“จ๊ะจ๋า พริมรตา” อัปเดตชีวิตหลังแต่งงาน โต้ข่าวลือท้องแล้ว
“จ๊ะจ๋า พริมรตา” อัปเดตชีวิตหลังแต่งงาน โต้ข่าวลือท้องแล้ว
ยังไม่ได้ท้องตามข่าวลือที่ออกมาแต่อย่างใดหลังจากได้จูงมือฝ่ายชายอย่าง “จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว” เข้าพิธีแต่งงานพร้อมจดทะเบียนสมรสเหินฟ้าไปเมื่อวันวาเลนไทน์14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำหรับ “จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม” โดยล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยกับทาง “ดาราเดลี่” ให้ฟังว่า
ก็เหมือนได้ฮันนีมูนในช่วงนี้เจอกันแทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงเพราะไม่ได้ออกไปไหนเลยก็จะอยู่แต่ที่บ้านแล้วมาที่ร้านดอกไม้ส่วนตัวก็มีปรับเยอะจะเป็นเรื่องรายละเอียดเล็กน้อยเช่นเรื่องการกินหรือเวลานอนก็ค่อยๆปรับกันไปยังไม่ชินโดยปัญหาก็มีอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติแต่ไม่ได้มองว่าที่เกิดขึ้นจะใหญ่จนแก้ไขไม่ได้ขำๆความเป็นแม่ศรีเรือนทำกับข้าวให้สามีก็ยังไม่มีมีแต่จะใช้ความเป็นดาราสร้างความบันเทิงชวนคุยชวนเต้นเมาท์ข่าวอะไรแบบนี้มากกว่า
ส่วนข่าวลือที่ว่าท้องแล้วก็ไม่จริงและไม่ได้ถือเคล็ดว่าต้องรอสามเดือนก่อนแล้วจะบอกที่ดูมีน้ำมีนวลสดใสเพราะอยู่บ้านมีความสุขกินทุเรียนขนุนจะกินเยอะยันไม่รู้สึกตกใจหรืออะไรที่ลือว่าท้องแล้วเพราะไม่ใช่ความจริงแต่การที่มีน้องและมีคนให้พรก็เป็นสิ่งที่ดี โดยแพลนก็ปล่อยไปตามธรรมชาติก็พร้อมมีแล้วด้วยเรื่องของอายุและเวลาที่จะทุ่มเทตั้งแต่เขาอยู่ในท้องจนคลอดด้วยรอจังหวะเวลาถ้าไม่มาก็ไม่เร่งจะไปใช้วิธีวิทยาศาสตร์อะไรก็คุยกันทั้งคู่แล้วให้ธรรมชาติจัดสรรมาให้ถ้าเป็นปีนีหรือปีหน้าก็ได้
ด้านสุขภาพก็ไม่ได้ไปในช่วงนี้เลยแต่ทุกวันก็ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการทานวิตามินและอาหารเสริมอยู่แล้ว “พี่จิ๊บ” ก็มีการออกกำลังกายทานวิตามินเรื่องความแข็งแรงไม่ได้ห่วงอะไรรวมถึงไม่ได้เร่งที่จะต้องมีน้องถึงขนาดต้องไปตรวจหรือไปเช็ค ซึ่งครอบครัวก็มีเชียร์ถ้ามีหลานจะได้ช่วยกันเลี้ยงพร้อมเผย “พี่จิ๊บ” มีมุมโรแมนติกอ่อนโยนชอบหนังสือดนตรีและบทกวีเยอะมากจะมีเซอร์ไพรส์เล็กน้อยให้ตนตลอด
สำหรับงานในวงการเบรคหมดเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคิดว่าทุกคนก็หนักเหมือนกันหมดอย่างธุรกิจร้านดอกไม้ jajaflowers_wreath ก็ดีหน่อยเพราะทำเป็นออนไลน์ตอนนี้ก็มีบริการทำเป็นพวงหรีดด้วยแต่อย่างช่อดอกไม้ที่นำไปแสดงความยินดีจากเดิมที่เคยขายได้วันละสิบช่อก็จะเหลือแค่สองสามช่อเลยมีแพลนที่จะขยายไปที่โรงพยาลก็กำลังดำเนินการอยู่เป็นการเพิ่มเป้าหมายที่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันกับพนักงานก็ไม่ได้ลดเงินเดือนแค่มีสลับวันในการทำงานมองว่าถ้าพอมีก็คอยซัพพอร์ตเขาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเพราะช่วงที่มีงานหนักเขาก็ทำให้เต็มที่พอเกิดวิกฤตก็ต้องดูแลเขาเต็มที่เหมือนกัน