รีเซต

รีวิวหนัง "Ant-Man and the Wasp: Quantumania" เฟส 5 เริ่มขึ้นแล้ว..ก็เหมือนเดิม

รีวิวหนัง "Ant-Man and the Wasp: Quantumania" เฟส 5 เริ่มขึ้นแล้ว..ก็เหมือนเดิม
Jeaneration
15 กุมภาพันธ์ 2566 ( 11:00 )
7.3K

อาจจะต้องบอกตามตรงเลยว่า เฟส 4 ของมาร์เวลที่ผ่านมา มีส่วนที่ลดหลั่งความถวิลหาและความใคร่ที่กระตือรือร้นในการติดตามจักรวาลหนังแห่งนี้ไปค่อนข้างพอสมควร และมันก็ค่อนข้างส่งผลกระทบต่อหนังลำดับที่ 31 ของค่าย อย่าง "Ant-Man and the Wasp: Quantumania" ที่มีความอืดอาดในแรงจูงใจที่จะดูไปด้วย และนั่นเป็นโจทย์ที่ท้าทาย เพราะทำอย่างไรจะดึงศรัทธาคนให้กลับมา และออกสตาร์ทเฟสใหม่ได้ดีกว่าที่เคยทำไว้

Ant-Man and the Wasp: Quantumania เล่าเรื่องราวสานต่อในสิ่งที่เกิดขึ้นกับ สก็อต แลง ที่ร่วมทีมด้วย โฮป แวน ไดน์, แฮงก์ พิม, เจเน็ต แวน ไดน์ และลูกสาวของเขา แคสซี่แลง ที่พวกเขาทั้งหมดจะร่วมออกผจญภัยไปด้วยกัน หลังจากที่ได้หลุดเข้าไปสู่ควอนตัม โลกที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตน่าพิศวงมากมาย และหนึ่งในนั้นคือ แคงผู้ชิต

เอาจริง ๆ Ant-Man เหมือนกันหลุมดำของจักรวาลนี้เหมือนกัน เพราะมักจะถูกตราหน้าป้ายสีว่าเป็นหนังนอกสายตาที่สุดจากบรรดาเรื่องอื่น ๆ จากกลุ่มเดียวกัน อาจจะเพราะไม่ใช่ตัวละครฮีโร่ที่โดดเด่นที่สุด และทั้งทีมนักแสดงก็ไม่ได้ระดับแม่เหล็กที่สุด แต่เผลอ ๆ หนังเรื่องนี้ก็เข็นภาคใหม่ออกมาครบไตรภาคแล้วนะ ซึงการกลับมาครั้งนี้ของพวกเขา ก็ยังมากับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ในการประเดิมเป็นตัวนำเปิดเฟสที่ 5 อย่างเป็นทางการด้วย

แต่กระนั้น Ant-Man ก็ยังคงเป็น Ant-Man ในภาคนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ที่ผลผลิตและทิศทางคล้าย ๆ เดิม เพิ่มเติมคือทิศทางเรื่องที่เหมือนจะเจะาจงเข้มข้นอย่างเป็นมีแก่นสารมากขึ้น เพราะหนังรับหน้าที่ในการเป็นเรื่องปูทางและเปิดตัวตัวละครวายร้ายหลักตัวใหม่ของจักรวาล อย่าง แคง ผู้พิชิต ที่ต้องยอมรับแบบง่าย ๆ ว่า โทนของหนังค่อนข้างดีขึ้น แต่ก็ยังเต็มไปด้วยจุดบกพร่องรายทางไปตลอดทาง

สตอรี่ของหนังก็ยังเน้นหลักทางวิทยาศาสตร์ผสมจินตนาการสุดล้ำ Ant-Man and the Wasp: Quantumania จึงกลายออกมาเป็นหนังแอคชั่นสูตรสำเร็จแบบมาร์เวล ที่ผนวกเอาสูตรแอคชั่นสงครามคล้าย ๆ กับหนังชุด Star Wars เข้ามาผสมโรง ฉากแอคชั่นไคลแม็กซ์ของหนังเรื่องนี้สร้างบรรยากาศตื่นตาแบบเดียวกันได้ตรงกับความรู้สึกเหมือนสงครามอวกาศอยู่ (แม้จะเป็นมิติควอนตัมขนาดเล็กจิ๋วก็ตาม)

เส้นเรื่องก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก แต่เน้นน้ำและสีสันฉูดฉาดในการสร้างโลกและบรรยากาศของหนังเข้ามาทำให้ชวนติดตามแทน บทหนังก็แทบจะไม่มีอะไรมากนัก มีเนื้อหาอยู่เพียบแค่หยิบมือ แต่ถูกนำมาขยายความแต่งเติมโลกใหม่ ๆ ที่แฟนหนังยังไม่คุ้นเคยดี ถึงแม้ว่าบทหนังจะแสนธรรมดามาก บางจุดค่อนข้างสร้างความหงุดหงิดด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นจุดที่พอดูได้เพลิดเพลินได้อยู่

หนังใช้สูตรสำเร็จเดิม ๆ ของหนังมาร์เวลแทบจะทุกส่วน ในขณะนี้องค์ประกอบเทคนิคพิเศษและซีจีต่าง ๆ ในหนังเรื่องนี้ แม้ว่าจะแอบรู้สึกเป็นกังวลเบา ๆ ในส่วนนี้ หลังจากที่ได้เห็นในทีเซอร์ต่าง ๆ แต่พอได้สัมผัสกับเนื้อในของหนังแล้ว ก็ถือว่าเป็นงานตามมาตรฐานของมาร์เวล ซีจีงานสร้างไม่ได้โดดอะไร กลมกลืนไปกับท้องเรื่องได้ใช้ได้ แม้ว่าดูลิเกไปสักหน่อย เพราะหนังทั้งเรื่องแทบจะถ่ายทำอยู่แต่หน้ากรีนสกรีนทั้งนั้นเลย

ทางด้านการแสดงนั้นก็ถือว่าได้ดีตามมาตรฐานเช่นเดิม "พอล รัดด์" ยังรับหน้าที่นำทีมและนำหนังเรื่องนี้ได้อย่างเข้มแข็ง แต่เอาจริง ๆ ถ้าให้เขานำเดี่ยวเพียงลำพังก็น่าจะเอาไม่อยู่เหมือนกัน แต่ดีที่ยังทีมอย่างซัพพอร์ต "เอแวนเจลีน ลิลลี่", "มิเชล ไฟเฟอร์" และ "ไมเคิล ดักดัส" มาช่วยฟอร์มทีมกันอย่างสามัคคี และพวกเขาก็ยังสร้างเสน่ห์ในตัวละครของตัวเอง

โดยที่ผู้ชมน่าจะถูกตกโดย "แคทลิน นิวตัน" ที่เข้ามาสมทบในบท แคสซี่ แลงก์ ลูกสาวของแอนท์แมน ที่นับว่าเป็นพลังความสดใหม่และสร้างความเฟรชให้กับหนังได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเธอจะยังใหม่กับหนังเรื่องนี้ แต่ก็มาเป็นสีสันใหม่ที่สดใสและสร้างนำไปต่อยอดต่อเติมตัวละครนี้ได้อีกยาวไกล ส่วนอีกหนึ่งตัวละครที่ไม่พูดถึงก็คงจะไม่ได้ เขาน่าจะเป็นตัวขโมยซีนและ MVP หลัก ๆ ของหนังเรื่องนี้ กับ "คอรีย์ สตอล" ที่มารับบทเป็น "โมด็อก" น้อยแต่มาก เป็นสีสันในทุกซีนที่โผล่มาจริง ๆ

และแน่นอนว่าดาวเด่นของเรื่องนี้ก็คือ "โจนาธาน เมเจอร์ส" ที่มาปรากฏตัวในฐานะ แคง ผู้พิชิต วายร้ายตัวใหม่ที่ไม่ใช่แค่เพียงเฉพาะหนังเรื่องนี้ แต่จะส่งอิทธิพลไปทั้งเฟสหนังจักรวาลมาร์เวลในอนาคตต่อไปด้วย ลีลาการแสดงของเขาไหลลื่นจากความเป็นมืออาชีพของเขาด้วยดีอยู่แล้ว แม้ว่าในด้านมิติบทบาทคาแรกเตอร์ตัวละครนี้จะยังไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเท่าไหร่นัก แต่เขาก็ถ่ายทอดออกมาให้ดูมีอะไร ทั้งน่ากลัว น่าเกรงขาม และน่าสงสารไปในคราวเดียวกัน นับว่าเขาดีไซน์ตัวละครนี้ออกมาใช้ได้ แม้ว่าจะเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งจากทั้งหมดที่เขาจะต้องรับมือต่อไปก็ตาม

ทั้งนี้ สัมผัสได้ชัดเจนเลยว่า Ant-Man and the Wasp: Quantumania มาเพื่อมาทำหน้าที่ส่งสัญญาณและส่งเคมีความเข้มข้นของหนังมาร์เวลในอนาคตอันใกล้ ที่จะเป็นตอกย้ำว่าเส้นเรื่องจะกลับมาคงเส้นคงวาและเข้มแข็งเป็นจักรวาลอีกครั้ง หลังจากที่เฟส 4 เหมือนเป็นการพักเบรกโฆษณาไปเบา ๆ จากสถานการณ์โควิด-19 ที่โลกเผชิญหน้ากับทั้งหมด

ถึงภาพโดยรวมของ Ant-Man and the Wasp: Quantumania จะยังไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบอะไร แต่อย่างน้อย ๆ ก็สามารถทำหน้าที่เป็นการเปิดเฟสใหม่ได้อย่างน่าสนใจ แม้จะยังคงหยิบใช้มาตรฐานเดิม ๆ ของจักรวาลแห่งนี้มาแบบเหมือนอาหารสำเร็จรูปก็ตาม แต่หนังก็ยังรู้สึกจังหวะและโทนที่แฟนหนังต้องการดี เซอร์วิสได้อย่างน่าพึงพอใจ และอย่างน้อย ๆ ก็ดูดีขึ้นในแง่ในบางมุมเมื่อเทียบกับ Ant-Man ภาคก่อน ๆ ทั้งพัฒนาตัวละครและความสัมพันธ์ต่าง ๆ

แต่กระนั้น Ant-Man 3 ก็ยังไม่สามารถทำหน้าที่ตรึงใจได้ เพราะดูจบแล้ว ก็พบว่าไม่มีแง่มุมอะไรให้น่าจดจำ สักแปบเดียวก็ลืมสิ่งที่ดูไปเสียแล้ว

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Ant-Man and the Wasp: Quantumania

  • ประเภท: แอคชั่น / ผจญภัย / ไซไฟ
  • ผู้กำกับ: เพย์ตัน รี้ด
  • นำแสดงโดย: พอล รัดด์, เอแวนเจลีน ลิลลี่, โจนาธาน เมเจอร์ส
  • ความยาว: 125 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 15 กุมภาพันธ์ 2023 (ในโรงภาพยนตร์)

Movie.TrueID METRIC: Ant-Man and the Wasp: Quantumania

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)

-------------------------------------

ดูหนังออนไลน์ได้ที่ >> Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย https://bit.ly/3xEgdAa