Prey (2022) เป็นภาพยนตร์ที่ถือเป็นการกลับมาของแฟรนไชส์ Predator ที่มีความยาวนานหลายสิบปี ด้วยการเปิดตัวในครั้งนี้ ผู้กำกับ Dan Trachtenberg ได้พาเราเดินทางกลับไปสู่ยุคอดีตที่แตกต่างจากภาคก่อน ๆ ที่มักเกิดขึ้นในยุคปัจจุบันหรืออนาคต ภาพยนตร์เรื่องนี้นำพาผู้ชมย้อนเวลากลับไปยัง ศตวรรษที่ 18 ซึ่งมีฉากหลังเป็นพื้นที่ในแถบอเมริกาเหนือก่อนการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรป และเป็นครั้งแรกที่พรีเดเตอร์ต้องเผชิญหน้ากับชนพื้นเมืองอเมริกัน ที่ได้รับการขนานนามว่า Comanche การตัดสินใจนี้ถือเป็นความท้าทายในการปรับเนื้อหาของภาพยนตร์ให้มีความสดใหม่ ในขณะเดียวกันก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของนักล่าจากต่างดาวที่น่ากลัวนี้ไว้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! การคาดหวังจากผู้ชมในภาพยนตร์ Prey นั้นสูงมาก เนื่องจากความสำเร็จและความนิยมของแฟรนไชส์ Predator ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสที่ดีในการขยายจักรวาลของ Predator ด้วยเนื้อหาที่ใหม่และน่าสนใจมากขึ้น ภาพยนตร์นี้จะสามารถทัดเทียมกับภาคก่อน ๆ ของแฟรนไชส์หรือสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมใหม่ได้หรือไม่? มาหาคำตอบไปด้วยกัน โครงเรื่องและการดำเนินเรื่อง เนื้อหาของ Prey (2022) เน้นไปที่การเอาชีวิตรอดและการต่อสู้ของ Naru หญิงสาวจากเผ่า Comanche ที่มุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ความสามารถของเธอในฐานะนักล่า ตัวละคร Naru ถูกถ่ายทอดโดย Amber Midthunder ซึ่งทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการแสดงบทบาทของหญิงสาวที่กล้าหาญแต่ก็เต็มไปด้วยความกลัว เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Naru พบเห็นสัญญาณแปลก ๆ บนท้องฟ้า เธอเชื่อว่าเป็นสัญญาณจากเทพเจ้าและเป็นโอกาสที่เธอจะได้พิสูจน์ตัวเองในฐานะนักล่าที่มีความสามารถ แต่อันที่จริงแล้ว สิ่งที่เธอเห็นนั้นคือยานอวกาศของพรีเดเตอร์ที่มาถึงโลกเพื่อเริ่มการล่า ในระหว่างที่เธอออกล่ากับพี่ชายของเธอและสมาชิกในเผ่า Naru ค่อย ๆ ตระหนักถึงความอันตรายที่มาจากสิ่งที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน การล่าครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเอาชีวิตรอดจากสัตว์ป่า แต่เธอกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังและน่ากลัวเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้ เรื่องราวการดำเนินไปอย่างเข้มข้นและชวนลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ แม้ว่าพล็อตจะค่อนข้างเรียบง่าย แต่การเล่าเรื่องของ Dan Trachtenberg กลับทำให้การล่าและการต่อสู้ระหว่าง Naru และพรีเดเตอร์มีความน่าตื่นเต้นและตึงเครียดตลอดเวลา โดยเฉพาะการนำเสนอฉากการล่าที่เต็มไปด้วยอารมณ์และการสู้รบในแบบดั้งเดิมของเผ่า Comanche ที่ผสมผสานเข้ากับการใช้เทคโนโลยีอันทรงพลังของพรีเดเตอร์ การแสดงและตัวละคร หนึ่งในจุดเด่นที่สำคัญของ Prey คือการแสดงของ Amber Midthunder ในบท Naru เธอเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ความมุ่งมั่น แต่ก็มีความกลัวและความไม่แน่ใจในตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเป็นตัวละครที่น่าสนใจและมีมิติ การที่ Prey เลือกใช้ชนพื้นเมืองอเมริกันเป็นตัวละครหลักทำให้เรื่องราวมีความเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น ภาพยนตร์ถ่ายทอดวัฒนธรรมของชนพื้นเมืองอย่างลึกซึ้ง ทั้งการใช้ภาษา การดำเนินชีวิต และความเชื่อเกี่ยวกับการล่าสัตว์ การต่อสู้ของ Naru ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ยังเป็นการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองในฐานะนักล่าที่แท้จริงในเผ่าของเธอ นอกจาก Naru แล้ว ตัวละครพี่ชายของเธอ Taabe ที่แสดงโดย Dakota Beavers ก็เป็นอีกตัวละครหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ เขาเป็นนักล่าฝีมือดีและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับ Naru ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทำให้เกิดความลึกซึ้งในเนื้อเรื่องมากขึ้น ทำให้การต่อสู้ของ Naru มีมิติที่หลากหลาย การออกแบบพรีเดเตอร์และฉากแอ็กชัน ใน Prey (2022) การออกแบบ พรีเดเตอร์ มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ โดยภาพลักษณ์ของพรีเดเตอร์ในภาคนี้ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับยุคสมัยและสถานที่ที่เกิดขึ้นในเรื่อง ตัวพรีเดเตอร์ในภาคนี้ดูดิบและดุร้ายมากขึ้น เน้นความเป็นนักล่าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการล่าเหยื่อ แต่ยังคงมีลักษณะของนักล่าจากธรรมชาติที่ไม่เพียงแต่พึ่งพาอาวุธเท่านั้น แต่ยังอาศัยสัญชาตญาณในการล่า ฉากแอ็กชันในภาพยนตร์นั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น การปะทะกันระหว่างพรีเดเตอร์กับมนุษย์ชนพื้นเมืองและสัตว์ป่าเป็นไปอย่างดุเดือด และสร้างความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี ผู้ชมจะรู้สึกตื่นเต้นและมีอารมณ์ร่วมกับทุกการเคลื่อนไหวของ Naru และพรีเดเตอร์ โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่ทำให้เห็นถึงความสามารถและความอัจฉริยะของ Naru ในการเอาชนะศัตรูที่ดูเหมือนจะไม่มีทางเอาชนะได้ ธีมและแนวคิดที่แฝงอยู่ใน Prey (2022) Prey ไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพยนตร์แอ็กชัน-ล่าเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกแนวคิดเกี่ยวกับการเอาตัวรอดและการต่อสู้เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ภาพยนตร์นี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และความสามารถในการปรับตัวและพัฒนาของมนุษย์ Naru เป็นตัวแทนของการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองและเอาชนะข้อจำกัดในชีวิตของเธอ นอกจากนี้ ธีมการเป็นนักล่ากับนักถูกล่าก็เป็นหนึ่งในหัวข้อหลักของ Prey ตัวพรีเดเตอร์ในเรื่องแสดงถึงพลังอำนาจที่เหนือกว่ามนุษย์ทุกประการ แต่สุดท้ายกลับถูกเอาชนะได้ด้วยสติปัญญาและการวางแผนอย่างชาญฉลาดของ Naru ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้สติและกลยุทธ์ในการเอาชนะศัตรูที่ดูเหมือนจะไม่มีทางชนะได้ การตอบรับจากผู้ชมและนักวิจารณ์ หลังจากการฉาย Prey ได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากนักวิจารณ์และผู้ชม ด้วยการเล่าเรื่องที่เข้มข้นและฉากแอ็กชันที่ดุเดือด นอกจากนี้ การเลือกใช้ตัวละครชนพื้นเมืองอเมริกันและการถ่ายทอดวัฒนธรรมของพวกเขาก็ได้รับการชื่นชมว่าเป็นการเพิ่มความหลากหลายให้กับแฟรนไชส์ Predator นักวิจารณ์หลายคนยกย่องว่า Prey เป็นหนึ่งในภาคที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์ Predator โดยเฉพาะในแง่ของการเล่าเรื่องที่เน้นการเอาชีวิตรอดและการพัฒนาตัวละครที่มีความลึกซึ้งกว่าภาคก่อน ๆ แม้ว่าจะมีฉากแอ็กชันที่น่าตื่นเต้น แต่ Prey ก็ไม่ลืมที่จะเน้นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครและความสำคัญของวัฒนธรรม บทสรุป: Prey (2022) น่าดูหรือไม่? Prey (2022) เป็นภาพยนตร์ที่น่าจับตามองสำหรับแฟน ๆ แฟรนไชส์ Predator และผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แอ็กชัน-เอาชีวิตรอด การนำเสนอเนื้อเรื่องในยุคสมัยที่แตกต่างออกไปพร้อมกับการผสมผสานวัฒนธรรมชนพื้นเมืองทำให้ภาพยนตร์มีความโดดเด่นและสดใหม่ ฉากแอ็กชันและการออกแบบพรีเดเตอร์ที่ดุดันก็ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ผิดหวัง Prey เป็นการกลับมาที่คุ้มค่าของพรีเดเตอร์ และเป็นภาพยนตร์ที่สร้างความประทับใจทั้งในด้านเนื้อหาและการสร้างบรรยากาศของความระทึกในป่า ตัวอย่างภาพยนตร์ https://www.youtube.com/watch?v=wZ7LytagKlc อ้างอิง ขอขอบคุณภาพจาก Facebook | Predator ตัวอย่างภาพยนตร์โดย 20th Century Studios | Prey | Official Trailer | Hulu ภาพปกโดยผู้เขียน immark | ภาพปก (ภาพประกอบภาพปก จาก Facebook | Predator) ภาพที่ 1, ภาพที่ 2, ภาพที่ 3, ภาพที่ 4, ภาพที่ 5, ภาพที่ 6, ภาพที่ 7, และภาพที่ 8 จาก Facebook | Predator เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !