได้ร่วมงานกับทีมใหม่ๆ เราก็ได้วิชาได้ความรู้เยอะขึ้นมาก”

ตอนนี้ไม่มีเพจแอตี้แล้ว มีกำลังใจมากขึ้น มองโลกแง่บวกมากขึ้นไหม? 

            “โมมองโลกแง่บวกแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ถ้าตอนนี้ไม่มีเพจแอนตี้แล้วก็ขอบคุณมากที่เปิดใจ ช่วงที่โมฝ่าฟันถึงเขาจะคอยจับผิดแต่โมเชื่อว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมฝ่าฟันของโมเหมือนกัน เพราะเขาอยู่กับโมในทุกสถานการณ์ เพราะฉะนั้นเหมือนเดินคู่กันมา วันนึงที่เขาอาจจะรู้สึกสงสารโมหรือเปิดใจเข้าใจตัวตนของโมแล้ว การทำลายร้างกันมันก็ลดลง ก็ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากขอบคุณจริงๆ แล้วก็ขอบคุณพระเจ้าที่ให้กำลังใจแล้วอยู่ข้างโมมาตลอด ก็ทำให้ทุกอย่างมีแต่เรื่องดีขึ้นเรื่อง”

ล่าสุดข่าวแก๊งอสรพิษเราออกมาระบายความในใจเหนื่อยไหม มันเพราะอะไร? 

           “พอดีว่าในข่าวเขียนว่าเป็นโมฝ่ายเดียวที่ไม่เชิญเขา แต่ในความเป็นจริงเราทั้งคู่ได้ตกลงร่วมกันที่จะไม่เชิญ แต่พอเวลาข่าวออกกลายเป็นว่าโมฝ่ายเดียว เลยรู้สึกว่าโมอีกและ แต่ไม่ได้คิดอะไรหนัก ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงเป็นเรื่องใหญ่โตมากที่มากล่าวหาฉันแบบนี้ ทั้งๆที่ความจริงคุณพูดไม่หมด แต่ทุกวันนี้โมแบบเหมือนแซวตัวเองมากกว่า มันเป็นคำถามที่โมตั้งเองและตอบเอง แบบเหนื่อยไหมดาวแล้วก็ตอบเองฉันไม่เหนื่อยนะฉันมีพระเจ้า มันเป็นคำถามที่เขียนเองตอบเองเสร็จสับลงไปในไอจี”

แต่ว่าเราไม่ได้ดร่าม่าใช่ไหม? 

“คือถ้าคนที่อ่านจบจะรู้เลยว่าโมให้กำลังใจคนอื่นด้วย แล้วโมก็สนับสนุนแก๊งอสรพิษด้วย”