หนังเล่าถึง เจมส์ บอนด์(Daniel Craig) และ อีฟ(Naomie Harris) ได้รับภารกิจให้เดินทางไปอีสตันบลู เพื่อทำการตามหาฮาร์ดไดร์พที่ภายในนั้นมีข้อมูลของสายลับที่ชื่อว่า NATO บรรจุอยู่ ซึ่งอยู่ในมือของกลุ่มองค์กรผู้ก่อการร้าย พวกเขาทั้งสองกำลังแกะรอยตาม พาทริซ(Ola Rapace) ซึ่งเป็นนักฆ่าและได้ลักลอบขโมยฮาร์ดไดร์พไป บอนด์ปะทะกับพาทริซบนรถไฟจนพลัดตกลงไปในแม่น้ำ แต่ไม่มีใครพบศพเขา บอนด์จึงอยู่ในสถานะ "สูญหาย"หากใครเคยดูผลงานการกำกับภาพยนตร์ของผู้กำกับที่ชื่อแซม เมนเดส อาจจะจับทางได้ว่าเค้าไม่ได้เน้นความแอ็คชั่นสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เขาถนัดจริง ๆ คือการนำเสนอความเป็นธรรมชาติของตัวละครและในภาคนี้เราจะได้เห็นบอนด์ ดูมีความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น กล่าวคือเขาก็สามารถผิดพลาดได้และที่สำคัญก็แก่และสังขารร่วงโรยเป็น ในภาคก่อน ๆ ต่อให้แก่แค่ไหนก็ยังวิ่งไหว แต่ถ้ามองถึงความเป็นมนุษย์จริง ๆ ด้วยอายุขนาดนั้นมันจะบู๊แถมวิ่งเร็วอย่างกับจรวดมันก็คงไม่ใช่ ในเรื่องของการดำเนินเรื่องในภาคนี้ไม่ได้มีอะไรโอเวอร์เหมือนภาคอื่น ๆ ที่ไม่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและใช้การเดินเรื่องแบบสูตรสำเร็จการแสดงของแดเนียลยอดเยี่ยมไร้ที่ติมาก ซึ่งเป็นนิสัยของบอนด์อยู่แล้วกับความเจ้าชู้และขี้เหล้า แต่หนังพยายามใส่รายละเอียดในเรื่องของจิตใจที่อ่อนไหวในแบบฉบับของมนุษย์ปกติลงไปด้วย ส่วนป้าจูดี้ภาคนี้มีโอกาสได้เห็นแกเยอะขึ้น ที่จริงควรจะออกมาเป็นตัวนักแสดงนำเลยดีกว่า ถ้าใครที่เคยชมภาพยนตร์ชุดนี้ในภาคก่อน ๆ คงจะเห็นอุปนิสัยของเอ็ม ผู้เป็นเจ้านายของเจมส์ บอนด์ อาจจะไม่ได้รู้ลึกนักเพราะว่าเธอออกมาไม่กี่ฉากแต่ในภาคนี้บทบาทของเธอจะเยอะขึ้นและทำให้คนดูรู้จักเธอในมุมที่ไม่เคยเห็นมากกว่าเก่าในเจมส์บอนด์ภาคนี้ ไม่ใช่แค่การบู๊ล้างผลาญอย่างเดียว แต่หนังเผยให้เห็นถึงการค้นหาตัวตนของเจมส์บอนด์ที่แท้จริง ใครที่มาชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วต้องการเสพความแอ็คชั่น ก็อาจจะผิดหวังเพราะว่าไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่ สิ่งที่แตกต่างในภาคนี้ คือตัวหนังเริ่มมีมุขตลกทำให้คนดูได้คลายเครียดบ้าง ด้วยบุคลิกของบอนด์ ก็มีความทะเล้นไม่ตึงเครียดและซีเรียสเหมือนอย่างเก่า ทำให้คนดูได้เห็นมุมใหม่ ๆ ของบอนด์มากกว่าเดิมคะแนนของภาพยนตร์8/10 เป็นภาคที่ค่อนข้างแปลกในเรื่องของการนำเสนอ การลดฉากแอ็กชั่นและการเพิ่มความทะเล้นและความตลกเข้าไปในบอนด์มากยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็ดูเพลินไม่เครียดเหมือนภาคก่อน ๆข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. การค้นหาตัวเองของคน ๆ หนึ่งและความพยายามที่จะนิยามตัวเองขึ้นมาว่าจริง ๆ แล้วตัวเองเป็นคนแบบไหนยังมีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่หรือเปล่าและการค้นพบครั้งนี้ก็ทำให้เราได้พบบอนด์คนใหม่ คนที่ไม่มีความตึงเครียดในชีวิตเหมือนอย่างที่เคยเจอ เพราะถ้าเราสามารถสลัดเรื่องส่วนตัวไม่นำไปปนกับเรื่องงานและภารกิจได้ การทำงานก็อาจจะตึงเครียดน้อยลง2. ตัวร้ายที่ร้ายเพราะสถานการณ์บังคับ เหตุผลที่ตัวร้ายเรื่องนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะเขาไม่ได้เลวโดยสันดานหรือแก่นแท้ของความรู้สึกที่ เขาชั่วร้ายเพราะเค้าโดนคนที่รักหักหลัง และนี่เป็นตัวร้ายที่จัดอยู่ในระดับ Top 5 ของบอนด์เลยในภาคนี้หนังค่อนข้างลงตัวมากยิ่งขึ้นในเรื่องของสถานการณ์ แม้ว่าภาคนี้จะไม่เน้นฉากแอ็กชั่นแต่ทำให้เราเห็นมุมใหม่ใหม่ที่เราไม่เคยเห็นเกี่ยวกับบอนด์มาก่อนเลย สำหรับแฟน ๆ นี่ก็เป็นเหมือนการฉีกกรอบบอนด์เวอร์ชั่นใหม่นั่นเองเครดิตภาพปก MGMเครดิตภาพที่1 MGMเครดิตภาพที่2 MGMเครดิตภาพที่3 MGM