HO HO HO!!ใกล้เข้าสู่เทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่กันเต็มที เทศกาลนี้จะมีหนังน่ารัก ๆ อบอุ่นหัวใจออกมาเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว เรามาดูกันดีกว่าว่าหนังเรื่องไหนน่าดูต้อนรับ Christmas กันบ้าง ไปกันเล้ยยย!! เริ่มด้วยเรื่อง The Knight Before Christmasขอบอกเลยว่าเป็นหนังที่น่ารักมากมากกกกค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ เซอร์โคล อัศวินจากศตวรรษที่ 14 โดนเวทมนตร์ส่งมาปรากฏตัวในรัฐโอไฮโอยุคปัจจุบันเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ ซึ่งภารกิจนี้จะพาให้ชายหนุ่มได้พบกับโชคชะตาของตนเองและจะได้เป็นอัศวินที่แท้จริง หากแต่ภารกิจต้องสำเร็จก่อนเที่ยงคืนวันคริสต์มาสอีฟ เซอร์โคลก็ได้พบกับ บรู๊ค ครูสอนวิทยาศาสตร์ เธอเป็นคนจิตใจดี แต่เธอไม่เชื่อในเรื่องรักแท้ การพบกันโดยบังเอิญถึง 2 ครั้งทำให้เขาและเธอได้ใช้เวลาตลอดทั้งสัปดาห์อยู่ด้วยกัน แบ่งปันเรื่องราวและมอบความสุขให้กับคนรอบข้างในเทศกาลคริสต์มาส ตอนนี้ชายหนุ่มรู้แล้วว่าโชคชะตาของเขาก็คือเธอนั่นเอง และเธอเองก็รู้แล้วว่ารักแท้นั้นมีจริง เธอต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขา แม้มันแปลว่าเธอจะไม่ได้อยู่กับเขาก็ตาม เมื่อภารกิจสำเร็จก็ต้องกล่าวคำอำลา แต่เขาเลือกที่จะทำตามหัวใจหรือไม่ อยากให้เพื่อน ๆ ลองดูกันนะคะ เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าเราสามารถที่จะหยิบยื่นน้ำใจไมตรีให้กับเพื่อนของเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเก่าหรือว่าเพื่อนใหม่ และใครจะรู้...การสร้างเพื่อนใหม่เราอาจจะได้ความทรงจำที่จะคงอยู่ตลอดไปกลับมาก็เป็นได้ Klaus มหัศจรรย์ตำนานคริสต์มาสเป็นเรื่องที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูแล้วก็จะยิ้มตามค่ะ เรื่องนี้จะเล่าถึงความเป็นมาว่าการให้ของขวัญในวันคริสต์มาสนั้นมีเรื่องราวมาอย่างไร เริ่มกันเลยดีกว่า!! บุรุษไปรษณีหนุ่มที่มีนิสัยขี้เกียจและเห็นแก่ตัว โดนพ่อของเขาส่งมาที่เมืองสเมียเรนส์เบิร์ก เมืองซึ่งหนาวเหน็บ ผู้คนเกลียดกันมาหลายชั่วอายุคน และเขาจะต้องได้จดหมายถึง 6,000 ฉบับในเวลา 1 ปีถึงจะได้กลับบ้าน เขาจึงออกอุบายให้เด็ก ๆ เขียนจดหมายถึงนักทำของเล่น เพื่อขอของเล่น แต่เด็ก ๆ ต้องทำดีเพื่อแลกกับของขวัญในวันคริสต์มาส จากบ้านหนึ่งเริ่มทำดีกับอีกบ้านหนึ่ง จนเมืองนี้กลายเป็นเมืองที่ผู้คนช่วยเหลือกัน เด็ก ๆ ต่างไปโรงเรียน มีตลาดหลังชุมชน เมื่อใกล้โค้งสุดท้ายเขากลับมีความรู้สึกดี ๆ กับผู้คนในเมืองนี้และการส่งของขวัญซะแล้ว แต่ผู้นำของเผ่าทั้งสองไม่ยอมให้เกิดขึ้น พวกเขาวางแผนกำจัดบุรุษไปรษณีและนักทำของเล่น ผู้ส่งมอบของเล่นสุดพิเศษให้กับเด็ก ๆ เมื่อผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มาได้ บุรุษไปรษณีหนุ่มกับนักทำของเล่นก็ส่งของขวัญมากขึ้นเรื่อย ๆ และส่งไปยังเมืองซึ่งห่างไกลออกไป เมื่อวันเวลาผ่านไป 12 ปี วันหนึ่งที่นักทำของเล่นหายตัวไป บุรุษไปรษณีออกตามหาเขาทั่วทุกแห่งหน แต่ไม่พบ การจากกันโดยที่ยังไม่ได้กล่าวคำอำลาทำให้เขาคิดถึงนักทำของเล่นจับใจ แต่เขารับรู้ได้ว่า นักทำของเล่นจะมาแจกของขวัญเช่นเดิมในวันคริสต์มาสของทุกปี เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าให้ทำทุก ๆ สิ่งด้วยหัวใจโดยไม่หวังผลตอบแทนแล้วสิ่ง ๆ นั้นจะก่อเกิดความสุขทั้งกับตนเองและคนรอบข้าง The Polar Express ความเชื่อที่ไม่เคยลืมเลือนเป็นหนังที่นานแล้วแต่ถ้าใครยังไม่เคยดู อยากให้เพื่อน ๆ ได้ลองดูกันนะคะ รถไฟความเร็วสูงที่วิ่งมาถึงหน้าบ้านของเด็ก ๆ ที่กำลังจะหมดความเชื่อมั่นว่า Santa Claus มีอยู่จริง เพื่อพาเด็ก ๆ ไปยังขั้วโลกเหนือ เมื่อรถไฟแล่นมาถึงบ้านของเด็กชายคนหนึ่งที่เขาเองก็เกือบจะหมดความมั่นใจกับคริสต์มาส แม้ตอนเป็นเด็กเขาจะเคยไม่นอนทั้งคืนเพื่อรอซานต้า เกรงว่าเวลาจุดจบของความมหัศจรรย์กำลังจะมาถึง ปีนี้คงจะเป็นปีชี้ขาดของเด็กชาย เขาตัดสินใจกระโดดขึ้นรถไฟไปและเขาได้พบกับเพื่อนใหม่ในการเดินทางครั้งนี้ มีเรื่องผจญภัยเกิดขึ้นมากมาย เขาได้เจอกับวิญญาณที่อยู่บนหลังคารถไฟที่คอยช่วยดูแลเขา ดูแล้วลุ้นมากค่ะ ตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง พลาดไม่ได้จริง ๆ เมื่อรถไฟมาถึงขั้วโลกเหนือ เพื่อน ๆ ของเขาได้ยินเสียงกระดิ่งที่ดังก้องไพเราะและเห็นซานต้ากันหมดแล้ว แต่เด็กชายนั้นไม่ ท้ายที่สุดเด็กชายได้พบซานต้าด้วยความเชื่อมั่นในจิตวิญญาณแห่งคริสต์มาส และซานต้าเลือกให้ของขวัญวันคริสต์มาสเขาเป็นคนแรก เด็กชายขอกระดิ่งลากเลื่อนที่ดังไพเราะเสนาะหูนั้นเป็นของขวัญ คนที่จะได้ยินเสียงกระดิ่งของซานต้าคือคนที่มีความเชื่อมั่นเท่านั้น และเชื่อได้ว่าไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด เสียงกรุ๊งกริ๊งของกระดิ่งนั้นจะดังก้องในหัวใจของเด็กชาย เช่นเดียวกับทุกคนที่มีความเชื่ออย่างแท้จริง The Princess Switch สลับตัวไม่สลับหัวใจเป็นหนังที่คล้าย Barbie ภาค The Princess and the Puaper เพราะมีหญิงสาวที่หน้าตาเหมือนกันถึง 2 คน แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ หญิงสาวคนหนึ่งเป็นถึงดัชเชส เธอชื่อมาร์กาเร็ต ด้วยหน้าที่ของเธอ เธอต้องมั่นหมายกับเจ้าชายรูปงาม ส่วนสาวอีกคน สเตซี่ เป็นนักทำขนมจากชิคาโก เดินทางมาที่เบลกราเวีย เพื่อประกวดแข่งขันอบขนมช่วงวันคริสต์มาส เธอทั้ง 2 ได้เจอกันโดยบังเอิญ ทั้งคู่วางแผนสลับตัวกันในวันคริสต์มาส แต่ใครจะรู้เล่าว่าเธอจะได้พบเจอกับเจ้าชายของตนเอง แม้ว่าคนหนึ่งจะเป็นหญิงสูงศักดิ์ตกหลุมรักผู้ชายธรรมดา ๆ และเจ้าชายรูปงามก็ตกหลุมรักหญิงสาวนักทำขนม ผู้มีจิตใจเอื้ออารีและคิดถึงคนอื่นอยู่เสมอ เมื่อความจริงเปิดเผยความรักของทั้ง 4 คน 2 คู่นี้ ก็จบลงอย่างสวยงามการพบกัน ไม่มีคำว่าบังเอิญ Let It Snow อุ่นรักฤดูหนาวเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเด็กมัธยมปลายปีสุดท้ายกลุ่มหนึ่งในวันคริสต์มาสอีฟ วันพิเศษที่หลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นกับหลายคน การที่พายุหิมะตกพัดถล่มเมืองเล็ก ๆ นั้นมีผลกระทบต่อคนทั้ง 3 คู่ สต๊วร์ต นักร้องสุดป๊อปที่เดินทางโดยรถไฟในขบวนเดียวกับ จูลี่ ถึงแม้เขาจะเป็นคนดัง เขากลับไม่มีครอบครัวให้ฉลองและไม่ได้มีความสุขมานานแล้ว เพียงแต่ในวันนี้เขารู้สึกดีที่ได้อยู่กับเธอ ในวันเดียวกันนี้ โทบี้ มีอาการคล้ายคนอกหักเพราะแอบรัก แอนจี้ เพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ 5 ขวบ ด้วยความกล้าหาญ เขาก็ได้พูดความในใจออกไป ทำให้รู้ว่าจริง ๆ แอนจี้ก็รักเขาเช่นกัน และหลังจากผ่านการทะเลาะในวันนี้ไป แอดดี้และดอรี่ คู่เพื่อนซี้ ก็รู้แล้วว่า ไม่ว่าใครก็สู้มิตรภาพระหว่างพวกเธอไม่ได้ หนังเรื่องนี้อาจมีเศร้าบ้างเหงาบ้าง แต่สอนให้เรารู้ว่า วันเพียงวันเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ ถ้ายอมรับความต้องการของเราจริง ๆ ว่าเราต้องการอะไรช่วงเวลาแบบนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเดินไปรอบ ๆ และหาสิ่งที่คุณต้องการจริง ๆ หัวใจของเทศกาลคริสต์มาสคือการให้ เราถึงมีการแลกของขวัญ จับฉลาก หนังหลายเรื่องก็บอกเราเป็นนัย ๆ ว่า" อย่าลืมดูแลกันและกัน " เพราะฉะนั้น ไม่ควรมีใครอยู่คนเดียววันคริสต์มาสนะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขในวันคริสต์มาส +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ MERRY CHRISTMAS!!!!