รีวิวหนัง "Suk Suk ซุกที่เขา สุขที่ใจ" กับคำถามที่ขึ้นในใจ...แล้วมันสุขจริงๆ หรือ?
วิจารณ์ รีวิวหนัง Suk Suk ซุกที่เขา สุขที่ใจ
สุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้มีหนังเล็กๆ สัญชาติฮ่องกงอยู่เรื่องหนึ่งเตรียมจะลงโรงเข้าฉาย แน่นอนว่า...ผลลัพธ์ของหนังเมื่อออกฉายในบ้านเราจะต้องเงียบเหมือนเป่าสาก ท่ามกลางสถานการณ์ความเงียบเหงาของโรงหนังในยุคนี้อยู่แล้ว แต่ถึงแม้จะรู้ชะตากรรมว่าเป็นหนังที่คนบ้านเราน้อยคนนักที่จะเลือกดู ก็อยากจะเป็นกระบอกเสียงเล็กๆ อีกเสียงว่า "Suk Suk" หรือมีชื่อไทยน่ารักๆ ว่า 'ซุกที่เขา สุขที่ใจ' เป็นหนังที่มีอะไรมากกว่าภาพที่ถูกเคลือบว่าเป็นหนังเกย์...สูงวัย
Suk Suk เป็นหนังนอกสายตาที่ทำหน้าที่ต่อยหนักในด้านประเด็น หนังได้เข้าชิงรางวัลม้าทองคำครั้งล่าสุดถึง 5 สาขา แม้จะไม่ได้รางวัลติดมือกลับบ้านไป แต่ก็ยังถือว่าเป็นหนังที่กล้าจะชูประเด็นที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนต่อสังคม โดยเฉพาะเรื่องราวการยอมรับของกลุ่ม LGBTQ ในสังคมดั้งเดิมของชาวจีน หนังเรื่องนี้ได้กล่าวถึงชายสูงวัย 2 คน ที่พวกเขามีชีวิตผ่านอะไรมากมาย กระทั่งดำเนินมาจึงจุดที่ชีวิตเข้าใกล้บั้นปลายมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และพวกเขาก็เลือกจะปกปิดรสนิยมทางเพศส่วนตัวเอาไว้อย่างลับเฉพาะ
พัค วัย 70 ปี เขาขับแท็กซี่รับจ้างมาเกือบจะค่อนชีวิต และยังปฏิเสธการเกษียณตัวเองออกจากอาชีพ แม้ว่าลูกๆ จะเป็นห่วงเขาอยู่ไม่น้อย แต่วันหนึ่งเขาก็ได้มาพบกับ ฮอย วัย 65 ปี คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว นั่งอยู่ลำพังภายในสวนสาธารณะ ทำให้พวกเขาเริ่มเรียนรู้และเข้าใจถึงรสนิยมเดียวกัน แต่กำแพงหนาที่สุดของพวกเขาก็คือ สถาบันครอบครัว เพราะต่างก็เป็นพ่อคน มีลูก มีเมีย รอคอยอยู่ที่บ้าน แม้ลูกต่างเติบใหญ่ออกเรือนกันไปแล้ว แต่ด้วยวัฒนธรรมของชาวจีน ความกลมเกลียวของครอบครัวต้องเป็นหนึ่ง
ความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่าง พัค กับ ฮอย จึงเป็นเหมือนเพื่อนคุยและเพื่อนคู่คิด นอกจากจะมีกิจกรรมทางกายร่วมกันบ้าง ต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่เขาได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง 2 คน แต่เมื่อต้องแยกจากกัน กลับไปทำหน้าที่หัวหน้าครอบครัวผู้ชราที่บ้าน พวกเขากลับมีอะไรหลายๆ อย่างที่ต้องคิด โดยเฉพาะประเด็น "การใช้ชีวิต" ที่เมื่อพวกเขามองย้อนกลับไปมองดูที่ผ่านมา กลับพบบว่าเขาพลาดอะไรหลายๆ อย่างไปเยอะ ด้วยเพราะตัวเองและความบากบั่นที่ยังยากมีจุดยืนในสังคม
ตลอดระยะเวลาราวๆ ชั่วโมงครึ่งของหนัง Suk Suk ได้มอบอารมณ์ที่เหมือนกับรสชาติ "หวานอมขมกลืน" อยู่ในหลายมุมมอง อีกทั้งยังสามารถแตกใจความและตีความไปถึงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ได้มากมาย แล้วแต่คนดูจะพิเคราะห์แตกต่างกันไป แต่หนึ่งสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อสารออกมาก็คือ "การมองหาสมดุลในชีวิต" และต้องมีความสุขด้วย แต่กว่าจะได้มาซึ่งความสุขส่วนบุคคลนั้น แน่นอนว่าจะต้องแลกอะไรหลายๆ อย่าง ที่บางครั้งก็ไม่กล้าพอที่จะเสี่ยง
ความสดใหม่ของหนังก็คือไม่ได้นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มรักร่วมเพศในช่วงวัยหนุ่มสาว แต่กลับพามาค้นหาในกลุ่มคนที่อยู่ในช่วงบั้นปลายชีวิต ซ้ำยังสะท้อนถึงปัญหาเลื่อมล้ำต่างๆ ที่ยังคงเกิดขึ้นอยู่จากการไม่ยอมรับทางสังคม และที่แน่นอนก็คือสถาบันครอบครัวที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด แต่ในท้ายที่สุด...นี่ก็คือหนังรัก เต็มไปด้วยความรักที่สวยงาม เพียงแต่กว่าที่ตัวละครจะรู้ตัวเองก็ดูเหมือนว่าจะช้าไป
การแสดงของ 2 นักแสดงนำชายอาวุโส ถือว่าต้องปรบมือให้กึกก้อง "ไถ่ โบ" และ "เบน เหยือน" ถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของพวกเขาออกมาได้อย่างมีน้ำหนักและเป็นธรรมชาติที่จะแสดงออกมา แทบมองไม่ออกเลยว่าพวกเขาแค่กำลังแสดงอยู่ ขณะที่งานกำกับและเขียนบทของผู้กำกับ "เรย์ ยึง" ก็ถือว่าน่าพอใจ สามารถขยี้ปมน้อยๆ แตกย่อยออกมาเป็นประเด็นที่ยิ่งใหญ่ และกระแทกจุดสังคมได้เป็นอย่าง บางครั้งเราก็อยากจะยกให้หนังเรื่องนี้เป็น "รักแห่งฮ่องกง" ก็ได้เลยนะ
อีกส่วนที่ตัวหนังทำออกมาได้น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือมิติของตัวละคร ทุกตัวละครมีมุมและด้านต่างๆ แสดงออกผ่านทางความรู้สึกและท่าทางออกมาให้เห็น นอกจากก็โดดเด่นที่ตัวละครหลักแล้ว หนังให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวละครสมทบอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะคนที่ใกล้ชิดกับตัวละครหลัก ไม่ว่าจะเป็นภรรยาของพัค หรือลูกชายของฮอย แม้ความสงสัยของพวกเขาจะไม่ได้สื่อออกมาตรงๆ แต่ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่ปล่อยให้คนดูคิดเอาเอง ก็เหมือนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสังคมนั้นเอง เคลือบแคลงใจ...แต่ไม่จำเป็นต้องถาม
เชื่อหรือไม่ว่า หลังจากที่ Suk Suk จอมืดลงและเครดิตขึ้น เรายังคงนั่งอยู่กับอยู่ที่สักนาที เพื่อซึบซับถึงข้อความที่สื่อสารออกมา เพราะนี่คือหนังที่ทำหน้าที่ส่งสารมาถึงคนดูได้อย่างชัดเจน หากไม่ใช่การเปิดเผยตัวเองต่อสังคม ก็ต้องเป็นประเด็นบั้นปลายชีวิตตัวเอง เราน่าจะต้องเริ่มคิดเผื่อแล้วว่า...ต่อไปเราจะเป็นอย่างไร หนังทิ้งท้ายเอาไว้ในคนดูได้คิดต่อ แม้ว่าหน้าที่ของตัวละครในเรื่องได้จบลงแล้วก็ตาม...
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Suk Suk ซุกที่เขา สุขที่เรา
ประเภท : ดราม่า / ครอบครัว / โรแมนติก
ผู้กำกับ : เรย์ ยึง
นำแสดงโดย : ไถ่ โบ, เบน เหยือน
ความยาว : 92 นาที
เข้าฉาย : 23 กรกฎาคม 2020
----------------------------------------------------