หลังจากที่ทุกคนได้รับชม Rebel Moon Part 2 มาแล้ว แต่ละคนมีความรู้สึกยังไงบ้าง ลองมารีวิวกับผมหน่อยมั้ยครับสวัสดีทุกๆ คนครับ หลังจากพาร์ทแรกได้ฉายไปเมื่อปลายปีที่แล้ว เดือนนี้ Rebel Moon Part 2 The Scargiver หรือภาคนักรบผู้ตีตรา หนังมหากาพย์ภาคต่อจากผู้กำกับชื่อดังอย่างแซ็ค ชไนเดอร์ (Zack Snyder) ก็ได้ลง Netflix เรียบร้อย ความรู้สึกส่วนตัวผมหลังจากที่ได้ชมทั้งสองภาคไปแล้วนั้น มีความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ยังไง ไปดูรีวิวของผมกันเลยครับตัวอย่างภาพยนตร์https://www.youtube.com/watch?v=KJBmc_NxM9oเนื้อเรื่องย่อ (มีการเปิดเผยบทสรุปของพาร์ทแรกเอาไว้ด้วย)หลังจากที่พาร์ทแรก คอร่า (Kora) และกุนนาร์ (Gunnar) ได้ออกเดินทางไปรวบรวมเหล่านักรบผู้กล้าจากดาวต่างๆ เรียบร้อยแล้ว พวกเขาได้เดินทางกลับมาดาวเวลท์ (Veldt) เพื่อเตรียมตัวต่อกรกับกองทัพของมาเธอร์เวิลด์ (Mother World) ซึ่งนำโดยนายพลโนเบิล (Noble) ศึกปกป้องดวงดาวระหว่างชาวดาวเวลท์กับกองทัพอันยิ่งใหญ่อย่างมาเธอร์เวิลด์จะมีบทสรุปเช่นไร ไปติดตามกันต่อใน Netflix เลยครับความรู้สึกของผมหลังจากได้ชมหนังเรื่องนี้ (อาจสปอยล์เนื้อหาไว้นิดหน่อยนะครับ)หลังจากที่ผมได้ชมหนังเรื่องนี้ไปแล้ว รวมกับเคยชมภาคแรกไปแล้ว สิ่งที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ ก็คืองานภาพที่ยอมรับนะครับว่าสวยหลายๆ ฉาก เพลงประกอบหรือดนตรีประกอบก็เพราะ เข้ากับสถานการณ์ในหนังในช่วงนั้นๆ ได้ดี อีกทั้งนักแสดงแต่ละท่านในเรื่อง พวกเขาก็แสดงออกมาดีตามมาตรฐานครับhttps://x.com/netflix/status/1781427554483589420?s=61&t=Cd9ThqjlqH_p3gUd3APB2Aมีส่วนที่ชอบแล้ว ก็ต้องมีส่วนที่ขัดใจด้วยใช่มั้ยล่ะครับครับ ส่วนที่รู้สึกว่าไม่ค่อยชอบเท่าไร ก็คือตัวหนังหนังเน้นใช้ฉากสโลว์โมชั่นบ่อยเกินไปครับ จนผมรู้สึกว่าใช้ฉากแบบนี้เปลืองไปหน่อย บางฉากมันไม่จำเป็นจะต้องใส่ก็ได้ครับ เลยทำให้พอใส่เยอะไป มันก็เลยชวนขัดใจไปหน่อยครับ แฮะๆส่วนที่ผมรู้สึกเฉยๆ คือพวกเนื้อเรื่องที่รู้สึกว่าพาร์ทนี้จะมีปมหลักๆ อยู่ที่การต่อสู้ป้องกันดวงดาวและฉากต่อสู้รีแมตซ์ระหว่างคอร่ากับนายพลโนเบิลอย่างเดียว แทบไม่มีปมอย่างอื่นเพิ่มเติมเลย ทำให้แอบรู้สึกว่าพาร์ทแรกเนื้อหายังเดินมากกว่านี้ แฮะๆและภาคนี้อาจจะมีการบอกถึงปูมหลังของเหล่านักรบมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้รู้สึกมากพอทำให้เราอินกับตัวละครนั้นๆ ได้ พอถึงฉากที่บางตัวละครจากไป มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอินหรือเศร้ากับการจากไปของตัวละครขนาดนั้นครับและทั้งหมดนี้คือรีวิวความรู้สึกของผมที่มีต่อหนังเรื่องนี้นะครับ ส่วนตัวผมมองว่าหนังเรื่องนี้ งานภาพดนตรีประกอบอะไรต่างๆ โคตรดี นักแสดงก็แสดงตามบทบาทได้ตามมาตรฐาน ส่วนฉากสโลว์โมชั่นเนี่ย ใส่มาเยอะมากจนรู้สึกขัดใจสุดๆ ครับ กับเนื้อเรื่องที่มันไม่ค่อยคืบหน้ามากเท่าไรเทียบกับภาคแรกครับ แต่เอาเป็นว่า ใครที่ยังไม่เคยดูล่ะก็ ผมอยากให้ทุกคนลองไปดูด้วยตัวเองกันก่อน โดยทุกคนสามารถรับชมได้แล้ววันนี้ที่ Netflix ครับขอบคุณตัวอย่างภาพยนตร์จาก Netflix Thailandขอบคุณวิดีโอประกอบจาก Netflixภาพปก : Netflixภาพประกอบที่ 1/2/3/4 : NetflixThบทความหมวดหนังและซีรีส์เรื่องอื่นๆ ของผู้เขียนรีวิว 3 Body Problem (ดาวซานถี่ อุบัติการณ์สงครามล้างโลก) ซีรีส์ไซไฟเรื่องใหม่จากผู้สร้าง Game of Throne รับชมได้แล้ววันนี้ที่ NetflixKyojuro มารีวิว ฟรีเรน คำอธิษฐานในวันที่จากลา (Frieren: Beyond Journey’s End) อนิเมะแนวแฟนตาซีฟีลกู๊ดที่แฝงไปด้วยเรื่องราวสุดลึกซึ้ง ดูได้แล้วที่ TrueID #TrueIDEntertainmentKyojuro มารีวิว สัตว์สยองกยองซอง (Gyeongseong Creature) ซีรีส์แนวไซไฟระทึกขวัญจาก Netflix นำแสดงโดย พัคซอจุน X ฮันโซฮีKyojuro มารีวิว !!! มหาเวทย์ผนึกมาร ซีซั่น 2 (Jujutsu Kaisen SS2) บอกเลยว่าภาพสวย สนุก ชวนน่าติดตาม #TrueIDEntertainmentใครที่ชื่นชอบบทความนี้ ฝากกดแชร์ กดติดตามเพจ ⛰️ ภูเขาเล่าไปเรื่อย ⛰️ ไว้ด้วยนะครับ และถ้าหากใครที่เป็นสายท่องเที่ยว ก็ฝากกดถูกใจและกดติดตามเพจ Kyojuro พาไปหนาย ไว้ด้วยนะครับ ยังมีบทความดีๆ อีกมากมายที่รอเสิร์ฟนักอ่านทุกคนอยู่นะครับ