จากละคร "บุพเพสันนิวาส" ที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม เมื่อมาสร้างต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่อมา ทั้งเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และเรื่องราวชีวิตของตัวละคร ในละคร "พรหมลิขิต" จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถทั้งทีมงานและนักแสดงว่าจะนำพาละครให้ได้กลับมารับความนิยมได้อีกอย่างไร และที่ท้าทายความสามารถมากเป็นพิเศษก็คือสองนักแสดงหลัก "โป๊ป ธนวรรธน์" และ "เบลล่า ราณี" ที่ต้องมารับบทบาทถึงคนละ 3 ตัวละคร ที่นอกจากจะยากในการแยกคาแรคเตอร์ของตัวละครให้แตกต่างกัน ก็ยังยากที่จะทำให้แฟน ๆ ที่ติดตามละครเชื่อว่าคือตัวละครนั้น ๆ จริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนมารับบทตามเนื้อเรื่องเท่านั้น ดังนั้นเมื่อ "โป๊ป" มารับบทบาท ออกญาวิสูตรสาคร (พ่อเดช), หมื่นณรงค์ราชฤทธา (พ่อเรือง) และ หมื่นมหาฤทธิ์ (พ่อริด) จึงเป็น 3 บทบาทที่น่าสนใจมาก ๆ เรามาเทียบทั้ง 3 คาแรคเตอร์จาก 3 ตัวละครที่ได้รับกันดีกว่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง "โป๊ป ธนวรรธน์" เมื่อรู้ว่าจะต้องมารับบท พ่อเดช, พ่อเรือง, พ่อริด ไปพร้อม ๆ กันในละคร "พรหมลิขิต" ก็เตรียมตัว เตรียมใจอย่างเต็มที่ที่จะเป็นทุกตัวละครให้ดีที่สุด แม้ว่าจะผ่านการแสดงมาแล้วทุกบทบาทจากทุก ๆ งานแสดงที่ผ่านมา แต่เขาก็ไม่เคยเล่นบทฝาแฝดมาก่อน แถมยังต้องเล่นเป็นพ่อของสองแฝด ที่ต้องเข้าฉากร่วมเฟรมไปพร้อม ๆ กันตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และที่สำคัญตัวละครทั้ง 3 คนนั้น คาแรคเตอร์ไม่ได้ฉีกออกไปคนละด้านแบบร้ายไปเลย หรือดีไปเลยจนเห็นได้ชัด แต่จะเป็นตัวละครที่ต่างก็เป็นคนที่มีจิตใจดี ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรายละเอียดของเรื่องราวในชีวิตของแต่ละคน ซึ่งน่าสนใจ และน่าติดตามชมมาก ๆ เรามาเริ่มทำความรู้จักกับทั้ง 3 ตัวละคร 3 คาแรคเตอร์กันเลย....ออกญาวิสูตรสาคร (พ่อเดช)จากบทบาท "พ่อเดช" หรือ "หมื่นสุนทรเทวา" ซึ่งมีชีวิตอยู่ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์แห่งกรุงศรีอยุธยา ในละคร "บุพเพสันนิวาส" เมื่อมาต่อภาค 2 ภายใต้ชื่อ "พรหมลิขิต" นั้น เป็นช่วงรัชสมัยขุนหลวงท้ายสระ พ่อเดชได้รับบรรดาศักดิ์เป็น "ออกญาวิสูตรสาคร" ข้าราชการผู้จงรักภักดีต่อกษัตริย์ ทำงานอย่างซื่อสัตย์เสมอมา มีหน้าที่รับผิดชอบคุมเรือนแพทั้งคุ้งน้ำ พ่อเดชมีลูกชายหญิงกับคุณหญิงการะเกด (เกศสุรางค์) 4 คน คือ หมื่นณรงค์ราชฤทธา (พ่อเรือง), หมื่นมหาฤทธิ์ (พ่อริด) ซึ่งเป็นพี่น้องฝาแฝด และลูกสาว 2 คนคือแม่หญิงแก้ว กับแม่หญิงปราง คาแรคเตอร์ของโป๊ปในบทพ่อเดชซึ่งเป็นคนที่มีบุคลิกหนุ่มมาดเท่ในบุพเพสันนิวาส ในวัยหนุ่มนั้นพ่อเดชเป็นชายหนุ่มที่มีความสุขุมเยือกเย็น ช่างสังเกต รู้เท่าทันคน ทั้งยังเป็นคนที่เข้มงวด จริงจังในหน้าที่การงาน และจริงจังในความรัก ที่จะแสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้าและแววตาภายใต้ท่าทีที่เรียบเฉย แต่เมื่อได้แต่งงานกับหญิงสาวผู้เป็นที่รัก เป็นพ่อลูกสี่ ซึ่งมีหน้าที่การงานที่มั่นคงแล้ว จากที่เป็นหนุ่มมมาดเนี๊ยบอยู่ตลอดเวลา พ่อเดชมีท่าทีที่เปลี่ยนไป เป็นคนที่มีท่าทีสบาย ๆ มากขึ้น เพราะเข้าใจโลก เข้าใจชีวิต เข้าใจลูก ๆ รวมทั้งเข้าใจเมียที่แตกต่างจากผู้หญิงทุกคนในกรุงศรีอยุธยา เราจึงได้เห็นพ่อเดชกับแม่การะเกดในมุมที่หยอกเอินกันอย่างน่ารัก ๆ ตลอดเวลา แต่ก็ยังคงมีคาแรคเตอร์ที่ทำให้เห็นว่าเป็นคนเนี๊ยบ อย่างเช่นฉากที่เห็นพ่อริดแต่งตัวเพื่อไปเข้าวัง ก็จะมาดูแลความเรียบร้อยให้ ทั้งยังเป็นเสาหลักให้ครอบครัวและบ่าวไพร่ได้พึ่งพิงหมื่นณรงค์ราชฤทธา (พ่อเรือง)หมื่นณรงค์ราชฤทธา (พ่อเรือง) มีบุคลิกที่คล้ายพ่อเดชผู้เป็นพ่อ เป็นคนสุขุมนุ่มลึก ใจเย็น คิดและตัดสินใจทุกอย่างด้วยความรอบคอยเสมอ ใช้สติปัญญามากกว่ากำลัง เป็นพี่ชายคนโตที่น้องทั้งสามคนให้ความเคารพรัก ได้รับราชการที่เมืองสองแคว จึงใช้ชีวิตห่างจากครอบครัว แต่ความรักความผูกพันกับทุกคนไม่เคยเปลี่ยนแปลง หมื่นมหาฤทธิ์ (พ่อริด) หมื่นมหาฤทธิ์ (พ่อริด) แฝดผู้น้อง ในวัยเด็กมีความซุกซนมากกว่าพี่ชาย เมื่อเติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีอุปนิสัยร่าเริง มีความเจ้าเล่ จอมวางแผน โดยเฉพาะเมื่อมีใจให้พุดตาลก็คลั่งรัก ขี้งอน ขี้อ้อน แบบสุด ๆ ประสาคนหนุ่มที่รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกอย่างนั้น ยามอารมณ์รักก็หวานละมุน ยามอารมณ์ร้อน ๆ ก็ไฟดี ๆ นี่เอง เป็นคนพูดเยอะ ด่าได้เป็นชุดจนฟังแบบไม่ทัน หน้าที่การงานเป็นข้าราชการในกองพระคลังสินค้า เป็นคนสนิทของสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ ที่เก่งกาจด้านการสู้รบทั้งการใช้อาวุธและมือเปล่าความแตกต่างของฝาแฝด "เรือง-ริด"คาแรคเตอร์ของ "พ่อเรือง" และ "พ่อริด" อย่างที่รู้กันก็คือพ่อเรืองนั้นพูดน้อย มีความเป็นชายหนุ่มที่มีบุคลิกเท่ ๆ เป็นหนุ่มในฝันของสาว ๆ ส่วนพ่อริดจะพูดเยอะ กวน ๆ รู้ว่าตัวเองเป็นชายหนุ่มรูปงาม ประสาคนที่สำรวจความหล่อจากคันฉ่องอยู่เสมอ ๆ จึงบริหารความหล่อได้ดี ส่วนภาพลักษณ์ภายนอกที่สังเกตกันได้ง่าย ๆ ก็คือพ่อเรืองนั้นจะเซ็ดผมเรียบกรี๊บอยู่ตลอดเวลา เสื้อผ้าที่สวมใส่จะเป็นสีโทนเย็นตา ส่วนพ่อเรืองนั้นจะเสยผมทรงสบาย ๆ และเลือกใส่เสื้อผ้าสีโทนร้อน เรียกว่าสไตล์การแต่งตัวก็จะเป็นเช่นเดียวกับอุปนิสัยนั่นเอง3 คาแรคเตอร์ "โป๊ป ธนวรรธน์"สิ่งหนึ่งที่นักแสดงมืออาชีพมุ่งเน้นในสายงานการแสดงก็คือการเป็นนักแสดงที่สามารถแสดงได้ทุกบทบาท ไม่ว่าจะบทดี บทร้าย บทตลก บทดราม่า ฯลฯ และบทหนึ่งที่ท้าทายความสามารถมากที่สุดก็คือ "บทฝาแฝด" เพราะจะได้แสดง 2 คาแรคเตอร์ในภาพยนตร์หรือละครเรื่องเดียวกัน "โป๊ป ธนวรรธน์" ยังไม่เคยรับบทฝาแฝดมาก่อน การมารับบท "พ่อเรือง" และ "พ่อริด" จึงเป็นการแสดงที่ท้าทายความสามารถมาก แต่ก็ยังท้าทายยิ่งกว่าเมื่อต้องมารับบท "พ่อเดช" ซึ่งเป็นพ่อของฝาแฝดเรืองริด และความเป็นพ่อเดชที่เป็นชายวัยกลางคนก็ยังจะต้องแสดงให้แตกต่างจากพ่อเดชในวัยหนุ่มอีกด้วย ซึ่งบทแบบนี้แทบจะเชื่อได้ว่าจะเป็นการแสดงครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตการเป็นนักแสดงของ "โป๊ป" เลยทีเดียว จากที่ได้ติดตามชมมา ก็ได้เห็นแล้วว่า "โป๊ป" เป็นพ่อเดช, พ่อเรือง และพ่อริด ที่มีคาแรคเตอร์เป็นไปตามตัวละครนั้น ๆ จริง ๆ นอกจากสนุกกับการติดตามชมละคร "พรหมลิขิต" ภาคต่อของ "บุพเพสันนิวาส" ละครรักโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ ละครเรื่องนี้ก็ยังทำให้เราได้สนุกกับการติดตามชม 3 คาแรคเตอร์ของ "โป๊ป" ด้วย จากที่นาน ๆจะได้ชมผลงานละครสักเรื่องของ "โป๊ป" มาดูเรื่องนี้ บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ และสำหรับผลงานเรื่องใหม่ จะเป็นอะไรนั้นก็ต้องรอลุ้นกัน แต่ที่แน่ ๆ "โป๊ป" ก็บอกไว้แล้วว่าอยากจะรับบทเป็นนักรบ ในละครแนวกอบกู้อิสระภาพ ซึ่งจะสมความตั้งใจไหม ติดตามกันไปเรื่อย ๆ แต่เราก็อยากจะได้ชมชีวิตของ "พ่อเรือง" ที่เมืองสองแควแบบเต็ม ๆ ทั้งเรื่องเหมือนกันนะคะ ก็พ่อเรืองเป็นหนุ่มหล่อขวัญใจสาว ๆ ซะขนาดน้านนนน #จักรวาลออเจ้า จะมีอะไรให้ติดตามกันอีก ต้องรอต่อไปค่ะทุกคน ติดตาม "โป๊ป ธนวรรธน์" IG :: popezaapขอบคุณภาพจาก ch3thailand / popezaapภาพปก-ภาพที่1 ภาพที่2 ภาพที่3 ภาพที่4 ภาพที่5-7 ภาพที่8 ภาพที่9 ภาพที่10 ภาพที่11 ภาพที่12 ภาพที่13-15 ภาพที่16คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน