Movie Review One Win (2024) ถึงจะเป็นงานตามสูตรแต่ถ้ากดสูตรติดมันก็คือความบันเทิงชั้นดีดีๆนี่เองกับทุกอย่างประดามีที่พึงมีในงานดราม่ากีฬาที่ยังทำหน้าที่อย่างได้ผล รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เมื่อครั้งยังเยาว์ผู้เขียนเป็นเด็กหนุ่มทีชอบดูกีฬาดูแบบไม่เลือกหน้าดูมันทุกประเภทสิ่งที่พ่วงมาก็คือความชอบในการดูหนังเกี่ยวกับกีฬาที่ต้องยอมรับว่างานแนวดราม่ากีฬาผู้เขียนชอบดูมาตั้งแต่ไหนแต่ไร จนกระทั่งการผ่านร้อนผ่านฝนผ่านหนาวผ่านหนังมาจนอายุล่วงเลยมาไกลหนังแนวนี้ก็ผ่านตามามากมายเช่นกันแล้วสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือบางครั้งความอยากดูหรือความสนใจมันลดลง เพราะหนังแบบนี้มันคือหนังสูตรชนิดที่ฉีกซองใส่ชามเทน้ำร้อนปิดฝาสามนาทีกินได้มันไม่เหลือความหวือหวาใดให้คาดเดาแถมยังมาพร้อมกับการดูกีฬาที่น้อยลงของผู้เขียน เพราะเวลาไม่ค่อยมีแถมยังเวลาการถ่ายทอดก็ไม่ใช่เวลาที่ผู้เขียนจะอดทนฝืนสังขารดูได้ส่วนมากดูเมื่อไหร่สุดท้ายกลายเป็นหลับหน้าทีวีบ่อยๆ แต่กับหนังเรื่องนี้กับบทความนี้คือผู้เขียนเจอหนังเรื่องนี้ได้พักหนึ่งแล้วแต่ด้วยเหตุผลที่ร่ายมาก็ไม่ได้อยากดูเท่าไหร่จนเมื่อได้ดูการถ่ายทอดสดวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกที่บ้านเราเป็นเจ้าภาพกับคุณแม่บ้าน ทันใดนั้นหนังเรื่องนี้ก็กลับมาอยู่ในความสนใจของผู้เขียนอีกครั้ง คิมอูจิน (ซงคังโฮ) อดีตนักวอลเลย์บอลชายฝีมือดีที่ไม่เคยประสบความสำเร็จใดทั้งในการเป็นผู้เล่นและงานโค้ชจนปัจจุบันต้องมาสอนเด็กประถมแถมยังหย่ากับเมียแยกกันอยู่กับลูก จนเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงในทีม Pink Storm ทีมในลีกวอลเลย์บอลหญิงเกาหลีที่มีเจ้าของใหม่ไม่ถูกยุบทีมแถมยังเป็นทีมชั้นปลายแถวเป็นตัวเต็งบ๊วยของลีก แล้วด้วยความคิดที่ประหลาดสุดขั้วของคังจองวอน (พัคจองมิน) เจ้าของทีมที่ประกาศขายตั๋วซีซันพาสที่ไม่ต่างจากการแทงหวยโดยมีเงื่อนไขว่าขอเพียงชัยชนะเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในซีซันนี้ของ Pink Storm แล้วคนที่เจ้าของทีมความคิดประหลาดนี้เลือกเข้ามาทำทีมเพื่อชัยชนะเพียงครั้งเดียวเพียงนัดเดียวในฤดูกาลก็เป็นใครไม่ได้คือโค้ชคิมอูจิน แต่เมื่อโค้ชคิมอูจินเข้ามาเขาก็ต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นเมื่อเจ้าของทีมที่ไม่รู้แมวน้ำอะไรเกี่ยวกับวอลเลย์บอลดันขายผู้เลนเก่งๆแล้วเอาผู้เล่นที่มีปัญหาเข้ามารวมกับผู้เล่นสับปะรังเคที่มีอยู่แล้วแบบนี้ภารกิจชนะแค่นัดเดียวของโค้ชคิมอูจินจะลุล่วงเรอะแต่อะไรก็ไม่แน่มั้ง เพราะหนังแนวนี้จะมีทางไปทางไหนได้อีกเมื่อฉีกไปไหนไม่ได้ก็ซื่อตรงมันซะเลยเลยกลายเป็นไม่มีอะไรผิดแผก เอาจริงนะหนังดราม่ากีฬาต่อให้วางตัวเองออกมาอารมณ์ไหนส่วนมากจะเป็นแบบนี้คือเรื่องไก่รองบ่อนคนตกต่ำที่จะผงาดขึ้นใหม่พร้อมกับบทเรียนชีวิตที่ต้องได้เรียนรู้ และหนังแนวนี้เอาจริงอีกทีก็ไม่มีทางไปมากมายให้ผิดแผกแหวกแนวเมื่อไม่มีที่ไปอื่นไกลก็ไปทางเดิมมันซะเลย หนังจึงออกมาเป็นหนังสูตรเต็มประดาว่าด้วยเรื่องของโค้ชขี้แพ้แต่มีของแค่รอเวลาและจุดเปลี่ยนแล้วต้องมาคุมทีมสับปะรังเคเต็มไปด้วยผู้เล่นเหลาเหย่ นั่นคือม้านอกสายตามวยรองที่ไม่มีประตูจะไปสู้กับใครไม่งั้นจะขอแค่ชัยชนะเดียวทำไมแต่แล้วเมื่ออะไรที่เป็นของลับที่ซ่อนไว้ได้ปลดปล่อยทีมง่อยๆก็ค่อยๆดีขึ้นมา แล้วจะว่าเป็นความจงใจหรือไม่ก็บอกยากแต่เดาว่าใช่ด้วยการใส่เรื่องของโชคชะตาที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่สร้างแผลใจให้เพื่อก้าวผ่านทั้งระดับโค้ชและผู้เล่น และของมันต้องมีอีกอย่างคือการเร้าแรงบันดาลใจไม่จมอยู่กับความตกต่ำคำคมดีๆเก๋ๆจึงมีมาตามสูตรเป๊ะ แต่นี่คือเกาหลีที่มีบทที่ดีนำหน้าจึงพาตัวเองไปสู่จุดที่กดสูตรติดเพราะรู้ว่าคนดูต้องการอะไรก็จัดให้ตามนั้น เอาแค่การรับเล่นเรื่องนี้ของนักแสดงระดับซงคังโฮก็การันตีบางอย่างนั่นคือบทหนังที่ถ้าไม่ใช่ว่ามันคืองานตามสูตรบทหนังหาที่ติแทบไม่เจอ นั่นทำให้กลายเป็นกดสูตรติดเพราะต่อให้เต็มไปด้วยอะไรประดามีที่หนังแนวนี้มักเป็นหนังก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยความไม่พยายามทำสิ่งใดเกินไปกว่าสิ่งที่เป็นคือไม่ล้นไม่ตลกเกินเบอร์เอาแค่ยิ้มมุมปากหัวเราะก๊ากบ้างเป็นเวลา แถมมาด้วยการเพิ่มอารมณ์ร่วมขึ้นเรื่อยๆจากที่มันจะอะไรกันนักหนาฟะทีมนี้แล้วค่อยๆเข้าไปนั่งในใจคนดูทีละนิดที่มาพร้อมจุดเปลี่ยนหลายครั้งที่มีบางครั้งที่ดูง่ายไปแต่บางครั้งก็ง่ายแต่ก็เนียนเหลือเชื่อ อาจเพราะรู้ตัวว่าไปทางอื่นลำบากเลยมาเวย์นี้เต็มที่แล้วรู้ดีว่าคนดูที่เข้ามาดูหนังเรื่องนี้หนังแนวนี้ต้องการอะไรก็จัดให้ตามนั้นอย่างไม่มีกั๊ก แต่ก็เต็มไปด้วยพัฒนาการจนฉากสุดท้ายก็กลายเป็นกองเชียร์ Pink Storm ไปโดยปริยายที่ยังไม่วายไม่ไว้ใจเกาหลีแต่ยังดีที่ไม่ใจร้ายกินไปนะ เรื่องการแสดงในบทบาทในหนังที่สัตย์ซื่อต่อแนวทางแบบนี้คงไม่มีอะไรให้สาธยายแต่มีดีที่บทรับเชิญที่น่าจดจำ ถ้าว่ากันที่นักแสดงหนังเรื่องนี้มีจุดขายหรือนักแสดงเบอร์ใหญ่แค่คนเดียวนั่นคือซงคังโฮที่เป็นนักแสดงเบอร์ต้นของเกาหลีที่มักมีผลงานภาพยนตร์ไม่ค่อยเห็นเล่นซีรีส์ ส่วนนักแสดงคนอื่นๆที่คุ้นหน้าก็มีแค่พัคจองมินที่คุ้นหน้าแต่ว่าก็ไม่ได้เตะตาขนาดนั้น กับอีกคนก็คือจางยุนจู (Money Heist: Korea) นอกนั้นเป็นใครบ้างก็ไม่รู้ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะตัวละครในหนังสูตรจ๋าแบบนี้ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของนักแสดงเกาหลี แต่สิ่งที่เป็นคือบางครั้งจุดเปลี่ยนอะไรที่ไม่ได้เล่ามากเหมือนง่ายเกินไปแต่เมื่อถูกถ่ายทอดโดยนักแสดงระดับซงคังโฮก็กลายเป็นเนียนได้อย่างน่าทึ่ง แต่ที่น่าสนใจคือการมาในบทรับเชิญของโจจองซอกในบทโค้ชของทีมปลายแถวเหมือนกันที่กลายเป็นว่าการเข้าฉากร่วมกันของซงคังโฮกับพี่เผือกโจจองซอกกลายเป็นสีสันที่น่าจดจำซะงั้น ยังไม่รวมถึงการปรากฎตัวของนักวอลเลย์บอลตัวตึงตัวจริงของเกาหลีอย่างคิมยอนคยอง อาจเพราะไม่คาดหวังจึงดูสนุกกว่าที่คิดมีอารมณ์ขันร้ายๆมีดราม่าที่เนียนๆมีฉากการแข่งขันที่สนุกพอดูรวมๆแล้วมีเสน่ห์ สารภาพว่าปัจจุบันผู้เขียนไม่ตื่นเต้นตั้งตาคาดหวังอะไรจากหนังสูตรจ๋าๆแบบนี้มานานแล้วเพราะเอาแค่เปิดหัวมาก็รู้ว่าหนังจะพาไปยังทิศทางไหนและจะลงเอยอย่างไร ก็ใช่ที่เมื่อเป็นเกาหลีหรือที่อื่นเดี๋ยวนี้ก็อาจเป็นที่เมื่อไม่ถึงนาทีสุดท้ายก็ยังไว้ใจไม่ได้และเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้น เพราะเมื่อถึงจุดสุดท้ายยอมรับว่าไม่ไว้ใจกลัวหักมุมแต่สุดท้ายก็จบได้ตามครรลองที่ก็สมใจเพราะก็เรียกอารมณ์ร่วมมาได้ขนาดนั้น แต่ก่อนหน้านั้นยอมรับว่าผู้เขียนไม่คาดหวังอะไรแต่ผลที่ได้กลับสนุกกว่าดีกว่าที่คิดคือคิดนะว่ามันจะมาตามนี้ตามนั้นและก็มาตามนั้นตามนี้จริงแต่มันสนุก เพราะหนังมาพร้อมอารมณ์ขันร้ายๆที่มีความพอดีไม่เปรอะเปื้อนคือบทกำหนดมาให้เป็นแบบนั้นและแน่นอนบทหนังต้องมีดราม่าเพราะมันคืองานดราม่ากีฬาแล้วก็จัดการได้เพราะสุดท้ายก็ขนลุก ทำให้เมื่อผนวกรวมทุกสิ่งที่หนังเป็นแม้จะเคยเห็นมานักต่อนักแต่ก็มีเสน่ห์รวมถึงฉากแข่งขันในสนามให้ลุ้น ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2.3,4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram kidaristudio.movie จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !