ซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่น เป็นซีรีส์ที่เน้นฉากการต่อสู้ที่ดุเดือด ทรงพลัง และชวนระทึกขวัญ ส่วนใหญ่แล้วจะมีเส้นเรื่องที่มีปมหลักของเรื่องให้เรารู้สึกอยากติดตามเพื่อให้รู้ว่าสุดท้ายแล้วปมนั้นจะถูกคลี่คลายได้อย่างไร อีกทั้งยังมีการสะท้อนประเด็นต่าง ๆ ในสังคมที่น่าสนใจอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์เกาหลีอีกแนวที่สนุกครบรสมาก ๆ ในบทความนี้เราจึงนำ 12 ซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ฉากต่อสู้ดุเดือด อัปเดตล่าสุด มาเสิร์ฟให้ทุกคนได้เลือกชมกัน รับรองว่าสนุกทุกเรื่องแน่นอนค่า รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! 1. A Shop for killers (2024) เรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่น บอกเล่าเรื่องราว "จองจินมัน" (รับบทโดย อีดงอุค) อดีตทหารรับจ้างที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านลับขายอาวุธให้กับนักฆ่ามืออาชีพ หลังจากครอบครัวของเขาถูกฆ่าล้างเหลือเพียงเขากับหลานสาว จองจีอัน (รับบทโดย คิมฮเยจุน) ทั้งคู่ต้องเผชิญกับทีมลอบสังหารที่ตามล่าอย่างไม่หยุดยั้ง ในขณะเดียวกัน จองจีอันต้องเรียนรู้การเอาชีวิตรอดและไขความลับเบื้องหลังธุรกิจมืดที่อาทิ้งไว้ให้ รีวิว ซีรีส์เกาหลี แอคชั่น 2024 เรื่องนี้บอกได้เลยว่า สนุก เข้มข้น และน่าตื่นเต้นแทบทุกวินาที ด้วยพล็อตของเรื่องที่ทิ้งปมปริศนาหลอกล่อคนดูอย่างเราให้เดาทางและความเป็นไปได้อยู่ตลอด แถมตัวละครแต่ละตัวก็มีปูมหลังที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกัน มีมิติสูง ไม่ได้มีแค่ด้านขาวหรือด้านดำ ดูแล้วรู้สึกผูกพันกับตัวละครขึ้นมาทันที ส่วนตัวชอบเรื่องนี้มากเพราะค่อนข้างครบรสแม้จะมีตอนน้อยไปหน่อย แต่กลับสามารถเล่าเรื่องได้น่าลุ้นเอาใจช่วยนางเอกมาก แถมน้องยังฉลาดและเก่งอีกด้วยนะ ใครที่กำลังลังเล ขอป้ายยาให้ไปดูเลยจ้า >> อ่านรีวิวจัดเต็ม : รีวิว A Shop for Killers ซีรีส์เกาหลี แนวแอ็กชั่นดราม่า สุดตื่นเต้น ที่พลาดแล้วน่าเสียดายมาก! << ตัวอย่าง A Shop for killers (2024) https://youtu.be/Kv4889ecbe8?si=vr6pyDNyYQHUViT0 2. Moving (2023) เรื่องย่อ ซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่นเรื่องนี้เล่าเกี่ยวกับชีวิตของ เหล่าสุดยอดคนเหนือมนุษย์ ที่พวกเขาเกิดมาพร้อมพลังวิเศษติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ด้วยเพราะต้องปิดบังความจริงเพื่อความปลอดภัยจากองค์กรลึกลับ พวกเขาจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางไม่ให้ใครรู้ความจริงที่ซ่อนไว้ รีวิว เป็นซีรีส์เกาหลี แอคชั่น พากย์ไทย ที่แค่จั่วหัวเรื่องมาก็น่าติดตามสุด ๆ แล้ว ด้วยเรื่องราวของเหล่าผู้มีพลังเหนือมนุษย์ แถมยังต้องคอยหนีการตามล่าขององค์กรลึกลับและการตามกำจัดจากมือสังหารปริศนา ส่วนตัวชอบเรื่องนี้ตรงที่เส้นเรื่องเล่าเกี่ยวกับชีวิตของเด็กวัยรุ่นม.ปลายที่กำลังต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปพร้อมกับข้อจำกัดในส่วนที่ต้องพยายามกลมกลืนกับเด็กปกติไปด้วย ที่สำคัญซีรีส์ยังเล่าเกี่ยวกับพาร์ทความรักมาด้วย ทำให้ไม่เครียดมากเกินไป สนุก ครบรส ในส่วนของฉากต่อสู้ก็ทำได้ดี น่าประทับใจเช่นเดียวกัน ตัวอย่าง Moving (2023) https://youtu.be/UVYw3biOgyE?si=i9075sDQcNsH6i_K 3. The Uncanny Counter (2020) เรื่องย่อ กลุ่ม "เคาน์เตอร์" นักล่าปีศาจในคราบพนักงานร้านบะหมี่ในภารกิจปราบวิญญาณร้ายที่หลบหนีจากปรโลก พวกเขาต้องเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่ง พร้อมสมาชิกที่มีพลังพิเศษไม่แพ้กัน ความสัมพันธ์ระหว่างทีมถูกทดสอบ ขณะเดียวกันพวกเขายังต้องไขปมอดีตที่เกี่ยวพันกับความลับอันตราย การต่อสู้ของคนธรรมดาผู้มีพลังพิเศษจึงเข้มข้นและดุเดือดยิ่งกว่าเดิม รีวิว เป็นซีรีส์แอคชั่นเกาหลี Netflix ที่ดูแล้วรู้สึกสดใหม่มาก ๆ เพราะมันผสมทั้งพลังเหนือธรรมชาติ ความอบอุ่นของทีมเวิร์ก และความดาร์กของเหล่าปีศาจได้อย่างลงตัว จุดที่ประทับใจที่สุดคือตัวเอกอย่าง “โซมุน” ที่จากเด็กมัธยมธรรมดา กลายมาเป็นนักล่าปีศาจที่ต้องรับมือทั้งเรื่องพลังและแผลในใจ ซึ่งซีรีส์เล่าออกมาได้อินสุด ๆ ทุกตัวละครในทีมเคาน์เตอร์มีแบ็คกราวด์ที่จับต้องได้และน่ารักไปคนละแบบ แถมการไล่ล่าปีศาจก็ทำได้ลุ้นมาก ๆ มีทั้งฉากซึ้ง ฉากสู้ และฉากตลกสลับกันแบบไม่มีจุดน่าเบื่อเลย ตัวอย่าง The Uncanny Counter (2020) https://youtu.be/rI55SRM6uhs?si=z25PvqvVNGb2m1CY 4. Sweet Home (2020) เรื่องย่อ "Sweet Home" เป็นเรื่องราวของ "ชาฮยอนซู" ชายหนุ่มที่สูญเสียครอบครัวและย้ายมาอยู่ในอพาร์ตเมนต์กรีนโฮม ขณะที่เขาพยายามใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว โลกกลับถูกคุกคามจากการแพร่กระจายของไวรัสลึกลับที่ทำให้มนุษย์กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด ผู้อยู่อาศัยในอพาร์ตเมนต์ต้องรวมตัวกันเพื่อเอาชีวิตรอดและต่อสู้กับเหล่าสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว รีวิว ซีรีส์แอคชั่น Netflix แนวระทึกขวัญ–แฟนตาซีเรื่องนี้ส่วนตัวดูแล้วใจเต้นไม่เป็นจังหวะจริง ๆ เพราะตั้งแต่ตอนแรกก็ดึงเราเข้าไปสู่โลกที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและปีศาจที่เกิดจากกิเลสมนุษย์ได้แบบไม่ทันตั้งตัว คาแรคเตอร์ของ "ชาฮยอนซู" ที่เริ่มต้นจากเด็กหนุ่มซึมเศร้า แต่ค่อย ๆ กลายเป็นคนที่ยอมสละตัวเองเพื่อคนอื่น ทำให้รู้สึกอินและเอาใจช่วยสุด ๆ บรรยากาศในอพาร์ตเมนต์กรีนโฮทั้งอึดอัดและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน ทุกตัวละครมีบทบาทและการเติบโตของตัวเองที่ทำให้เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ซีรีส์มอนสเตอร์ แต่เป็นเรื่องของความเป็นมนุษย์ล้วน ๆ การถ่ายทำ โปรดักชัน และ CG คือคุณภาพระดับหนังฟอร์มใหญ่ ตัวอย่าง Sweet Home (2020) https://youtu.be/7rI56NmD33Y?si=7LNUOr-A9twBgAzD 5. Taxi Driver (2021) เรื่องย่อ "Taxi Driver" เป็นเรื่องราวของ "คิมโดกี" อดีตทหารที่ผันตัวมาเป็นคนขับแท็กซี่ในบริษัท Rainbow Taxi ซึ่งมีบริการลับพิเศษในการแก้แค้นแทนเหยื่อที่ถูกกฎหมายเมินเฉย เขาและทีมงานช่วยเหลือผู้ที่ถูกกระทำอย่างอยุติธรรม โดยใช้วิธีการที่ดุดันและไม่ธรรมดา เรื่องนี้ผสมผสานความแอคชั่นและความตื่นเต้น พร้อมการสะท้อนถึงความอยุติธรรมในสังคม รีวิว Taxi Driver เป็นซีรีส์เกาหลีแอคชั่น พระเอกเก่งที่รับภารกิจ “ล้างแค้นแทนเหยื่อ” โดยใช้วิธีนอกระบบกฎหมายที่คนดูอย่างเรารู้ว่าอาจไม่ถูกต้อง 100% แต่กลับรู้สึกสะใจทุกครั้งที่คนเลวถูกลงโทษอย่างสาสม โดยเฉพาะตัวเอก “คิมโดกี” ที่รับบทโดยอีเจฮุน เล่นได้เท่มาก ทั้งฉากบู๊ ดราม่า และมุมเงียบ ๆ ก็ถ่ายทอดได้ลึกสุดใจ ทุกตอนเป็นการหยิบคดีที่ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงในเกาหลีใต้ ทำให้ดูแล้วอินและสะเทือนใจสุด ๆ ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ยังแอบตั้งคำถามถึงระบบยุติธรรมที่ล้มเหลว ตัวอย่าง Taxi Driver (2021) https://youtu.be/_Ii5KxWlqqw?si=ZyopAK4bnkuyRPyW 6. Vagabond (2014) เรื่องย่อ "Vagabond" เล่าเรื่องราวของ "ชาดัลกอน" (รับบทโดย ลีซึงกิ) สตันท์แมนที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียเมื่อหลานชายของเขาเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก ในขณะที่เขาพยายามหาความจริงเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมนี้ กลับพบว่ามีการคอรัปชันระดับชาติที่โยงใยถึงองค์กรข้ามชาติ ด้วยความช่วยเหลือของ "โกแฮริ" (รับบทโดย แบซูจี) เจ้าหน้าที่ NIS ทั้งคู่ต้องเผชิญกับการต่อสู้ข้ามประเทศเพื่อค้นหาผู้บงการเบื้องหลัง รีวิว เป็นซีรีส์เกาหลี แอคชั่นและสืบสวนที่ดูแล้วหัวใจแทบหยุดเต้นทุกตอน เพราะพล็อตสุดเข้มข้นตั้งแต่ต้นจนจบ เริ่มจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่ดูเหมือนอุบัติเหตุธรรมดา แต่พอดำเนินเรื่องไปกลับกลายเป็นแผนสมคบคิดระดับชาติ พระเอก "ชาดัลกอน" ที่รับบทโดยอีซึงกิ คือเท่มากกกกกก เป็นสตั๊นท์แมนที่พร้อมลุยสุดตัวเพื่อตามหาความจริงให้หลานชายที่เสียชีวิตแบบไม่เป็นธรรม และเคมีระหว่างเขากับสายลับโกแฮรี (ซูจี) ก็ดีจนลุ้นทั้งแอ็กชันและความสัมพันธ์ไปพร้อม ๆ กัน จุดเด่นของเรื่องคือการเล่าเรื่องแบบไม่ปล่อยให้คนดูได้พัก พร้อมฉากแอ็กชันที่จัดเต็มเหมือนดูหนังฟอร์มยักษ์ ตัวอย่าง Vegabond (2014) https://youtu.be/tyhnEHCUtv4?si=Sz79kWidWnfb-mM5 7. Duty After School (2023) เรื่องย่อ "Duty After School" เป็นเรื่องราวของนักเรียนมัธยมปลายชั้น ม.6 ที่ต้องเปลี่ยนชีวิตจากการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปสู่การฝึกซ้อมรบ เมื่อเอเลี่ยนลึกลับในรูปทรงกลมบุกโลก รัฐบาลเสนอคะแนนพิเศษให้กับนักเรียนที่เข้าร่วมเป็นทหารสำรอง ทำให้พวกเขาต้องหยิบปืนแทนปากกาและร่วมต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากมหันตภัยนี้ รีวิว ซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่นเรื่องนี้ตอนที่ดูรู้สึกอึ้งและอินมากกว่าที่คิดไว้ เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องเอเลี่ยนบุกโลกธรรมดา แต่คือการตั้งคำถามถึงชีวิตเด็กนักเรียนที่ถูกดึงเข้าสู่สงครามโดยไม่สมัครใจ แค่เห็นนักเรียนมัธยมต้องถือปืนแทนปากกาก็จุกแล้วอะ! บรรยากาศของเรื่องทั้งกดดัน สะเทือนใจ และจริงจัง ตัวละครหลายคนมีพัฒนาการชัดเจนมาก จากเด็กที่ไม่เอาอะไร กลายเป็นคนที่สู้เพื่อเพื่อน เพื่อชีวิต และเพื่ออนาคตที่อาจไม่มีอยู่จริง ฉากแอ็กชันจัดเต็มแต่ไม่กลบเนื้อหาหนัก ๆ ที่ซีรีส์อยากจะสื่อ ดูจบแล้วใจหวิวมาก เหมือนโดนสะกิดให้กลับมาคิดว่า “ความสงบสุขที่เรามี มันเปราะบางแค่ไหน” ตัวอย่าง Duty after school (2023) https://youtu.be/zYiXxz8Ft0U?si=4_PY_gWsEY0qAeJi 8. My Name (2021) เรื่องย่อ "My Name" เป็นเรื่องราวของ "จีอู" ที่ต้องการแก้แค้นหลังพ่อของเธอถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เธอจึงเข้าร่วมกับแก๊งค้ายาและปลอมตัวเป็นตำรวจ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก "ชเวมูจิน" หัวหน้าแก๊ง จีอูต้องต่อสู้ทั้งในโลกอาชญากรรมและวงการตำรวจเพื่อตามหาความจริงและคนที่ฆ่าพ่อของเธอ ซีรีส์นี้เต็มไปด้วยฉากบู๊สุดระทึกและความลุ้นระทึกตลอดเรื่อง รีวิว เป็นซีรีส์เกาหลีแอคชั่นแนวล้างแค้นที่ดูแล้วทั้งเดือด ทั้งดราม่า และบีบหัวใจแบบสุด ๆ เพราะมันเล่าเรื่องของ "ยุนจีอู" ผู้หญิงที่ยอมทิ้งชีวิตแสนสงบสุขของตัวเอง เพื่อเข้าไปอยู่ในโลกอาชญากรรมและตำรวจ เพื่อตามล่าความจริงเรื่องการตายของพ่อ การเดินทางของจีอูไม่ได้มีแค่เลือดและน้ำตา แต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด การหักหลัง และคำถามว่า "ถ้าเราต้องเป็นคนเลว ถึงจะได้ความยุติธรรมกลับมา เราจะยอมไหม?" พส. ฮันโซฮีในเรื่องนี้คือเล่นดีมาก สลัดคราบนางเอกสาวเรื่องก่อน ๆ ได้หมดเปลือก ยิ่งฉากแอ็กชันคือโหดและสมจริงมาก ตัวอย่าง My name (2021) https://youtu.be/MaJ7ZT70ve4?si=Ehl90Q016tfMciqQ 9. Kingdom Season 2 (2020) ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด เรื่องย่อ หลังจากโรคระบาดซอมบี้แพร่กระจายไปทั่วแผ่นดิน องค์ชายรัชทายาทอีชางยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องประชาชนและเปิดโปงความลับของราชสำนัก ซีซั่นนี้ความจริงเกี่ยวกับต้นตอของโรคร้ายค่อย ๆ เผยออกมา ขณะที่ศัตรูทางการเมืองก็รุกหนักขึ้นทุกด้าน อีชางต้องเลือกระหว่างอำนาจกับชีวิตของผู้คน เมื่อภัยคุกคามจากทั้งมนุษย์และซอมบี้อยู่รอบตัว ความระทึกจึงยิ่งทวีคูณทุกตอน รีวิว Kingdom Season 2 เป็นซีรีส์เกาหลีที่สานต่อความพีคจากภาคแรกแบบไม่มีแผ่วเลยจริง ๆ ความรู้สึกหลังดูคือเหมือนโดนดูดเข้าไปในวังวนของความกลัว ความหิว และการแย่งชิงอำนาจแบบโหดสุดขีด! ซอมบี้ในภาคนี้ยังคงน่ากลัวเหมือนเดิม แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือคนที่ยังมีลมหายใจ โดยเฉพาะพวกชนชั้นสูงที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง ซีซั่นนี้เปิดเผยปริศนาเกี่ยวกับโรคระบาดได้มากขึ้น แถมยังทำให้ตัวละครอย่างองค์ชายอีชางดูมีพัฒนาการชัดเจนและน่าชื่นชมมากขึ้นกว่าเดิม การดำเนินเรื่องเร็ว เข้มข้น และดึงอารมณ์ได้ตลอด ฉากแอ็กชันก็ยังคงจัดเต็มไม่มีเมตตา เหมือนดูหนังระดับฮอลลีวูด สำหรับใครที่ดูภาคแรกแล้วชอบ บอกเลยว่า Kingdom Season 2 จะทำให้คุณยิ่งติด หนัก และอดหลับอดนอนแน่นอน ตัวอย่าง Kingdom Season 2 (2020) https://youtu.be/7ecrESKwh_Y?si=WqIhLCZKSAK1WV6o 10. Kill It (2019) เรื่องย่อ "Kill It" เป็นเรื่องราวของ "คิมซูฮยอน" นักฆ่าฝีมือฉกาจที่มีชีวิตอยู่ในเงามืด เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของตน เขาปลอมตัวเป็นสัตวแพทย์ ขณะเดียวกัน "โดฮยอนจิน" นักสืบผู้มุ่งมั่นไล่ล่าคนร้ายในคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง กำลังตามหาฆาตกรลึกลับ ทั้งสองมีเส้นทางที่เกี่ยวพันกันในแบบที่คาดไม่ถึง รีวิว นี่เป็นซีรีส์เกาหลีแอคชั่นพระเอกหล่อเรื่องหนึ่งในดวงใจ แต่ก็ดูแล้วทั้งเท่ ทั้งเศร้า และเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ค้างคาในใจ เพราะพระเอกของเรื่องคือ “คิมซูฮยอน” นักฆ่ารับจ้างที่ดูเย็นชา แต่ลึก ๆ แล้วกลับมีจิตใจอ่อนโยน และพยายามค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเองตลอดทั้งเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ “โดฮยอนจิน” ตำรวจสาวที่ตามล่าเขาอยู่ มันซับซ้อนแบบบีบหัวใจ เพราะทั้งคู่ต่างมีอดีตที่ผูกพันกันโดยไม่รู้ตัว การเล่าเรื่องเต็มไปด้วยบรรยากาศหม่น ๆ มีฉากแอ็กชันที่คมกริบ ผสมกับมุมอารมณ์ที่เจ็บลึก ดูจบแล้วจะเข้าใจเลยว่าความรัก ความสูญเสีย และความยุติธรรม มันไม่ได้ชัดเจนเป็นขาวดำ ตัวอย่าง Kill It (2019) https://youtu.be/bHhxocusS7M?si=ae1dSNSNqE6RhMJ4 11. Vigilante (2023) เรื่องย่อ "Vigilante" เป็นเรื่องราวของ "คิมจียง" นักเรียนตำรวจผู้กลายมาเป็นฮีโร่สายดาร์ก เขาสวมบทบาทเป็นศาลเตี้ยในช่วงสุดสัปดาห์ ลงโทษอาชญากรที่หลบหนีกฎหมายได้อย่างโหดเหี้ยม ภายใต้การจับตามองจากตำรวจและสื่อที่พยายามเปิดโปงตัวตนของเขา คิมจียงต้องเผชิญกับความท้าทายจากระบบยุติธรรมและศีลธรรมที่บิดเบี้ยวในโลกที่ไม่เป็นธรรม รีวิว ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์เกาหลีแนวบู๊พากย์ไทยที่ดูแล้วเดือดปุด ๆ และสะใจมาก เพราะมันเล่าเรื่องของ “คิมจียง” นักเรียนตำรวจหนุ่มที่กลางวันเรียนเป็นตำรวจ แต่กลางคืนกลายเป็นศาลเตี้ยไล่ลงโทษคนเลวที่กฎหมายลงโทษไม่ได้ ความเจ๋งคือซีรีส์ทำให้เรารู้สึกขัดแย้งในใจตลอดเวลาว่า “สิ่งที่เขาทำมันผิดไหม? หรือจริง ๆ แล้วมันคือความยุติธรรมในแบบที่โลกต้องการกันแน่?” การแสดงของนัมจูฮยอกคือพลิกบทบาทสุด ลืมภาพพระเอกสายละมุนไปได้เลย เพราะเรื่องนี้เขาเล่นบทโหดได้เฉียบมาก ๆ ทั้งสายตา สีหน้า และฉากบู๊ที่เท่บาดใจ บรรยากาศของเรื่องก็เข้มข้น ดิบ เงียบ แต่กดดันทุกตอน 12. The Worst of Evil (2023) เรื่องย่อ เป็นเรื่องราวของ "พัคจุนโม" ตำรวจสายสืบที่ถูกส่งเข้าไปแฝงตัวในแก๊งมาเฟียค้ายาเสพติดข้ามชาติชื่อดังในย่านกังนัม โดยมี "จองกีชอล" เป็นหัวหน้าแก๊ง ความสัมพันธ์ระหว่างจุนโมและแก๊งนี้ค่อยๆ ซับซ้อนขึ้นเมื่อภรรยาของเขาแฝงตัวในแก๊งเดียวกันโดยไม่รู้ตัว จุนโมต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่อันตราย ทั้งภายนอกและภายในใจ รีวิว หลังจากดูซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่นเรื่องนี้แล้วบอกตามตรงคือรู้สึกเหมือนโดนดูดเข้าไปอยู่ในโลกใต้ดิน ที่ทั้งโหด เทา และหักหลังกันได้ทุกวินาที เรื่องราวของตำรวจนอกเครื่องแบบที่ต้องแฝงตัวเข้าไปในแก๊งค้ายา กลายเป็นเกมอันตรายที่เดิมพันด้วยชีวิตและศีลธรรมในใจ บรรยากาศของซีรีส์หม่น ดิบ และจริงแบบสุด ๆ โดยเฉพาะการแสดงของจีชางอุคที่เท่และทรงพลัง ถ่ายทอดบทตำรวจที่ต้องเดินอยู่บนเส้นบาง ๆ ระหว่างความดีและความชั่วได้อย่างเฉียบขาด พล็อตเดินเร็ว ฉากแอ็กชันเดือดทุกตอน แต่ก็มีมิติของความสัมพันธ์ที่ทำให้คนดูอินและเจ็บไปพร้อมกับตัวละคร ดูจบแล้วอดคิดไม่ได้ว่า “บางครั้งคนเลวที่สุด...อาจไม่ได้เกิดมาเลว แต่ถูกสร้างขึ้นมาจากโลกที่โหดร้าย” บทความแนะนำ 12 หนัง & ซีรีส์เกาหลี แนวโรงเรียน มหาลัย รักใส ๆ สไตล์วัยรุ่น น่ารักอบอุ่นหัวใจ ขอบคุณภาพหน้าปก ภาพที่ 1: Netflix / ภาพที่ 2: Netflix / ภาพที่ 3: msteamenter ขอบคุณภาพประกอบ ภาพที่ 1: NAVER King Kong by Starship ภาพที่ 2: jungha.km ภาพที่ 3: Netflix ภาพที่ 4: Netflix ภาพที่ 5: Viu Thailand ภาพที่ 6: Netflix ภาพที่ 7: Viu Thailand ภาพที่ 8: Netflix ภาพที่ 9: Netflix ภาพที่ 10: Viu Thailand ภาพที่ 11: management_soop ภาพที่ 12: msteamenter ขอบคุณวิดีโอประกอบ วิดีโอที่ 1: @KINGKONGbySTARSHIPOfficial วิดีโอที่ 2: @hulu วิดีโอที่ 3: @netflixkcontent วิดีโอที่ 4: @Netflix วิดีโอที่ 5: @NetflixThailand วิดีโอที่ 6: @NetflixAsia วิดีโอที่ 7: @VikiGlobalTV วิดีโอที่ 8: @NetflixAsia วิดีโอที่ 9: @Netflix วิดีโอที่ 10: @CJENM_Global HASHTAG #ซีรีส์เกาหลี #ซีรีส์เกาหลีแนวแอ็คชั่น #รีวิวซีรีส์เกาหลีแอ็คชั่น เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !