“กลัฟ คณาวุฒิ” เล่าโมเมนต์เจอกับ “แจ็คสัน หวัง” ปลื้มอีกฝ่ายกดตามไอจี
“กลัฟ คณาวุฒิ” เล่าโมเมนต์เจอกับ “แจ็คสัน หวัง” ปลื้มอีกฝ่ายกดตามไอจี
เป็นที่ฮือฮาเมื่อหนุ่ม “กลัฟ คณาวุฒิ” ได้เผยภาพคู่กับหนุ่ม “แจ็คสัน หลัง” นักร้องดังระดับโลกขณะไปเตะฟุตบอลด้วยกันกับแก๊งเพื่อน โดยล่าสุดหนุ่ม “กลัฟ” ได้ออกมาเล่าโมเมนต์ประทับใจที่ได้ไปเตะฟุตบอลด้วยกัน พร้อมอัปเดตละคร “ดวงใจเทวพรหม”ต้นปีได้ชมแน่นอน
ไปแตะบอลกับพี่ ”แจ็คสัน หวัง” สนุกดีครับวันนั้นเราก็มีโอกาสได้รับเชิญไปคิดว่าเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว ลีลาพี่แจ็คแตะได้นะแตะเป็นอยู่ทีมเดียวกันแล้วแต่ว่าแพ้แต่ก็สนุกดีครับแต่กันขำๆเพื่อสุขภาพกันอยู่แล้วพี่แกก็ไนท์มากดีมาก
ไม่คิดเหมือนกันว่าพี่เค้าฟอลโลว์อินสตาแกรมก็ดีใจมากแล้วขอบคุณมากครับเป็นอีกหนึ่งโมเมนต์หนึ่งที่ประทับใจหลังแตะบอลเสร็จก็มีปาร์ตี้สังสรรค์กันนิดหน่อยมีเรื่องคุยงาน พี่แกว่างแต่แกน่ารักมากหน้ากล้องเป็นยังไงหลังก็เป็นแบบนั้นเลยก็มีชวนคุยเค้าก็จะถามว่าที่ไทยเค้าเล่นเกมอะไรกันบ้างเวลาปาร์ตี้ก็ชวนกันคุยชวนกันเล่นเกมมีสอนเล่นพี่เค้าเล่นจริงจังมากสมมุติใครหลุดแกเอาเลยสนุกสนุกมากก็มีคุยว่ารอบหน้ามีโอกาสว่างนัดเจอกันนัดปาร์ตี้กันผมเป็นน้องชายคนหนึ่งแล้วกันก็ดูแลพี่เข้าดีนะครับมีการชวนคุยแต่พี่เค้าคุยเก่งอยู่แล้วก็คือแบบบางคนไม่ต้องชวนคุยพี่เค้าเป็นคนชวนคุยเองมีคุยเรื่อกีฬาบ้างเรื่องฟุตบอลเรื่องงานพี่ “แจ็คสัน หวัง” เค้าน่าเซี่ยนเรื่องบาสมากกว่า เรื่องคนแซวรูปคู่กับพี่ “แจ็คสัน หวัง” ว่าเราหน้าแดง เป็นช่วงที่เราเริ่มปาร์ตี้ไปแล้วสองถึงสามชั่วโมงเห็นมีคนมาแซวกันเยอะว่าเขินพี่แจ็คหรอไม่ได้เขินครับก็หน้าแดงตามนั้นถ้าไม่ลงรูปนี้ก็คงไม่มีรูปลงแล้วเราเป็นคนเลือดสูบฉีดดี
ด้านละครตอนนี้ถ่ายจบแล้วครับน่าจะได้รับชมกันต้นปีแล้วเหลือตัดต่ออยู่ครับน่าจะใกล้เสร็จแล้วนะครับ ฝากด้วยนะครับตื่นเต้นเพราะเป็นเรื่องแรก อย่างเทพบุตรจุฑาเทพเนี่ยก็ผ่านมาเป็น 10 ปีได้ปีนั้นคือแบบดังมากของเทพบุตรจุฑาเทพเราก็เลยรู้สึกว่าดวงใจเทวพรหม ทำออกมาได้ดีตั้งแต่ตอนแรกก็จะส่งผลต่อตอนที่สองสามสี่ กดดันแล้วก็ตื่นเต้นก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดีเพราะว่าเราทุกคนเต็มที่กันอยู่แล้ว
ส่วนเพลงที่ทำรวมกับญี่ปุ่น ก็ได้ทำเพลงร่วม “Ballistikboyz” กับบอยแบนวงหนึ่งในญี่ปุ่นเราก็เหมือนได้ไปร่วมฟีเจอริ่งก็มีความพิเศษที่เพื่อนเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่น เราได้ร่วมกับศิลปินต่างชาตินี่ก็พิเศษแล้วครับ ก็รู้สึกดีใจ ตอนไปร่วมงานก็ตอนแรกมีกลัว กลัวคุยกัน ด้วยความที่ว่าทั้งวงเค้าก็มีกันเจ็ดคน ผมก็เป็นเด็กผู้ชายไทยคนเดียวที่ไปอยู่ในดงนั้นเราก็จะทำตัวไม่ค่อยถูก เราก็จะตื่นเต้นๆ แต่พอได้เจอทุกคนจริงๆทุกคไนท์มาก ความคาดหวังก็มีระดับนึงก็ให้ทุกคนได้ลองไปฟังกันดู ก็น่าจะสนุก