Series Review Pararescue Jumper (2025) หน่วยกล้าท้าเวหา อาจไม่เหมือนที่คิดแต่กลายเป็นสนุกเฉยกับงานที่เป็นได้ทั้งการประชาสัมพันธ์และเชิดชูพลร่มกู้ภัยที่หัวใจและร่างกายต้องแกร่งเกินขีดจำกัด รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! บางครั้งการขึ้นรถผิดสายอาจพาไปยังสถานที่ที่ต่างไปและพบกับความสวยงามที่คาดไม่ถึงคงเอาประโยคนี้มาเกริ่นอีกครั้งสำหรับที่มาของบทความนี้เกี่ยวกับละครซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องนี้ ซึ่งอย่างที่บอกผ่านบทความที่ผ่านมาสองบทความก็คงพอทราบว่านี่คือซีรีส์ญี่ปุ่นเรื่องที่สามที่ผู้เขียนติดตามดูเป็นรายสัปดาห์และทยอยอวสานแต่ก็ทยอยดูตามเวลาที่เอื้ออำนวย และกับเรื่องนี้เอาจริงผู้เขียนไม่ได้คาดหวังอะไรนักกับงานจากเครือข่ายโทรทัศน์ TV Asahi เรื่องนี้เพราะปกติซีรีส์ญี่ปุ่นที่ดีๆที่คนดูจะได้ผ่านตาบ่อยๆมักจะมาจากทางเครือข่าย TBS แต่ความที่นานแล้วไม่ได้ดูงานแนวเชิดชูวีรกรรมผู้กล้าแล้วพอมาเห็นชื่อไทยอย่างน่าดูว่าหน่วยกล้าท้าเวหานี่คือกระตุ้นความอยากดูมาก เพราะคาดว่านี่คงจะเป็นซีรีส์กู้ภัยสนุกๆตื่นเต้นระทึกใจไปกับภารกิจกู้ชีพที่เชิดชูหน่วยกู้ภัยที่ต้องเสียสละและแลกกับบางอย่างมากกว่าคนทั่วไปแต่ไม่ใช่ คือมันยังมีกลิ่นแต่มันไม่ใช่เพราะกลายมาเป็นงานแนวกองพันครึกครื้นพลทหารคึกคักที่ย้อนไปหาการฝึกเพื่อเป็นพลร่มกู้ภัยส่วนจะเป็นยังไงไปว่ากัน นี่คือเรื่องราวของกองบินกู้ภัยทางอากาศที่ได้รับฉายาว่า "แนวป้องกันสุดท้ายของการช่วยชีวิต" เรื่องราวของครูฝึกที่คอยผลักดันผู้เข้าฝึกอบรมผ่านการฝึกอันหนักหน่วงเพื่อให้พวกเขาไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตแต่รวมถึงหัวใจด้วย แล้วหัวหน้าครูฝึกเซอิจิ อุซามิ (เซอิโยะ อุชิโนะ) ก็ได้รับผู้เข้าฝึกเป็นหน่วยกู้ภัยทางอากาศที่เรียกกันว่า Pararescue Jumper (P.J.) จำนวนเจ็ดคนในรุ่นที่ 65 ทั้งหมดประกอบด้วยจิน ซาวาอิ (ฟูจู คามิโอะ),ซายากะ ฟูจิกิ (แอนนา อิชิอิ),โทโมกิ ชิราคาวะ (เคนทาโร่ มาเอดะ),ทัตสึยะ ฮาเซเบะ (อาโอโตะ วาทานาเบะ),แรนดี้ นิชิทานิ (เคอิตะ ริชาร์ด คาสึมะ),ยูกิ โชอิจิ (อ้ตสึฮิโระ อินุคาอิ) และมาโมรุ คอนโดะ (โอชิโระ มาเอดะ) ที่ต้องเข้าสู่การฝึกสุดโหดผ่านการเคี่ยวกรำของหัวหน้าคู่ฝึกและเหล่าครูฝึกที่เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยตัวจริงโดยมียูนะ โนกิ (ไอ โยชิคาวะ) ลูกสาวผู้ห่างเหินของหัวหน้าครูฝีกมาร่วมสังเกตการณ์เพื่อทำวิจัย แล้วทั้งเจ็ดคนจะผ่านหลักสูตรไปได้กี่คนเมื่อศัตรูของพวกเขาก็คือร่างกายและจิตใจของพวกเขาเอง การเขียนบทในแบบญี่ปุ่นที่เคลียร์ทุกปมในตอนแล้วผูกเรื่องยาวที่แน่นหนามาพร้อมการถ่ายทำที่สมจริงถ้าว่ากันที่นี่คืองานระดับซีรีส์ ยังคงความเป็นญี่ปุ่นแท้ด้วยการเล่าเรื่องเป็นตอนย่อยแล้ววางปมของเรื่องยาวที่เป็นเรื่องใหญ่ไว้เบื้องหลังผ่านการฝึกที่สุดโหดกับครูฝึกสุดหิน ซึ่งถ้าว่ากันที่ตอนต่อตอนมันคือการวางสถานการณ์ให้ตัวละครได้พิสูจน์หรือเราชนะลิมิตของตัวเองแต่ละคนโดยที่ทุกคนจะมีปมของตัวเองที่เป็นตัวฉุดรั้งทั้งทางร่างกายและจิตใจ แล้วซ้อนดราม่าที่เป็นเรื่องใหญ่ไว้ในเบื้องหลังว่ามันจะจบลงยังไงให้ต้องคิดตาม แน่นอนว่างานแนวนี้จะไม่ยากต่อการคาดเดาในบทสรุปแต่ยังมีเรื่องที่อยากรู้ด้วยความที่บทละครทั้งในตอนย่อยและการสานร่างแหของเรื่องยาวออกมาแน่นหนาและมีความสมเหตุผลในตัว ทั้งยังมาพร้อมการถ่ายทำที่สมจริงในสถานที่จริงอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ที่หน่วยกู้ภัยใช้กันจริงๆแม้กระทั่งเฮลิคอปเตอร์ Black Hawk จึงจัดว่านี่คืองานมาตรฐานสูงถ้าว่ากันที่ระดับซีรีส์ทั้งบทและการถ่ายทำถ้าไม่ติดที่ว่าเนื้อหาที่เล่ายังเก่าเล่าซ้ำเท่านั้น ดราม่าจัดแต่ไม่ยัดเยียดหรือขยี้ที่ญี่ปุ่นจะทำได้ดีและมีความเบียวเหมือนเดิมแต่นี่แหละคือเสน่ห์ที่ทำให้ดูสนุกกับตัวร้ายที่มองไม่เห็น การจะเล่าเป็นตอนย่อยมีบทสรุปเรื่องราวที่เล่าภายในตอนให้สนุกนั้นเรื่องที่เล่าต้องครบทั้งที่มาที่ไปพร้อมทั้งอะไรก็ได้ที่มาเป็นบทเรียน ซึ่งถ้าว่ากันตรงนี้เรื่องนี้ทำได้ดีเพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้กับผู้ร้ายอาชญากรหรือการต่อสู้กับธรรมชาติแต่เป็นการต่อสู้กับศัตรูข้างในตัวเอง จึงกลายเป็นว่าตัวละครทั้งหลายล้วนมีปมในใจของตัวเองที่ถ้าในชีวิตปกติอาจไม่มีอะไรแต่เมื่อใดที่ร่างกายและจิตในถึงขีดจำกัดเรื่องพวกนี้จะผุดขึ้นมา แต่ที่น่าทึ่งตลอดมาคือเรื่องดราม่าที่มันจัดจ้านที่สามารถเป็นแผลที่ไม่ยอมหายแต่ญี่ปุ่นจะไม่พยายามขยี้ทำให้ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด แน่นอนนี่คืองานญี่ปุ่นดราม่าพวกนี้จะถูกเสริมด้วยความเบียวแบบโลกสวยตามสไตล์ญี่ปุ่นที่มักจะเป็นแบบนี้ในแทบทุกเรื่องแต่ถ้าคุ้นเคยและรู้ว่ามันก็จะเป็นแบบนี้เพราะเป้าประสงค์คือเรื่องเชิงทัศนคติก็ไม่มีปัญหา และจะกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เรื่องออกมาดสูสนุกเช่นเดียวกับที่เรื่องนี้เป็น ถ้าไม่มีความเบียวนี่จะเป็นการแสดงที่ดีมากๆแต่เมื่อเป็นญี่ปุ่นต้องเบียวการแสดงเลยมาได้แค่มาตรฐานงานจอแก้ว ก็ใช่ที่ความเบียวมันคือเสน่ห์ของญี่ปุ่นที่มักจะวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์เพราะทัศนคติที่ดีที่มีต่อโลกแต่บางครั้งถ้าเรื่องมันควรซีเรียสแต่มัวมาเบียวประมาณ "มาทำให้ดีด้วยกันเถอะ" อารมณ์ก็ถูกรั้งไว้ และสิ่งที่จะถูกฉุดเป็นอันดับแรกเพราะความเบียวคือการแสดงเพราะเหตุผลที่ว่าทำให้บางเวลาก็เหมือนล้นไปแต่ยังดีที่ไม่ขาด แน่นอนในภาพรวมการแสดงออกมาได้ดีดูสมจริงในฐานะของหน่วยกู้ภัยโดยเฉพาะความเก๋าของรุ่นใหญ่อย่างเซอิโยะ อุชิโนะที่ทำให้เชื่อได้หมดใจ ส่วนรุ่นเล็กทั้งหมดทั้งเจ็ดคนนั้นถูกความเบียวจำกัดให้การแสดงไม่ถึงขีดสุดจนกลายเป็นได้แค่มาตรฐานงานระดับละครโทรทัศน์บ้านเขา แต่อย่างน้อยทุกคนที่มีปมในใจก็สามารถถ่ายทอดได้ดีแต่อาจเป็นเพราะระดับของการแสดงและงานที่ผ่านมาทำให้ไอ โยชิคาวะกลายเป็นความโดดเด่นเหนือตัวละครหลักทั้งเจ็ดด้วยเสน่ห์และพลังดาราที่มากกว่ารวมถึงเรื่องปมในใจกับพ่อที่ดูดีกว่าเห็นๆ เป็นได้ทั้งงานประชาสัมพันธ์และเชิดชูในตัวที่เหมือนไม่มีอะไรใหม่แต่สนุกน่าติดตามในทุกตอนทั้งตอนย่อยและอยากรู้บทสรุป สารภาพว่าแรกเลยคือนึกว่าจะได้ดูงานแนวเชิดชูนักสู้กู้ภัยที่ต้องสู้กับธรรมชาติและภัยพิบัติที่ตื่นเต้นเร้าใจแต่เอาจริงกลายเป็นแนวฝึกทหารซะงั้น แล้วทำไมถึงเทไม่ได้เพราะเมื่อเริ่มดูตอนแรกมันดันออกมาดูสนุกเพราะการผูกเรื่องที่น่าสนใจในจุดเริ่มต้นที่หน่วยกู้ภัยคนหนึ่งได้ช่วยหนึ่งชีวิตและช่วยไม่ได้อีกหนึ่งชีวิต นั่นคือการขีดเส้นแบ่งทางหัวใจแล้วว่าถ้าเป็นคนดูเองถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้นจะทำยังไงแล้วหนึ่งชีวิตที่ช่วยได้ก็กลายมาเป็นหนึ่งลูกศิษย์ของหน่วยกู้ภัยคนนั้น จากนั้นก็คือการฝึกเพื่อให้เป็นหน่วยกู้ภัยทางอากาศที่ยอมรับว่าภาพที่เห็นอาจไม่ถึงแก่นจริงๆอาจโหดว่านั้นแต่เท่าที่เป็นก็พอเดาได้ แล้วในการฝึกในแต่ละตอนแต่ละสถานการณ์จำลองพล็อตย่อยในแต่ละตอนก็คือการเอาชนะตัวเองทั้งสิ้นในแต่ละคนทำให้ทั้งสนุกและมีหัวใจ แน่นอนเป้าหมายคือการผ่านหลักสูตรสุดหินนี้ให้ได้ทุกคนแต่ถึงที่สุดจะเป็นแบบนั้นหรือไม่ก็คือความอยากรู้ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก จาก Insatagram netflixjp ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Insatagram pj_rescue_tvasahi จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !