รีวิว The Takeover (เดอะ เทคโอเวอร์) หนังแฮกเกอร์สูตรสำเร็จที่พอดูได้เพลินๆ ดูได้ทาง Netflix [มีพากย์ไทย] บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ The Takeover (เดอะ เทคโอเวอร์) ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แนวโจรกรรมจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ Mel Bandison (รับบทโดย Holly Mae Brood) เด็กสาวแฮกเกอร์อัจฉริยะ เธอและเพื่อนๆ ทีมหัวกระทิของเธอมักจะร่วมมือกันเพื่อเข้าไปแฮ็กบริษัทของพวกเหล่าคนรวยและนำเงินเหล่านั้นไปบริจาค หรือก็คือทำเหมือนตัวเองเป็นโรบินฮู้ดในโลกสมัยใหม่ จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้ไปแฮ็กบริษัทข้ามชาติที่มีความลับอันดำมืด แต่หารู้ไม่ว่าบริษัทนี้แตกต่างจากบริษัททั่วไป เพราะจู่ๆ เธอก็ถูกกลุ่มชายปริศนาตามไล่ล่า แค่นั้นยังไม่พอเธอถูกประกาศจับพร้อมกับมีคลิปวิดีโอที่เธอสังหารชายคนหนึ่งเผยแพร่ไปทั่ว งานนี้เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ในครั้งนี้ไปให้ได้ ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวของเธอจะลงเอยอย่างไร และแท้จริงแล้วกลุ่มคนที่ไล่ล่าเธอคือใครกันแน่ ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง The Takeover (เดอะ เทคโอเวอร์) รับชมได้แล้วตอนนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix ปัจจุบันสามารถชมผ่านกล่อง TrueID TV ได้แล้วตัวอย่าง The Takeover (เดอะ เทคโอเวอร์)รีวิว The Takeover (เดอะ เทคโอเวอร์)สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเป็นหนังใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มมาใน Netflix ได้ไม่นาน ส่วนตัวไม่เคยรู้จักเรื่องนี้มาก่อน แต่เห็นเป็นหนังงที่ไม่ยาวมากและเป็นแนวโจรกรรมเลยตัดสินใจเข้าไปดู และความรู้สึกแรกหลังจากดูจบเลยคือค่อนข้างผิดหวังนิดหน่อย เพราะตัวหนังมันธรรมดามากๆ แบบราบและจืดชืด ทุกอย่างคือง่ายดายไปหมดและไม่มีการหักมุมหรืออะไรที่ทำให้คนดูเหวอเลย ยื่งทำให้ตัวหนังไม่มีความน่าจดจำเข้าไปใหญ่ บทเขียนมาแบบเรียบง่ายสุดๆ ความสมเหตุสมผลไม่ค่อยมีเท่าไหร่ การดำเนินเรื่องก็ทำได้ไม่ค่อยดีนัก ในช่วงแรกๆ คือปูนานพอตัวกว่าทุกอย่างจะเริ่ม แถมประเด็นหลักๆ กว่าจะให้คนดูรู้ก็คือผ่านมาเกือบครึ่งเรื่องแล้วด้วยความที่บทค่อนข้างแบนราบและดำเนินเรื่องช้า ส่วนนี้อาจทำให้ใครหลายคนตัดสินใจปิดหนังไปก่อนที่จะเริ่มเรื่องเสียอีก เพราะไม่มีส่วนไหนที่น่าสนใจและน่าติดตามเลยแม้แต่น้อย จึงไม่อาจสามารถดึงคนดูเอาไว้ได้ แถมยังมีหลายอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลจนน่าหงุดหงิด นั่นคือเรื่องของตัวละครพระเอกที่แทบไม่รู้จักนางเอกเลย แต่ก็ดันเสนอหน้าเข้ามาช่วยแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง ขนาดข่าวออกว่านางเอกเป็นฆาตกรพระเอกก็ยังจะเชื่อ เชื่อนี้คือเชื่อแบบ 100% เลยนะ ทั้งที่ความเป็นจริงต่อให้เชื่อก็น่าจจะมีความสงสัยบ้าง ความเวอร์อีกอันก็คือนางเอกกับพระเอกเป็นแค่คนธรรมดาแต่ดันหนีรอดทุกอย่างได้หมดแบบไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายอย่างมากที่ค่อนข้างเกินจริง ส่วนต่อมาคือด้านการแสดง ส่วนนี้ก็ธรรมดามากๆ เช่นกัน คนที่แสดงได้ดีที่สุดในเรื่องก็คงเป็นตัวนางเอกนี่แหละ การแสดงของเธอยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและพอจะแบกหนังไว้ได้ (นิดหน่อย) ส่วนนักแสดงคนอื่นๆ ในเรื่องก็แสดงได้ตามมาตรฐานทั่วไป ตัวร้ายก็ไม่มีความน่ากลัวเลย แถมตอนแพ้ก็แพ้ง่ายมากๆ เหมือนนึกจะจบก็จบ จบแบบไม่มีอะไรให้จดจำอีกต่างหาก ส่วนสุดท้ายคือด้านงานภาพและการโปรดักชั่น ส่วนนี้ก็ยังกลางๆ เช่นกัน งานภาพถ่ายออกมาได้ธรรมดาตามมาตรฐานของหนัง Netflix เลย ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ งานสร้างและการโปรดักชั่นต่างๆ ก็อยุ่ในมาตรฐานเดียวกัน สรุปโดยรวมเลยคือ เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างธรรมดาแบบสุดๆ ไม่ถึงกับสนุกแถมไม่มีอะไรน่าจดจำเท่าไหร่ แต่อย่าเชื่อที่ผมรีวิว ทุกคนลองไปดูด้วยตาตัวเองคงจะดีกว่า สุดท้ายนี้ผมขอให้คะแนนภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ที่ 6/10 คะแนนสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับชื่อเรื่อง : All Quiet on the Western Front (แนวรบด้านตะวันตก เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง)แนว : อาชญากรรม, โจรกรรมความยาว : 87 นาทีระบบเสียง : เสียงไทยและบรรยายไทยช่องทางการรับชม : Netflix ช่องทางอื่นๆในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังแหล่งที่มาของรูปภาพและวิดีโอ ภาพปก : ภาพที่ 1 จาก Instagram: NetflixNLภาพประกอบ : ภาพที่ 1 จาก Instagram: hollybrood / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 เครดิตภาพที่ 2-4 จาก Instagram: NetflixNLวิดีโอ : The Takeover | Official Trailer จาก Youtube : Netflixคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน