เป็นซีรีส์สยองขวัญจาก Netflix ที่ปล่อยออกมาเพื่อเอาใจคอหนังสยองขวัญต้อนรับวันฮัลโลวีนกันนะคะ โดยแปดเรื่องสั้น แปดจินตนาการจากผู้กำกับขาโหดทั้งนั้น จะน่ากลัวและสยองขวัญมากแค่ไหนไปติดตามกันเองในช่อง Netflix นะคะ เรื่องย่อ เรื่องแรก ห้องที่ 36 จะทลายกำแพงที่น่ากลัวของตึกร้างนี้ลง เรื่องที่สองเล่าเรื่องราวของนาตารี ที่ถูกสะกดวิญญาณไว้ในหลุมฝังศพ ก่อนที่จะถูกขุดขึ้นมาโดยโจรเรื่องที่สาม เมื่อเราต้องชันสูตรพลิกศพคนที่เจออุบัติเหตุจนไปเจอกับเรื่องแปลกๆที่อธิบายไม่ได้ด้วยเหตุผลเข้าเรื่องที่สี่ เมื่อผู้หญิงที่เก็บตัวทำทุกอย่างเพื่อความสวยแม้แต่วิธีแปลกๆที่ต้องทำตามเรื่องเล่าสยองขวัญเรื่องที่ห้า เมื่อเราไปติดอยู่ในโลกสยองขวัญที่เกิดขึ้นภายในมังงะ และเกม ที่เต็มไปด้วยเทพและอสุรกายแห่งความตายเรื่องที่หก เล่าเรื่องของนักเดินทาง ที่ต้องติดอยู่ในระหว่างโลกของพ่อมดและแม่มดเรื่องที่เจ็ด เล่าเรื่องของผู้หญิงวัยกลางคนที่ได้รับผลกระทบจากความเศร้าเสียใจและติดอยู่ในบ้านผีสิงเรื่องสุดท้ายเล่าเรื่องสุนทรียภาพของทิวทัศน์จากเลนมองของผู้ชม ความรู้สึกที่ดู หนังยังออนแอร์ไม่ครบตอนนะคะ ยังเหลืออีกสี่ตอนหลังให้เราดูได้ในอีกสองวัน คือวันที่ 27 และ 28 จากใจที่ได้ดูผลงานของกีเยร์ โม เดล โตโร ต้องขอชื่นชมคอนเซปต์และไอเดียในการเลือกเล่าไปทีละเรื่องเหมือนการที่เราเปิดกล่องที่เราไม่รู้ว่ามีอะไรข้างในซ่อนอยู่ภายในไปทีละกล่องๆ ก่อนจะเจอแต่เรื่องแปลกๆ สิ่งลี้ลับ เรื่องสยองขวัญ ที่อธิบายไม่ได้ด้วยเหตุผล ซึ่งต้องขอบอกก่อนเลยว่าเนื้อหาของหนัง คุ้มค่ากับเวลาที่คนดูหรือแฟนๆหนังสยองขวัญเฝ้ารอแน่นอน สำหรับผู้เขียนนั้นรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่มองเห็นโปสการ์ดที่ปล่อยตัวออกมาแล้ว และพอเข้า Netflix แล้ว ก็ไม่ทำให้ผิดหวังในเรื่องของความสยองขวัญเลย ทั้งเรื่องของ CG Effect Soud Effect Graphic Special ก็คือสมจริงมากๆ โทนมู้ดของเรื่องค่อนข้างเครียด อึดอัด กดดัน น่ากลัว และน่าขนลุก รวมถึงสยองขวัญด้วยกับเรื่องเล่าแปดเรื่องที่บอกเลยว่าโคตรหลอน สมจริง สนุกจนนอนไม่หลับและไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียวแน่ๆ ให้ฟีลเหมือนกำลังดูหนังเรื่อง American Horror Strories ส่วนตัวมองว่าตอนที่น่าประทับใจมากที่สุดคือตอนที่ 4 นะตอนที่ 1 มองว่าแอบคล้ายผลงานของสตีเฟ่น คิง ที่เน้นความลึกลับ ความเหนือธรรมชาติ และความตายไปหน่อย ส่วนการเล่าเรื่องของตอนที่ 2 มองว่าการใช้มุมกล้องและเทคนิคการถ่ายเป็นเทคนิคสไตล์ถ่ายหนังยุค 90s แม้ภาพจะดูเก่าแต่ความสยองความน่ากลัวความหลอนก็สุดจริง รู้สึกจมดิ่งไปกับความสิ้นหวังของตัวละครในเรื่องเลย ส่วนเรื่องที่สามก็สนุกค่ะ แต่มองว่าไม่ค่อยใช่แนวของผู้เขียนเลย ส่วนตอนที่สี่นั้นต้องขอบอกว่าสนุกสุดๆเลย ทำให้ผู้เขียนรู้สึกตาตื่นขึ้นมาเลยหลังจากง่วงๆอยู่คะแนนรีวิว 10/10 คุ้มค่าเวลามากๆ ไม่เสียดายความรู้สึกเลยสำหรับการรอคอย บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิว Dahmer (2022) สร้างจากเรื่องจริงของฆาตกรต่อเนื่องที่กินศพของมนุษย์ แต่รอดตัวมาได้ 13 ปีรีวิว Devil in Ohio (2022) หวาดผวาไปกับซีรีส์ลัทธิซาตานว่าด้วยบ้านไม่ใช่เซฟโซนของเรารีวิว The Crown Season 4 (2020) มารู้จักชีวประวัติโดยย่อของควีนอลิซาเบ็ธที่สองจากประเทศอังกฤษกันรีวิว Loving Adults (2022) 10/10 บนช่อง Netflix แล้วเราจะต้องคิดกันใหม่ก่อนจะนอกใจใครสักคนรีวิว Blonde (2022) มารู้จักตัวตนของนอร์ม่า จีน ก่อนที่ตัวตนของเมอริลีน มอนโรจะถูกสร้างขึ้นมา ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปก / Canva รูปประกอบภาพหน้าปกที่ 1 โดย Netflixรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 โดย Netflix ชวนแต่งแฟนซี หลอน สวย เซ็กซี่หรือสร้างสรรค์ ถ่ายภาพหรือวิดีโอ แล้วโพสต์ที่ TrueID Community ห้อง "13 สยองขวัญ"สำหรับผู้ที่ยอดกดไลค์สูงสุด 5 อันดับแรกอันดับที่1 : (ต้องมียอดไลค์เกิน 150 ไลค์) เงินรางวัล 3,000 บาทอันดับที่ 2-5: (ต้องมียอดไลค์เกิน 50 ไลค์) เงินรางวัล รางวัลละ 1,000 บาท (รวม 4 ท่าน 4,000 บาท)STAR COVER ส่งภาพเข้ามาได้ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 65 ถึง 3 พฤศจิกายน 65***