Short CommentVenom 2 Let There Be Carnage : เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด (2021)นี่คือภาคสองของตัวละครที่ลูกชายคนเล็กชอบมาก และได้พากันไปดูในโรงมาแต่ไม่แน่ใจว่าทำไมยังไม่ได้เขียนถึง ณ ตอนนั้น กับตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่กึ่งวายร้ายสายพลังเอเลี่ยน เจ้าซิมไบโอตสีดำที่สิงร่างมนุษย์และบริโภคสมองมนุษย์เป็นอาหาร แล้วการขึ้นจอของภาคที่แล้วแม้ว่าจะเป็นหนังที่ดูง่าย สบาย ไม่ได้ซับซ้อนหรือลึกมากมาย แต่กลายเป็นว่าได้ใจ "คนรักหนังตัวเล็ก" ที่ติดอกติดใจ และดูซ้ำอีกไม่รู้กี่รอบอาจเป็นเพราะความง่ายและไม่ต้องคิดมากประมาณนั้นแต่แม้ว่าจะเป็นความง่ายหรือเบาทางมิติไปบ้าง สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือความสนุกและความมันส์ผสมอารมณ์ขันแบบกวนนิดๆ และเดาว่าเป็นประมาณนี้เลยทำให้หนังประสบความสำเร็จทางรายได้จนต้องมีภาคต่อมา ซึ่งก็มาจากการทิ้งท้ายไว้จาก End Credit ในภาคที่แล้ว จนวันนี้มีมาให้ชมแบบคมชัดทาง TrueID มีหรือที่เศรษฐี True Point อย่างผู้เขียนจะพลาด เพราะถ้าเทียบกับหนังบางเรื่องราคาเช่าเรื่องนี้ถือว่าถูกมาก และความสนุกก็ยังคุ้มค่าทุกคะแนนที่แลกไปเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่นักโทษประหาร ฆาตกรต่อเนื่องนามกรว่า Cletus Kasady (Woody Harrelson) ที่ต้องการโอกาสสุดท้ายในชีวิตที่จะบอกเล่าเรื่องราวการสังหารเหยื่อของเขาให้กับนักข่าว Eddie Brock (Tom Hardy) และ Eddie จำต้องให้ความร่วมมือเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่คลี่คลายคดี แต่แล้วการยั่วยุกลายเป็นทำให้ Cletus จู่โจมและกัดมือ Eddie แล้วกลืนซิมไบโอตจากเลือดของ Eddie ลงไปทำให้ Cletus ที่รวมร่างกับซิมไบโอตแล้วกลายเป็นอสุรกาย และแหกที่คุมขังออกมาแล้ววางแผนการเอาคืนใครบางคนร่วมกับ Frances Barrison (Naomi Harris) อดีตรักเก่าขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของ Eddie กับคนรักเก่า Anne Weying (Michelle Williams) ก็มาถึงจุดสิ้นสุด เมื่อ Anne กำลังจะแต่งงาน แต่เมื่อตัวร้ายที่เป็นเหมือนส่วนหนึ่งของ Venom กำลังจะทำเรื่องเลวร้าย และแน่นอนมันต้องมาเอา Anne ไปเกี่ยวข้องด้วยตามสูตร Eddie และ Venom ที่ดูไม่ค่อยลงรอยกันนักก็จำต้องสามัคคีกันเพื่อช่วย Anne และยับยั้งแผนการร้ายของตัวร้ายที่ขนานนามว่า Carnage และบทสรุปก็ไม่ใช่อะไรที่เหนือความคาดหมาย เพราะหนังยังรักษาเอกลักษณ์ของเอกบุรุษไว้อย่างเคร่งครัดด้วยเรื่องประมาณนี้จึงเหมือนกับเรื่องยังคงเดินหน้าไปเป็นเส้นตรง ไม่ต้องซับซ้อนไม่ต้องเล่นท่ายาก หนังยังคงดูง่าย สบายๆ ทำให้ไม่ต่างจากของเดิมถ้าว่ากันที่การเดินเรื่องหรือชั้นเชิง ซึ่งมันก็ไม่ผิดอะไรเมื่อหนังยังคงจัดมาให้แฟนๆได้สมใจ กับการตั้งใจมาขายฮีโร่ตัวร้าย Venom กับตัวร้ายจริงๆอย่าง Carnage ที่คงทำให้สมใจผู้ชมรุ่นเล็ก เพราะเหมือนจะให้เวลากับส่วนของเจ้าเอเลี่ยนนี้สองตนไปพอสมควร และจัดหนักฉากแอ็คชั่นสู้กันของเจ้าสองตนนี้ได้อย่างมันส์สะใจเรียกได้ว่าในส่วนของตัวเรื่อง หนังยังคงซื่อสัตย์ต่อการมาขายความสนุก ความง่าย และอารมณ์ขันแบบกวนๆ ซึ่งมันเหมือนกับการยืนยันตัวตนของหนัง Venom ว่ามันต้องออกมาประมาณนี้ และต้องเข้าใจ แล้วเมื่อมันก็สนุกสมใจใครเล่าจะสน เพียงแต่ภาคนี้ที่ดูดีกว่าเดิมคือเรื่องของมิติด้านความสัมพันธ์ ที่เหมือนเป็นพัฒนาการของตัวละคร Eddie กับ Venom ที่ไม่ใช่ความต่างของมนุษย์กับเอเลี่ยน หรือเจ้าของร่างกายกับผู้อาศัย แต่เป็นมุมมองความคิดที่ต่างกันในการใช้ชีวิตและการปรับตัวเข้าหากัน จนทำให้ Venom กลายเป็นกุนซือหัวใจให้ Eddie จนเหมือนเป็นความกล้าที่ Eddie ไม่มี หากแต่ในส่วนของตัวร้ายกลับกลายเป็นตัวร้ายมิติเดียว ไม่มีอะไรซับซ้อนมากมายเป็นตัวร้ายตามสูตร แม้กระทั่งการเข้าคู่กันของสองคู่รักตัวร้าย ก็ดูไม่ไหลลื่นหรือเห็นมิติอะไร ทั้งที่มันคือกุญแจสำคัญที่ตัดสินผลแพ้ชนะกันด้วยความเข้าใจ เข้าขา และเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์กับตัวประหลาดที่สิงสู่ และนั่นก็ทำให้ตัวร้ายเป็นแค่ตัวร้ายธรรมดา ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ จนกลายเป็นน่าเสียดายเพราะถ้าว่ากันที่จุดเริ่มต้นจากท้ายสุดเมื่อภาคที่แล้ว ที่ดูแล้วมีพลังและน่าจะมีอะไรให้เล่นได้มากกว่านี้แต่เท่าที่มีหนังก็เป็นความสนุกที่ดูได้ทั้งครอบครัว เพราะไม่ได้มีภาพอะไรที่ทำร้ายจิตใจเด็กๆ นอกจากรูปลักษณ์ของเจ้าฮีโร่กับตัวร้ายที่ดูไปก็แหยะๆนิดหน่อย และหนังยังเป็นหนังที่ดูสนุกเหมือนเดิม เพราะตัวตนของหนัง Venom ยังคงออกมาชัดเจน ที่ควรมันส์ก็มันส์ได้ที่ควรเร้าใจจนลุ้นก็มีตามที่หนังต้องการ แถมด้วยมิติตัวละครที่ใส่เข้ามาทำให้เรื่องดูเหมือนเดินไปข้างหน้าไม่หยุดอยู่กับที่ ไม่ใช่ว่าเป็นการเล่าเรื่องซ้ำเก่าเล่าแบบเดิมทั้งหมดและด้วยความสนุกที่หนังมอบให้ก็ยังคงจะมีอนาคตต่อไป เมื่อความสัมพันธ์ของ Eddie กับ Venom ได้พัฒนามาถึงจุดที่ลงตัวแล้ว (มั้งนะ) ทำให้หนังมี End Credit ตอนท้ายที่เป็นความเกินคาดหมาย ผู้ชมต้องอึ้งกันไปและกลายเป็นส่วนที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ส่วนจะเป็นอะไรใครที่ยังไม่ได้ชมก็ลองไปหาชมเอง กับหนังที่ยังดูสนุกอาจดูเหมือนเดิมแต่เริ่มมีมิติให้สัมผัส และน่ารักน่าลุ้นว่าจุดเริ่มต้นที่สานต่อจากจุดสุดท้ายในเรื่องนี้จะไปต่อยังไงทาง TrueID (329 True Point)ดูสนุกแบบไม่ลุกไปไหน โดย ดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก ภาพที่ 1 จาก Instagram Sony Pictureภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 จาก Facebook SF Cinemaภาพที่ 6 จาก Facebook TrueID *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 22 มิถุนายน 2565