[รีวิวซีรีส์] Emily in Paris ซีซั่น 3 : ดีงามกว่าซีซันไหน เมื่อมี “Shallow” และ “Don’t Start Now” มาอยู่ด้วยกัน
แสนแสบบ้านเราต้องอายกันคราวนี้ เมื่อกลิ่นน้ำเน่าในคลองแซงต์มาร์แตงแห่งมหานครปารีสได้ส่งกลิ่นแรงแซงทุกคลองมาหมดแล้ว เพราะเรื่องราววุ่น ๆ ของสาวน้อย ‘เอมิลี่ คูเปอร์’ (ลิลี คอลลินส์) ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดวุ่นได้ง่าย ๆ ทั้งเรื่องงานและเรื่องความรักที่ต่างมะรุมะตุ้มรุมรักเอมิลี่ แถมด้วยเรื่องราวของ ‘ซิลวี’ (ฟีลิปปีน เลอรัว-โบลิเออ) เจ้านายสายแซ่บและเพื่อนซี้สุดเปรี้ยวซ่าอย่าง ‘มินดี เฉิน’ (แอชลีย์ พัก) กลับมาคราวนี้เรียกว่ายกขโยงกันมาเน่า เอาใจสายละครกันสุด ๆ 10 ตอนดูเพลินและทิ้งท้ายไว้แบบ อะไรกันว้า ..
จากเรื่องราวในซีซัน 2 ที่ ซิลวีและลูกน้องคู่ใจ ลุค และ จูเลี่ยน ก้าวเท้าฉับ ๆ หันหลังให้กับ ‘ชาวัวร์’ มาร์เกตติงชื่อดังแห่งปารีส ที่แทบจะเป็นชีวิตของพวกเขาไปแล้ว ทำให้เอมิลี่ตกที่นั่งลำบาก นั่นก็เพื่อนร่วมงานที่รัก นี่ก็เมดาลีนเจ้านายที่เคารพ แหมมันยากในทุกขั้นตอนการตัดสินใจจริง ๆ แต่คนเรามันก็ต้องเลือกเอาสักทาง ไหนจะชีวิตรักกับ ‘อัลฟี่’ (ลูเชียน ลาวิสเคาท์) หนุ่มแบงก์มาดเข้มจากลอนดอน ที่ทำท่าว่าจะต้องกลายเป็นรักระยะไกล แต่..ถ้าเราทุกคนรู้จักเอมิลี่ดีพอ เราจะรู้ได้ทันทีเลยว่าเรื่องนี้ไม่มีทางที่จะทำให้เอมิลี่ตกที่นั่งลำบาก เพราะพ่อหนุ่ม ‘กาเบรียล’ (ลูคัส บราโว) ยังยืนยิ้มแฉ่งอยู่ทั้งคน ถึงแม้ว่าจะมี ‘คามิล’ (กามีย์ ราซาต์) อยู่ข้างกายแล้วก็เถอะ
ซีซัน 3 ไม่น้อยหน้าเพราะหาจุดว้าวเข้าจนได้
เอาเป็นว่าสำหรับแฟนตัวยงของ ’emily in paris’ ซีซันนี้ไม่ได้ทำให้ผิดหวังกันสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร้องว้าวเอมิลี่เหมือนซีซันแรกที่อะไร ๆ ก็ใหม่ไปซะหมด ทั้งความน่ารักหัวแหลมที่เอมิลี่ได้หว่านเสน่ห์เอาไว้ในซีซัน 1 หรือแม้แต่เรื่องราวความรักที่ซับซ้อนกับหนุ่มใหม่ใจละลายอย่างซีซัน2 เมื่อมาถึงซีซันนี้เราจะเห็นความเติบโตของเอมิลี่ที่นับวันยิ่งจะเป็นขวัญใจฝรั่งเศสชนเข้าไปทุกที เพราะเนื้อหอมไปซะทุกที่และยังหัวแหลมเกินหน้าเกินตาเพื่อนร่วมงานเหมือนเคย จนทำเอาเพื่อนนอยด์และทำท่าว่าจะก่อดราม่าครั้งใหญ่ในซีซัน 4 แน่ ๆ
แต่จุดว้าวที่ผู้สร้างคนเก่ง แดร์เรน สตาร์ ผู้ที่ปั้นซีรีส์ ‘Sex and the City’ จนโด่งดังได้ทำเอาไว้ให้กับซีซันนี้คือเรื่องราวความรักของหลายคู่นี่แหละจ้ะ เพราะซีซันนี้เขาได้พาทุกคนออกจากโลกความรักใบเล็ก ๆ ของเอมิลี่มาสู่โลกความรักของผองเพื่อนและเอมิลี่ จนทำให้เรื่องราวในซีซันนี้ไม่กระจุกอยู่ที่นักแสดงนำเพียงคนเดียว แต่แสงสวย ๆ ได้สาดส่องไปถึงผู้หญิงทุกคนที่เป็นจุดเด่นในซีซันนี้กันเลยทีเดียว และว้าวที่ 1 ในความรู้สึกของผู้เขียนคือ ว้าวคามิล เธอไปเวย์นี้จริง ๆ ใช่มะ
เราจะเรียกว่าซีซันนี้มีความทันสมัยมากขึ้นได้ไหม ก็ย่อมได้ หรือจะเรียกว่าซีซันนี้เปิดรับหัวใจของคนทุกเพศมากกว่า 2 ซีซันที่ผ่านมาได้ไหม ก็ได้อีก เพราะการนำความรักของ LGBTQ มาเล่นเป็นตัวหลักกลับสร้างอรรถรสที่น่าสนใจและน่าเห็นใจไปในคราวเดียวกัน เพราะรักของคามิล หวานใจของพ่อหนุ่มกาเบรียลครั้งนี้ ซับซ้อนยิงกว่าเอมิลี่ตัวเอกของเรื่องเสียอีกจ้ะ หนำซ้ำยังสร้างความประหลาดใจปนสับสนให้ใครหลายคนพะอืดพะอม รวมถึงคนดูที่สุดท้ายก็ต้องรอตอนต่อไปในซีซัน 4 นู่นแน่ะ
มากกว่านั้นซีซันนี้ยังลงลึกไปถึงความรักของสาว ๆ รอบตัวเอมิลี่ ที่ใกล้ชิดดุจคนในครอบครัว เราจะได้เห็นการสะท้อนเรื่องราวความรักของซิลวีเจ้านายสุดเฮี๊ยบของเอมิลี่มากขึ้น เป็นสาวใหญ่ใจเปรี้ยวที่หวานเจี๊ยบกับตากล้องหนุ่มรุ่นน้องแต่ยังไม่หย่ากับสามี เรียกว่าเป็นรักที่หามีความชัดเจนใด ๆ ไม่ แล้วไหนจะความรักของมินดี้เพื่อนเลิฟที่มูฟออนเร็วจี๋ จนมีหนุ่มคนใหม่สายเปย์เข้ามาดามอกเดาะ ๆ แล้วเปย์แรงแซงเพื่อนบ้านชนิดที่สามารถพานั่งเฮลิค็อปเตอร์เมื่อไหร่ก็ได้ถ้ารีบมาก เอาเป็นว่าซีซันนี้ครบเครื่องเรื่องเพื่อนบ้าน และชูให้เห็นว่าชีวิตของเอมิลี่คงฝังตัวตายที่ปารีสนี่แหละ ไม่ไปไหนแล้วจ้ะนายจ๋า
งานคอสตูมไม่มีแผ่ว ยกแฟชันมาทั้งปารีส
สวยสับ สวยเลิศต้องยกให้เอมิลี่ซีซัน 3 ยอมใจแล้วจริง ๆ จ้ะ ส่วนตัวผู้เขียนชอบชุดของเอมิลี่ซีซันนี้มากที่สุด แน่นอนว่าเราไม่ต้องหาความเป็นปุถุชนในการแต่งกายของแก๊งนี้เขาหรอกค่ะ ก็เขามันสาวแฟชั่น จะให้มาธรรมดาเหมือนประชาชนคนเดินถนนไม่ได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ต้องจัดจ้านในย่านนี้ไปเลยจ้า ทั้งเจ้านายลูกน้องไม่มีใครยอมใคร เรียกว่าเปิดตู้เสื้อผ้าออกมาไม่แสบตาให้มันรู้ไปสิน่า
ซีซันนี้เอมิลี่ยังคงครองแชมป์เจ้าแม่ชุดเยอะอยู่เช่นเดิม แต่ความแซ่บความปังในครั้งนี้มีเหรอสาว ๆ ในเรื่องเขาจะยอมกัน เธอแซ่บฉันก็ซ่าเอาสิเอมิลี่ ซึ่งก็กลายเป็นสีสันที่เพลิดเพลินและเป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครของซีรีส์ชุดนี้เขาละค่ะ ที่ทำเอาผู้ชมต่างรอคอยว่าในฉากต่อ ๆ ไปบรรดาหนุ่มสาวแห่ง ชาวัวร์ เขาจะเปิดแคทวอร์กด้วยลุคกันไหนบ้าง และแน่นอนว่าบนเวทีแคทวอร์กที่ว่าได้พ่วงบรรดาเพื่อนสาวของเธอเข้าไปด้วย
ชนิดที่ชาวบ้านชาวเมืองเขาก็ไม่แซ่บกันเบอร์นี้หรอกมั้ง แต่เอมิลี่และผองเพื่อนก็ไม่เคยสนใจใคร ด้วยถือคติที่ว่าคนสวยใส่อะไรก็แจ่ม (หรือเปล่านะ) เรียกว่านางแบบทั้งปารีสยังต้องหลีกทางให้กับพวกเธอ ผู้เขียนเห็นแล้วก็อยากเป็นหนึ่งในคอสตูมของกองละครกองนี้ซะจริง ๆ เรียกว่าสนุกสุดเหวี่ยงแน่ ๆ จะหาละครเรื่องไหนที่แต่งตัวกันได้มันสะใจเท่ากองนี้ไม่มีอีกแล้วในปี 2022 นี้
ชอบที่สุดในเรื่องนี้คือเสียงเพลงของ ‘แอชลีย์ และเควิน’
ซีซันนี้เราไม่พลาดแน่ ๆ ที่จะได้เห็นความสวยงามของมหานครปารีสในมุมมองใหม่ ๆ ทั้งทุ่งลาเวนเดอร์ที่สวยจริงจนอยากจะไปเยือนไอ้ทุ่งนี้บ้างสักครั้ง มุมของหอไอเฟลที่ต้องชมทีมถ่ายทำว่าช่างสรรหาวิธีนำเสนอได้แปลกตาน่ามอง ร้านอาหารมิชิลิน Le Jules Verne ที่ถ่ายทอดได้น่ากินกว่ารีวิวช่องไหน ๆ พิพิธภัณฑ์ Louvre มหาวิหารนอร์ทเธอดาม พิพิธภัณฑ์ป็อบแอร์บอลลูน และอื่น ๆ อีกเป็นพะเรอเกวียน นี่มันซีรีส์นำเที่ยวหรือยังไงกันเนี่ย แม่เจ้า
แต่สิ่งที่น่าประทับใจมากกว่านั้น ขอยกให้เพลงประกอบในเรื่องนี้จากเสียงร้องของ แอชลีย์ พัก สาวสวยผิวแทนเส้นเสียงทรงเสน่ห์ผู้รับบท มินดี้ เฉิน นักร้องสาวสุดแซ็กซี่ของเรื่องนี้ ซีนนี้เอาไปเลย 10 กะโหลก ประทับใจและกินใจแถมยังสื่ออารมณ์ออกมาได้ทุกอนู เมื่อเธอต้องขึ้นเวทีคู่กับ ‘บอนัวต์’ (เควิน ไดแอส) แฟนหนุ่ม สองคนร้องเพลงใส่กัน พร้อมกับสาดใส่ความในใจที่พรั่งพรูเข้าหากัน การตัดพ้อถูกสาดเข้ามาในเส้นเสียงและแววตา โอ้โห สุดบรรยาย แนะนำแบบสุดพลังให้ใครก็ตามที่ยังไม่ได้ดู emily in paris SS3
ถ้าคุณจะไม่ชอบซีรีส์ชุดนี้ ด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม อยากให้คุณหาเวลาช่วงปีใหม่นี้แวะเข้าไปดูซีนสาดพลังของคู่รักนักร้องคู่นี้ แล้วคุณจะบอกว่า เอมีลี่ทั้งเรื่องที่หลายต่อหลายคนบอกว่านี่มันซีรีส์ผู้หญิงน้ำเน่าที่เล่าเรื่องราวรัก ๆ เคล้าแฟชั่นธรรมดา ๆ เท่านั้นเอง คุณจะได้ความคุ้มก็ซีนนี้นี่แหละค่ะ ในซีนนี้เสียงของแอชลีย์ และเควิน ไพเราะและได้อารมณ์วอนแฟน “Shallow” ออริจินัลที่เลดี้กาก้า และแบรดลีย์ คูเปอร์ ได้ขับร้องไว้ใน ‘Star is Born’ แอชลีย์ พัก ร้องโคเวอร์เป็นภาษาฝรั่งเศสคู่กับ เควิน ไดแอส เนื้อเพลงเปลี่ยนแต่อารมณ์ไม่เปลี่ยน และยังคงดิ่งลึกไปถึงขั้วอารมณ์
และอีกซีนที่พลาดไม่ได้คือซีนเปิดตัวมินดี้ในฐานะนักร้องประจำของผับหรูแห่งมหานครสุดไฮโซ ที่มินดี้ได้วาดลวดลายสุดเซ็กซี่เอาไว้ เป็นนางพญาสะท้อนแสง ที่ทำเอาผู้ชมทั้งหน้าจอและในจอตื่นตาตื่นใจไปกับโชว์ของเธอกับ “Don’t Start Now” ของ ‘ดูอา ลิป้า’ ที่ถ่ายทอดเอาไว้ซะแหวกต้นฉบับ กลายเป็นความเซ็กซี่แบบปารี้สปารีส และกลายเป็นความคลาสสิคที่เข้ากับการบรรเลงของวงออร์เคสตราซะเหลือเกิน เดี๋ยวนะ!! นี่มันเอมิลี่อินปารีสหรือมินดี้อินปารีสกันแน่คะ...ท่านผู้ชม