ทุกคนอาจจะเคยคุ้นกับชื่อหนังพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็น ยัยตัวร้ายกับนายเจี๊ยมเจี้ยม ฮันนะซังสวยสั่งได้ หรือแม้แต่ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข 7 ที่เคยสร้างความบันเทิงให้แก่พวกเรามาก่อน และในปัจจุบันนี้ หนังเกาหลีก็เริ่มเป็นที่นิยมในประเทศไทยมากขึ้นไปอีก เมื่อมีการนำหนังเรื่อง Train To Busan เข้ามาฉายในประเทศ จนสร้างรายได้มหาศาลให้ และต่อกระแสให้ดังพุ่งไปอีกครั้ง เมื่อ Along With The Gods: The Two Worlds ถูกนำมาฉายที่ประเทศไทย โดยหนังเรื่องนี้ทำรายได้เป็นอันดับ 3 จากรายได้หนังเกาหลีทั้งหมด เราเป็นคนนึงที่ชื่นชอบการดูหนังเกาหลีมาก ดูหลากหลายแนว และพบว่าหนังเกาหลีนั้นมีกลิ่นอายความสนุกที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็มองหาแต่หนังเกาหลีเสียแล้ว โดยบทความนี้เราจะมานำเสนอ 6 อันดับหนังเกาหลีในดวงใจที่เราชอบมากที่สุด ซึ่งขอบอกไว้เลยค่ะว่าตัดสินใจยากมากจริง ๆ เพราะหนังเกาหลีคุณภาพดีทุกเรื่องเลยค่ะ 1. Extreme Job (2019)(เครดิตภาพ: CJ E&M) เรื่องย่อ: เกี่ยวกับกลุ่มนักสืบที่มีผลงานอยู่ในระดับย่ำแย่มาตลอด และวันหนึ่งหัวหน้านักสืบอีกทีมก็ยื่นข้อเสนอให้ไปสืบคดี โดยคดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่ใหญ่มาก ถ้าทำสำเร็จอาจได้เลื่อนขั้นเลยก็ได้ และแน่นอนว่าพวกเขาตอบตกลง จึงได้ไปตามสืบกลุ่มอันธพาลพวกนั้นเพื่อที่จะสืบไปถึงบอสใหญ่ ด้วยวิธีการคือเปิดร้านไก่ทอดมาบังหน้า แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าร้านไก่ทอดของพวกเขานั้นมันอร่อยกว่าที่คิด ความรู้สึกหลังดูจบ: บอกได้คำเดียวว่าโคตรสุดยอดเลยค่ะเรื่องนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงทำรายได้ได้สูงมากที่สุดในปี 2019 และสูงเป็นอันดับ 2 จากหนังเกาหลีใต้ทั้งหมด ตัวหนังนั้นปมไม่ค่อยมีอะไรมากมายเท่าไรนัก จะเน้นการทำงานร่วมเป็นทีม ความเป็นหนึ่งเดียวกัน และการตามสืบคดีความที่ดูแล้วลุ้นตาม หัวเราะตามตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ ฉากบู๊ก็ก็สมจริง ส่วนฉากทอดไก่ก็หิวตาม จนต้องไปซื้อไก่ทอดมากินตามเลยค่ะ เรื่องนี้เราไม่อยากให้พลาดเลยจริง ๆ เพราะมันดีมาก ไม่เครียดด้วย ดูแล้วจะหลงรักเลยค่ะ คะแนน: 10/10 2. Train To Busan (2016)(เครดิตภาพ: Next Entertainment World) เรื่องย่อ: เมื่อซอซอกอู (กงยู) ถูกลูกสาวขอร้องให้พาไปหาแม่ที่ปูซาน เจ้าตัวเลยต้องพาไปโดยการโดยสารรถไฟ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่ามันจะเกิดเหตุการณ์หน้าสะพรึงขึ้น เมื่อมีผู้ติดเชื้อขึ้นมาบนรถไฟและได้แพร่เชื้อให้แก่ผู้โดยสารคนอื่นจนสร้างความหวาดกลัวให้แก่คนบนรถไฟขบวนนั้น ซึ่งตัวหนังจะบอกเล่าถึงการเอาชีวิตรอดของซอกอู โดยมีผู้โดยสารคนอื่น ๆ ที่เพิ่งเคยเจอกันมาร่วมช่วยด้วย ซึ่งเราก็ต้องมาเอาใจช่วยว่า ในระหว่างนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า และซอกอูจะพาลูกสาวไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ ความรู้สึกหลังดูจบ: เปิดเรื่องมาคือลุ้นตัวเกร็งไปกับผีซอมบี้แล้ว เพราะเชื้อนั้นแพร่ไปไวมาก แต่พอดูไปเรื่อย ๆ น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว ซึ่งหลังจากนั้นก็ไหลตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ T_T ตัวหนังทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ฉากอะไรต่าง ๆ ดูแล้วว้าวมาก ยิ่งกว่านั้นคือการถ่ายทอดความรู้สึกต่าง ๆ ของตัวละครที่ทำให้เรามีอารมณ์ร่วมไปด้วยหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ามีกระแสมากในประเทศไทย เพราะใคร ๆ ต่างก็ให้การยอมรับถึงความสนุก ใครที่ไม่เคยดูก็อย่าลืมไปดูกันนะคะ ส่วนใครที่เคยดูแล้ว ไปค่ะ ดูอีกรอบ คะแนน: 10/10 3. The Odd Family: Zombie On Sale (2019)(เครดิตภาพ: Megabox Plus M) เรื่องย่อ: เกี่ยวกับครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด ครอบครัวนี้มีธุรกิจปั๊มน้ำมันเป็นของตัวเอง แต่ก็ใช่ว่าธุรกิจจะรุ่งเรืองมากเท่าไรนัก ทำให้พี่ชายคนโตของครอบครัวเอาตะปูไปวางไว้เพื่อให้มีรถขับมาเหยียบ เพื่อที่จะได้มาเปลี่ยนยางที่ปั๊มตัวเอง และอยู่มาวันหนึ่งก็มีซอมบี้เด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาในหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งบอกได้เลยว่าน้องเป็นซอมบี้ที่น่ารักมุ้งมิ้งและเด๋อด๋ามากค่ะ พยายามหลอกใครก็ไม่มีใครกลัว ซ้ำยังโดนแกล้งกลับมาอีก น้องได้ไปอาศัยอยู่ในปั๊มน้ำมันของครอบครัวนี้ และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความตลกโปกฮาที่ดูแล้วได้แต่คิดว่า มันได้ด้วยหรอเนี่ย555555 ความรู้สึกหลังดูจบ: ไม่ได้คาดหวังอะไรกับเรื่องนี้เลยค่ะ ดูเพราะตอนนั้นว่างไม่มีไรทำ แต่พอดูแล้ว โอ้โห มันสนุกกว่าที่คิด สนุกเกินคาดมากจริง ๆ ซอมบี้ในความคิดเราจะน่ากลัวกันใช่ไหมคะ แต่เรื่องนี้ไม่เลยค่ะ การตีความของเรื่องมันทำให้เรารู้สึกว้าว รู้สึกประทับใจมาก ๆ แบบที่ไม่มีเรื่องไหนทำมาก่อน บอกได้คำเดียวว่าเจ๋งจริง ถือเป็นหนังนอกกระแสของเกาหลีที่อยากให้ดูมาก ๆ รับประกันความสนุกเลยค่ะ คะแนน: 9/10 4. Along With The Gods: The Two Worlds (2017)(เครดิตภาพ: Lotte Entertainment) เรื่องย่อ: เมื่อมีมนุษย์เสียชีวิต ยมทูตจะเดินทางไปยังโลกมนุษย์เพื่อนำดวงวิญญาณมาที่ปรโลก โดยที่ปรโลกนั้นดวงวิญญาณจะได้ผ่านการตัดสินบทลงโทษจากศาลทั้ง 7 ขุมบาป ซึ่งถ้าผ่านการตัดสินไปได้ ดวงวิญญาณนี้จะได้กลับไปเกิดใหม่อีกครั้ง ความรู้สึกหลังดูจบ: แค่เห็นตัวอย่างหนังก็รู้สึกอยากดูแล้วค่ะสำหรับเรื่องนี้ และพอได้มาดูจริงก็สนุกสมกับที่รอคอยมาก รายได้จากหนังเรื่องนี้คืออันดับต้น ๆ ของประเทศเกาหลีใต้เลยค่ะ และเพราะกระแสที่ดีขนาดนี้ ทำให้ในปีต่อมาได้มีการสร้างภาคสองขึ้น ซึ่งก็สนุกไม่น้อยไปกว่าภาคแรกเลย สำหรับเราแล้วหนังสนุกสมกับความคาดหวังมาก ใครชอบแนวแฟนตาซี ฉากอลังการ ต้องดูเรื่องนี้ให้ได้นะคะ คะแนน: 9/10 5. Money (2019) (เครดิตภาพ: CJ E&M) เรื่องย่อ: โจอิลฮยอน (รยูจนยอล) ได้เข้ามาทำงานในบริษัทค้าขายหุ้นแห่งหนึ่งในตำแหน่งโบรคเกอร์ แต่ทว่าความสามารถของเขายังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไรนัก อิลฮยอนจึงทำได้แค่มองเพื่อนร่วมงานและรุ่นพี่ในบริษัทด้วยความรู้สึกอยากเป็นแบบนั้นบ้าง และเหมือนฟ้ากลั่นแกล้งเพราะเขาดันไปทำงานพลาดจนเกิดความเดือดร้อนกันไปถ้วนหน้า และในตอนนั้นเองที่รุ่นพี่ในบริษัทเข้ามาแนะนำให้ความช่วยเหลืออิลฮยอนโดยการนัดให้ไปเจอคนคนหนึ่ง และเพราะการพบกันในครั้งนี้ ที่ทำให้ชีวิตอิลฮยอนเริ่มแปรเปลี่ยนไปจากเดิมจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ความรู้สึกหลังดูจบ: เป็นหนังที่ต้องจดจ่อตั้งใจดูกับมันมากจริง ๆ ค่ะ เพราะศัพท์อะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับหุ้นเกี่ยวกับการเงินจะค่อนข้างเยอะ ซึ่งหลังจากที่ดูจบแล้ว มันทำให้เรารู้สึกอยากเรียนเกี่ยวกับอะไรพวกนี้เลย เพราะดูน่าสนใจและท้าทายมาก ตัวหนังทำออกมาได้ดีค่ะ ใครที่ไม่ได้เรียนมาด้านนี้หรือมีความรู้เกี่ยวกับด้านนี้อาจจะมีงงเหมือนเราในช่วงแรก แต่หลังจากนั้นจะลืมความงงไปเลย เพราะหนังมันจะค่อย ๆ ทำให้เราเข้าใจไปกับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี ใครที่มองหาหนังเกาหลีบทแปลกใหม่ เกี่ยวกับเรื่องหุ้น เรื่องเงิน ต้องดูเรื่องนี้เลยนะคะ คะแนน: 9/10 6. The Classic (2003)(เครดิตภาพ: Cinema Service) เรื่องย่อ: สำหรับเรื่องคนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต จะเล่าเรื่องราวความรักของรุ่นแม่และรุ่นลูก โดยความรักรุ่นแม่นั้นจะเกี่ยวกับชายหญิงที่ชอบพอกัน แต่ก็ต้องหักห้ามใจไว้เพราะด้วยฐานะที่ต่างกัน และฝ่ายหญิงนั้นมีคู่หมั้นแล้วเป็นที่เรียบร้อย ส่วนในช่วงวัยรุ่นลูก จะเป็นเนื้อเรื่องของหญิงสาววัยมหาลัยคนหนึ่งที่แอบหลงรักชายหนุ่ม ซึ่งเพื่อนเธอก็หมายปองชายคนนี้เช่นกัน แต่ทว่าเขากลับดูเหมือนจะมีใจให้เธอมากกว่า ความรู้สึกหลังดูจบ: เป็นเรื่องที่ดีสมกับคำร่ำลือจริง ๆ ค่ะ ปกติเราไม่ค่อยอินหนังรักมากเท่าไรนัก แต่กับเรื่องนี้แล้ว ต้องยอมให้จริง ๆ ตัวหนังจะเล่าสลับไปมาระหว่างรุ่นแม่กับรุ่นลูก ซึ่งบอกได้เลยว่าอินไปกับทั้งสองรุ่นเลยค่ะ โดยนักแสดงหญิงจะใช้คนเดียวกันนั่นคือ ซนเยจิน ส่วนพระเอกจะมีสองคนค่ะ ดูแล้วทำให้เข้าใจเลยค่ะว่า ความรักมันมีค่ามากจริง ๆ ใครที่ไม่เคยดูต้องห้ามพลาดเลยนะคะ คะแนน: 9/10 ครบทั้ง 6 เรื่องแล้วนะคะ จริง ๆ เรามีอีกหลายเรื่องเลยที่ชอบ ไม่ว่าเป็น Architecture 101 ที่ทำให้ซูจีถูกขนานนามว่าเป็นรักแรกแห่งชาติ เรื่อง Exit ที่เกี่ยวกับหมอกพิษ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เป็นอันดับต้น ๆ จากหนังเกาหลีทั้งหมด เรื่อง Parasite ที่ไปคว้ารางวัลใหญ่ระดับโลกมา ซึ่งล้วนแล้วแต่สนุกมากจริง ๆ ยังไงอยากให้ลองไปดูกันนะคะ แล้วจะพบว่าหนังเกาหลีมีดีกว่าที่คิดจริง ๆ ค่ะ :-)