ฮัลลี แบร์รี อยากกำกับภาคต่อ "Catwoman" เพื่อโต้นักวิจารณ์ บางครั้งหนังห่วยแตกก็ไม่ได้แย่เสมอไป
แม้ว่าหนังซูเปอร์ฮีโร ‘Catwoman’ (2004) จะได้รับการพูดถึงในฐานะหนังเดี่ยวที่ดัดแปลงจากคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโรหญิงของ DC เรื่องแรกและเรื่องเดียวอย่างเป็นทางการ รวมทั้งการรับบทของนักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง ฮัลลี แบร์รี (Halle Berry) ที่ทำให้นางแมวเวอร์ชันนี้เป็น Catwoman ผิวดำที่มีความเซ็กซี่เป็นเอกลักษณ์ แต่อย่างที่ทราบกันว่า หนังที่กำกับโดยพิตอฟ (Pitof) ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสเรื่องนี้กลับโดนวิจารณ์ถล่มทลาย
และจนมาถึงวันนี้ ‘Catwoman’ ก็ถึงวาระครบรอบ 20 ปีแห่งการเข้าฉายพอดี แบร์รีวัย 58 ปี ที่ตอนนี้กำลังมีผลงานการแสดงหนังเรื่องใหม่ ‘The Union’ หนังนักสืบแอ็กชันทริลเลอร์คอเมดีของ Netflix ที่เธอรับบทคู่กับมาร์ก วอห์ลเบิร์ก (Mark Wahlberg) ได้ให้สัมภาษณ์กับจิมมี ฟอลลอน (Jimmy Fallon) ในรายการ The Tonight Show Starring Jimmy Fallon
แบร์รีเล่าเกี่ยวกับการรับมือคำวิจารณ์ของเธอจากหนัง ‘Catwoman’ ที่แม้จนถึงตอนนี้ก็ยังคงถูกพูดถึงในฐานะหนังที่ได้รับคำวิจารณ์อย่างรุนแรงว่า ‘ห่วยแตก’ แต่อย่างน้อย ๆ มันก็เป็นหนังที่มีคนรุ่นใหม่ ๆ กลับไปหาชมกันอย่างคับคั่ง
“ฉันชอบมันมาก ๆ เลยค่ะ มันเป็นหนังที่โดนวิจารณ์หนักมาก นักวิจารณ์บอกว่ามันโคตรห่วยแตก”
ฟอลลอน: “แค่คำวิจารณ์แย่ ไม่ได้ห่วยแตกซะหน่อย” (หัวเราะ)
“เอาจริง ๆ คำว่าห่วยแตกมันก็ไม่ได้แย่อะไรนะ” (หัวเราะ) “สิ่งที่ฉันมีความสุขเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็คือ ตอนนี้เด็ก ๆ ได้ค้นพบหนังเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ต และพวกเขาก็ชอบกันมาก ๆ มันเป็นการยืนยันอย่างหนึ่งว่า ณ ตอนนี้ที่พวกเขาบอกว่ามันเจ๋งมาก พวกเขาเลยสงสัยกันว่าทำไมทุกคนถึงมีปัญหากับหนังเรื่องนั้น ฉันก็เลยรู้สึกว่าตอนนี้ฉันน่ะโคตรจะดื้อด้านเลย”
ฟอลลอน: “ช่าย คุณมันโคตรจะดื้อเลย ดื้อตัวแม่ เปรตสุด ๆ เหมือนกับ Catwoman แต่เป็นเปรต woman”
หลังจากที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จากเวที Miss USA และได้รับอันดับที่ 6 จากเวที Miss World 1986 นางงามเจนเวทีอย่างแบร์รีก็ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง จนกระทั่งไปถึงพรมแดนหนังบล็อกบัสเตอร์ ด้วยการรับบทเป็น Storm ใน ‘X-Men’ (2000) และรับบทเป็นสาวบอนด์ในภาค ‘Die Another Day’ (2002) จนก้าวไปถึงจุดสูงสุดของอาชีพการแสดง ด้วยการเป็นนักแสดงหญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันคนแรกที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากการรับบทในหนังโรแมนติกดราม่า ‘Monster’s Ball’ (2001)
แม้จะมีรางวัลออสการ์เป็นใบเบิกทาง แต่ครั้งหนึ่งเส้นทางการแสดงของเธอก็สะดุดไม่เป็นท่า เมื่อเธอตอบรับเล่นหนังเดี่ยวนางแมวเรื่องแรก ‘Catwoman’ ที่แม้ว่าจะมีคนเตือนถึงความเสี่ยงที่จะอาจจะทำให้เส้นทางอาชีพพังพาบลงก็ตาม และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เพราะตัวหนังได้รับคำวิจารณ์ในแง่ลบในแทบจะทุกด้าน
ตั้งแต่บทที่วางเรื่องราวการต่อสู้ของ Catwoman ในการช่วยเหลือจากบริษัทผลิตเครื่องสำอางผู้ชั่วร้าย คาแรกเตอร์ที่จงใจขายความเซ็กซี่จนขาดความเป็นซูเปอร์ฮีโรจากต้นฉบับ คอสตูมชุดนางแมวที่ไม่ถูกใจ จนทำรายได้ไปเพียง 82 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญ จนทำให้ฮอลลีวูดขยาดกับหนังฮีโรหญิง และเป็นการผลักให้ชื่อของแบร์รีเลือนหายจากวงการไปพักใหญ่ ๆ
แต่ที่เรียกว่าเจ็บสุด ๆ ก็คือ การที่บทนางแมวของเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขานักแสดงนำหญิงยอดแย่ จากเวที Golden Raspberry Awards หรือ Razzie Award แถมในปีนั้นเธอยังได้รับรางวัลเสียด้วย แต่ที่พีกไปกว่านั้นก็คือ แทนที่จะส่งตัวแทนมารับรางวัลเหมือนนักแสดงคนอื่น ๆ เธอกลับเดินถือ Trophy รางวัลออสการ์ และเดินขึ้นเวทีไปรับ Trophy รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดแย่ด้วยมือของตัวเธอเอง ซึ่งแบร์รีได้ให้สัมภาษณ์กับ Vanity Fair ถึงเหตุผลที่เธอตัดสินใจเดินทางไปรับรางวัลนี้ด้วยตัวเอง
“ที่ฉันไปรับรางวัล Razzie ด้วยตัวเองก็เพราะฉันรู้สึกว่าเราทุกคนซีเรียสกับเรื่องนี้ไปหน่อยน่ะค่ะ ถ้าหากฉันได้รับออสการ์ เราจะถูกทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าเราเก่งกว่าคนอื่น ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยนะ คุณก็แค่ได้รับเลือกจากเพื่อนร่วมงานของคุณในปีนั้นเฉย ๆ พวกเขายอมรับว่างานคุณน่ะยอดเยี่ยม แต่คุณเก่งกว่าคนอื่นที่ไม่ได้รับรางวัลด้วยหรือเปล่า ? ก็ไม่นะ ฉันเลยคิดว่า ถ้าฉันได้ Razzie มันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นนักแสดงที่แย่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาสักหน่อย”
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชื่อเสียของหนังก็ส่งผลกระทบไปถึงความรู้สึกล้มเหลวในอาชีพของเธอเอง รวมทั้งการเป็นนักแสดงผิวดำ ก็ส่งผลให้ตัวเธอถูกวิจารณ์ไปด้วยเหมือนกัน เธอได้อธิบายในบทความฉลอง 20 ปี ‘Catwoman’ ของ Entertainment Weekly
“ในฐานะที่เป็นผู้หญิงผิวดำ ฉันเคยชินกับการที่ต้องแบกความคิดลบ ๆ ต่อสู้ และเป็นเหมือนปลาที่ว่ายทวนกระแสน้ำด้วยตัวเอง แน่นอนว่าฉันเองก็ไม่ชอบข่าวเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องหนึ่งหรอก แต่มันก็ไม่ได้ทำให้โลกของฉันหยุดหมุน หรือทำให้ฉันเลิกทำสิ่งที่ฉันรักได้”
“การเติบโตมาในฐานะผู้หญิงผิวดำ มันทำให้ฉันได้ความแข็งแกร่งในตัวตามธรรมชาติมาตั้งแต่เกิด ฉันเกลียดสิ่งที่ผู้คนโยนมาให้ฉัน และฉันเกลียดที่ทุกวันนี้มันก็ยังคงเป็นความล้มเหลวของฉันอยู่ ฉันรู้ว่าฉันสามารถแบกรับได้ ฉันยังคงมีอาชีพยืนยาวมาอีก 20 ปี และมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉัน”
“ฉันเคยผ่านทั้งความล้มเหลวและสำเร็จมาแล้ว และทุกอย่างก็โอเค แน่นอนว่าทุก ๆ คนต่างก็มีความคิดเห็น และบางครั้งเสียงของพวกเขาก็ดังกว่าคนอื่น สิ่งที่คุณจะทำได้ก็คือ แค่ก้าวเดินต่อไป”
ฟอลลอนถามคำถามสุดท้ายเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ว่า ในยุคที่นักแสดงซูเปอร์ฮีโรยุคเก่า ๆ สามารถมีโอกาสกลับมาปรากฏตัวบนหน้าจออีกครั้งได้ แบร์รีก็พร้อมที่จะกลับมาด้วยเงื่อนไขที่สำคัญในการได้ควบคุมเนื้อเรื่องเป็นของตัวเอง ดังเช่นหนังดราม่ากีฬา UFC เรื่อง ‘Bruised’ (2020) ที่เธอแสดงนำ และกำกับเป็นครั้งแรก ซึ่งหากมีโอกาส เธอก็พร้อมจะกลับไปรื้อเรื่องราวนั้นใหม่อีกครั้ง
ฟอลลอน: “คุณเคยคิดอยากจะกลับมารับบท ‘Catwoman’ อีกครั้งไหมครับ ?”
“ถ้าฉันได้กำกับเอง ก็อาจจะนะคะ…”
“ฉันอยากจะกำกับ ‘Catwoman’ มากค่ะ ถ้าฉันมีโอกาสในตอนนี้ ได้รู้ในสิ่งที่ฉันต้องรู้แล้ว และมีประสบการณ์จากการกำกับ ‘Bruised’ และถ้าฉันได้มีโอกาสที่จะจินตนาการถึงโลกใบนั้นใหม่อีกครั้ง ฉันก็อยากจะย้อนกลับไปจินตนาการถึง ‘Catwoman’ และทำมันใหม่ด้วยสิ่งที่ฉันรู้ในตอนนี้”
“ฉันคิดว่าเรื่องราวมันไม่เข้าท่าเลย ฉันจำได้ มีการโต้เถียงกันว่า ‘ทำไม Catwoman ถึงไม่สามารถกอบกู้โลกได้ เหมือนที่ Batman และ Superman ทำล่ะ ? ทำไมเธอถึงทำได้แค่ช่วยผู้หญิงจากบริษัทผลิตครีมที่ทำให้หน้าของเธอพัง แต่ฉันเป็นแค่นักแสดงที่ถูกจ้างมา ไม่ได้เป็นผู้กำกับ ฉันแทบจะไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเรื่องนั้นเลย”
พิสูจน์อักษร : รัชนี สังข์แก้ว