La La Land กับ 3 ข้อคิดที่คุณจะได้รับ "La La Land" หรือ "นครดารา" ภาพยนตร์แนวรักโรแมนติกยอดฮิตตลอดกาลที่ยังคงติดอยู่ในใจของใครหลายคน นำแสดงโดย Ryan Gosling รับบทโดย Sebastian Wilder และ Emma Stone รับบทโดย Mia Dolan เรื่องราวของเรื่องนี้เป็นหนุ่มสาวคู่รักที่ต่างมีความฝันเป็นของตัวเอง Sebastian Wilder มีความฝันอยากเป็นนักดนตรีและ Mia Dolan มีใจรักในการแสดงเธอจึงมีความฝันว่าเธอจะต้องได้เป็นนักแสดง เมื่อเขาทั้ง2ได้พบเจอกัน ความรักจึงได้บังเกิดขึ้น ซึ่งเป็นความรักที่ต่างสนับสนุนความฝันของกันและกัน บทความนี้จะกล่าวถึง 3 ข้อคิดที่ได้จาก "La La Land" จะมีข้อคิดอะไรบ้างมาเริ่มกันเลย เกิดมาเพื่อรักกันแต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อคู่กัน เซบาสเตียนและมีอาต่างมีความรัก ความหวังดี เป็นกำลังใจให้กันเสมอทั้งคู่ต่างช่วยกันผลักดันแพชชั่นของอีกฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามบางครั้งเมื่อเราได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมาครอบครองก็อาจจะต้องเสียอย่างใดอย่างหนึ่งไปเหมือนกับที่ทั้งสองคนประสบความสำเร็จในความฝันของเขาทั้งคู่แต่กลับน่าเสียดายที่เขาไม่ได้อยู่ชื่นชมผลงานของกันและกัน ทำได้แค่เพียงยิ้มให้แก่กัน ย้อนนึกถึงวันเก่าๆและแอบคิดว่าถ้าพวกเขายังคงอยู่ในชีวิตของกันและกันมันจะดีมากแค่ไหน แต่ในชีวิตจริงเมื่อต่างคนต่างมีเส้นทางของตัวเองก็ต้องแยกย้ายจากกันไปเหลือเพียงความคิดถึงเท่านั้นความฝันเป็นสิ่งสวยงามเสมอ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าพระเอกและนางเอกต่างมีความฝันทั้งคู่ พระเอกเป็นคนที่มีความหลงไหลในเพลงแจ็สอย่างมากเขาฝันอยากมีร้านนั่งดื่มชิลๆบรรเลงดนตรีเพลงแจ็สแม้ใครต่อใครต่างบอกเขาให้ล้มเลิกและไปหาสิ่งอื่นทำ เพื่อความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่เซบาสเตียนยังคงไม่ย่อท้อและพยายามในสิ่งที่เขารักต่อไป ส่วนนางเอกมีความฝันอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่เด็กเขาได้รับแรงบรรดาลใจจากน้าสาวของเขา มีอาจึงยอมทิ้งการเรียนเพื่อเอาดีทางด้านการแสดงโดยพยายามแคสงานต่างๆแม้ว่าจะได้เป็นตัวประกอบในหนังบางเรื่องบ้าง แต่หลายครั้งที่เธอแคสงานกลับไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ถึงอย่างไรมีอาก็ยังคงสู้ต่อไปในเส้นทางความฝันนี้ หลายคนมีความฝันเป็นของตัวเอง แต่ไม่กล้าที่จะทำเพราะคิดว่าคงไม่สามารถทำมันได้ ลองเปลี่ยนความคิดใหม่จินตนาการว่าถ้าเราประสบความสำเร็จในความฝันของตัวเองมันจะดีขนาดไหนกันนะ การดื่มด่ำกับความฝันที่เป็นจริงแล้วจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง มันจะหอมหวานและคุ้มกับสิ่งที่เสี่ยงไปขนาดไหน ถ้าเรามัวแต่คิดแต่กลับไม่ทำอะไรเลยความฝันก็เป็นได้แค่ก้อนเมฆก้อนหนึ่งที่ลอยอยู่บนฟ้าสวยงามแต่จับต้องมันไม่ได้ อย่ายอมแพ้ละทิ้งความฝันของตัวเอง แม้ว่าเซบาสเตียนและมีอากำลังทำตามความฝันของพวกเขา แต่ชีวิตมักจะมีบททดสอบมากมายเข้ามาในชีวิตเสมอ เมื่อทั้งคู่ได้คบหาดูใจกัน มีฉากหนึ่งที่นางเอกคุยอยู่กับแม่ทางโทรศัพท์ ทางเซบาสเตียนได้ยินเรื่องที่แม่ลูกคุยกัน แม่ของมีอาอยากให้มีอานั้นได้พบผู้ชายที่มีความมั่นคงในชีวิต เซบาสเตียนจึงยอมทิ้งดนตรีแจ็สไปเข้าร่วมวงดนตรีสมัยใหม่เพื่อให้ตัวเองมีเงิน มีความมั่นคงในชีวิตจนทำให้ความรักของทั้งคู่เกิดปัญหาขึ้นมา ในด้านของมีอาเช่นกัน เขาได้รับกำลังใจจากเซบาสเตียนว่าเขาควรที่จะคิดบทละครของตัวเองและสร้างละครขึ้นมา เมื่อถึงวันแสดงทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เซบาสเตียนไม่มาชมผลงานของมีอา มีผู้เข้าชมเพียงเล็กน้อยและยังตำหนิว่าเธอนั่นแสดงได้ไม่ดีเลย จากนั้นเธอคิดว่าจะยอมแพ้ให้กับความฝันที่ตัวเองพยายามมาถึง6ปี หลายครั้งกับความพยายามไม่ยอมละทิ้งความฝันมักจะมีอุปสรรค์มากมายถาโถมเขามาเหมือนกับคนที่กำลังวิ่งแต่เส้นทางที่วิ่งเต็มไปด้วยพายุ ลม ฝน จนอยากยอมแพ้ให้กับความฝันนี้เสีย เมื่อใดที่ท้อจนแทบยืนไม่ไหวเพียงเราพักและก้าวต่อไป เมื่อเราลงสนามแล้วต้องไปให้สุดถ้าสุดท้ายแล้วมันจะไม่เป็นตามที่ใจหวังแม้จะเจ็บปวดแต่สุดท้ายย่อมได้บทเรียนหรือค้นพบเส้นทางใหม่เพราะมนุษย์นั้นมีโอกาสเลือกเส้นทางที่หลากหลายยกเว้นว่าเราจะยอมแพ้หันหลังให้กับมันเสีย หวังว่าทุกท่านคงจะชอบบทความนี้ถ้าหากว่าใครได้รับข้อคิดอื่นๆสามารถแสดงความคิดเห็นด้านล่างนี้ หรือใครไม่เคยดูหนังเรื่อง La La Land สามารถรับชมได้ทาง Netflix ขอขอบคุณรูปภาพจาก La La Land : ภาพที่1 / ภาพที่2 / ภาพที่3 / ภาพที่4 / ภาพที่5 เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !