Weak Hero Class 2 นักเรียนดีเดือด รุ่นที่ 2 (2025) ที่ Netflix ซีรีส์แนวไฮสคูลดุเดือด ออกฉาย 8 ตอนรวดเมื่อ 25 เมษายนที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นซีซั่นสานต่อความสำเร็จจาก Weak Hero Class 1 ที่ประสบความสำเร็จด้วยการติดชาร์ตทั่วโลกจนมีแฟนซีรีส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากซีซั่นสองออกฉายก็ยังคงได้รับเรตติ้งถล่มทลายในหลายประเทศ ตลอดจนถึงได้รับคำวิจารณ์ทั้งกระแสด้านบวกและด้านลบเกี่ยวกับภาพรวมของซีซั่นนี้ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! บทความนี้จะเป็นการวิเคราะห์เนื้อเรื่องและการแสดงความคิดเห็นผ่านมุมมองของครีเอเตอร์ในฐานะผู้ชมหลังรับชมจบเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ดังนั้นจึงอาจมีเนื้อหาที่เป็นการสปอย สำหรับท่านที่ต้องการเลี่ยงการสปอย ให้รับชมซีรีส์ก่อนย้อนกลับมาอ่านบทความนี้นะคะ หนึ่งข้อควรรู้เกี่ยวกับ Weak Hero Class 2…เนื่องด้วยข้อจำกัดเรื่องเงินทุนส่งผลให้ Netflix เข้ามาเป็นผู้ดำเนินการผลิตในซีซั่นสอง ยอนชีอึนกับการเริ่มต้นใช้ชีวิตในโรงเรียนมัธยมแห่งใหม่ Weak Hero Class 2 เป็นการเริ่มต้นบทใหม่ของ ‘ยอนชีอึน’ (รับบทโดย พัคจีฮุน) ในรั้วโรงเรียนใหม่หลังจากผ่านเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นกับ ‘อันซูโฮ’ (รับบทโดย ชเวฮยอนอุค) จนสร้างบาดแผลทางจิตใจอย่างร้ายแรงให้กับชีอึนเพราะไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนไว้ได้ เรื่องราวในซีซั่นนี้ได้เริ่มต้นขึ้น ณ ‘โรงเรียนมัธยมปลายอึนจัง’ โดยตัวซีรีส์จะสื่อให้เห็นตั้งแต่ช่วงต้นว่าแม้จะเป็นโรงเรียนมัธยม แต่สภาพแวดล้อมนอกจากนักเรียน อาคารเรียน ก็แทบไม่มีอะไรที่สื่อว่าเป็นสถานศึกษา เมื่อมันคือสังคมแห่งการกลั่นแกล้งในรูปแบบของสังคมโรงเรียน และเนื้อเรื่องจะเริ่มต้นเล่าในช่วงหนึ่งปีให้หลังจากที่ชีอึนย้ายเข้ามายังโรงเรียนใหม่…ท่ามกลางเสียงหัวเราะ ความวุ่นวาย และการกลั่นแกล้งผู้อ่อนแอ มีแค่ชีอึนที่โดดเดี่ยวและแปลกแยกตลอดหนึ่งปี เพราะนอกจากเขาจะแยกตัวออกจากทุกคนแล้ว ข่าวลือที่ว่าเด็กใหม่ฆ่าคนตายจนต้องย้ายโรงเรียนยังเป็นเหตุผลให้ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเขาแม้กระทั่ง ‘ชเวโยมาน’ (รับบทโดย ยูซูบิน) อันธพาลแห่งอึนจัง สิ่งที่ชอบสำหรับการปูฉากเปิด คือการรวบรัดประเด็นสำคัญให้ผู้ชมเข้าใจถึงสถานการณ์ของตัวละครหลักอย่างยอนชีอึนว่ากำลังเผชิญกับปัญหาใด และสิ่งแวดล้อมในสังคมใหม่เป็นอย่างไร ก่อนผู้ชมจะค่อย ๆ เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครตัวนี้ในทุก ๆ อีพีโดยมีตัวละครอื่นเข้ามาเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงตามคอนเซปต์ของซีรีส์ พลอตเรื่องในซีรีส์ต่างจากมังงะ เนื้อเรื่องใน Weak Hero Class 2 จะดำเนินตามต้นฉบับมังงะแต่เป็นการนำมาดัดแปลงเนื้อหาใหม่ ในขณะที่ Class 1 จะเป็นการเล่าย้อนถึงอดีตของชีอึนในรูปแบบขยายความและแตกต่างจากมังงะซึ่งมีปรากฏอยู่เพียงไม่กี่ตอน โดยจะเป็นการเล่าย้อนเกี่ยวกับมิตรภาพระหว่าง ‘ยอนชีอึน’, ‘อันซูโฮ’ และ ‘โอบอมซอก’ (รับบทโดย ฮงคยอง) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงสำคัญ และยังส่งผลกระทบต่อชีอึนในปัจจุบัน ดังนั้นภาพรวมในซีซั่นแรกจึงมีเนื้อเรื่องเข้มข้นมากกว่าในมังงะ เพราะเป็นการเสริมแต่งเนื้อเรื่องให้มีรายละเอียดมากขึ้น และแม้ว่า Weak Hero Class 2 จะดำเนินเรื่องราวตามต้นฉบับ แต่กลับยังมีจุดที่แตกต่างอยู่มากเพราะเป็นการรวบมังงะจำนวนสองร้อยกว่าตอนให้เหลืออยู่ในซีรีส์จำนวน 8 ตอน รวมถึงงบในการสร้างจึงเป็นเหตุผลให้ตัวละครสำคัญ หรือเป็นที่จดจำสำหรับผู้อ่านไม่ปรากฏตัวในเวอร์ชั่นคนแสดง อีกทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้รวบรัดและตีความใหม่ต่างจากต้นฉบับเพื่อพยายามทำให้ตัวละครทุกตัวมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ดังนั้นหากเป็นแฟนพันธุ์แท้ฉบับมังงะอาจรู้สึกผิดหวังกับการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะลักษณะเด่นของตัวละคร แบ็กกราวนด์ที่น่าจดจำหายไป รวมถึงความสัมพันธ์ของชีอึนและแบ็กจินก็ดูแทบไม่มีสิ่งที่เกี่ยวข้องกันซึ่งต่างจากต้นฉบับ แต่หากไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนก็จะสามารถรับชมได้โดยไม่เกิดความรู้สึกขัดแย้งกับต้นฉบับ ทำไมตัวเอกอย่าง ‘ยอนชีอึน’ ถึงสู้เก่งไม่เท่าตัวละครอื่น หลังจาก Weak Hero Class 2 ออกฉายมีโอกาสได้สำรวจความคิดเห็นจากผู้ชมหลายท่าน โดยมีบางส่วนแสดงความเห็นว่าตัวละครเอกอย่างยอนชีอึนกลับดูสู้ไม่เก่งไม่สมกับการเป็นตัวหลักของเรื่อง ซึ่งหากอ้างอิงตามต้นฉบับหรือแม้กระทั่งใน Weak Hero Class 1 อีพีแรก ๆ ยอนชีอึนไม่ใช่ตัวละครนักสู้ เขาเป็นแค่เด็กนักเรียนมอปลายคนหนึ่งที่สนใจแค่เรื่องการเรียน ก่อนสภาพสังคมจะบีบบังคับให้ต้องสู้โดยมี อันซูโฮ เข้ามาเปลี่ยนความคิดของชีอึน อีกทั้งยังคอยสอนให้ชีอึนลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องตัวเองจากพวกอันธพาล ในเวอร์ชั่นซีรีส์ได้มีการปรับเปลี่ยนให้ตัวละครยอนชีอึนมีความสงบและรอบคอบมากกว่าในมังงะ แม้จะไม่เก่งเรื่องการใช้กำลังด้วยขนาดตัวที่เล็กกว่าคู่ต่อสู้มาก แต่มีการใส่ให้ตัวเอกมีทักษะโดดเด่นในเรื่องด้านการเคลื่อนไหว การคำนวณสถานการณ์ และมีเอกลักษณ์ชัดเจนคือการใช้ปากกาเป็นอาวุธต่อสู้อย่างชำนาญ ตรงจุดนี้ถือเป็นการสร้างภาพจำและลักษณะเด่นให้กับตัวละครหลักได้ดี แม้ว่าตัวละครยอนชีอึนจะไม่ใช่นักสู้ที่เก่งกาจ แต่เขาไม่ใช่คนขี้ขลาดเมื่อทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้นกับเพื่อน ชีอึนมักจะเดินหน้าต่อสู้อย่างไม่ลังเล และซีรีส์กำลังสะท้อนให้เห็นว่า ‘Weak Hero’ ฮีโร่ผู้อ่อนแอ คือไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งที่สุด แต่การยืนหยัดเพื่อปกป้องคนอื่นก็สามารถเป็นฮีโร่ให้กับคนที่ช่วยเหลือได้ ดังนั้นส่วนตัวขณะรับชมซีรีส์จึงแทบไม่ได้ให้ความสำคัญว่าตัวเอกจะต้องสู้เก่งไม่แพ้ใคร เพราะเพียงแค่ได้เห็นพัฒนาการของตัวละครว่าคนที่ปิดกั้นตัวเองจากทุกคนอย่างชีอึนได้ก้าวออกจากความกลัวเพื่อลุกขึ้นสู้ในการปกป้องคนอื่น เหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่งซูโฮเคยยื่นมือช่วยเหลือก็กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้เคารพในความกล้าหาญของตัวละคร แล้วทำไมยอนชีอึนใน Class 1 ถึงสู้เก่งกว่าใน Class 2 ความรู้สึกนี้อาจเกิดขึ้นกับแฟนซีรีส์ Weak Hero Class 1 หลายท่าน เมื่อในช่วงต้นชีอึนแทบไม่ตอบโต้ใด ๆ แม้กระทั่งในตอนที่ชเวโยมานเปลี่ยนเป้าหมายจาก 'ซอจุนแท' (รับบทโดย ชเวมินยอง) มาเป็นตัวเอง แทนที่ชีอึนจะสู้กลับทั้งที่สามารถสู้ได้แต่กลับทำเพียงแค่อดทนและตั้งรับเท่านั้น พร้อมกับชุดความคิดหนึ่งของชีอึนที่ปรากฏขึ้นคือ ‘ไม่มีแรงกิริยาก็จะไม่มีแรงปฏิกิริยา’ จากความคิดนี้กำลังแสดงให้ผู้ชมเห็นว่าชีอึนกำลังพยายามเลี่ยงการต่อสู้ จนมาในอีกเหตุการณ์เข้าใจผิดระหว่างชีอึนและ 'โกฮยอนทัก' (รับบทโดย อีมินแจ) ชีอึนถึงได้เริ่มตอบโต้เป็นครั้งแรกหลังจากถูกสะกิดบาดแผลความรู้สึกผิดต่อซูโฮ และดูเหมือนว่าจากคำพูดของโกฮยอนทักจะทำให้ชีอึนสติหลุด ซึ่งซีรีส์กำลังบอกผู้ชมเป็นนัย ๆ ว่าอันซูโฮมีอิทธิพลมากต่อชีอึน ก่อนซีรีส์จะเฉลยให้ผู้ชมเห็นว่าเพราะเหตุใดยอนชีอึนจึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้ โดยอยู่ในฉากที่ชีอึนได้พูดกับ 'พัคฮูมิน' (รับบทโดย รยออุน) เพราะเห็นเป็นซูโฮว่า ‘ซูโฮ ฉันมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นอีกแล้ว…ขอโทษนะ’ หลังจากที่ชีอึนสามารถเอาชนะ 'กึมซองเจ' (รับบทโดย อีจุนยอง) หนึ่งในพันธมิตรของสหพันธ์ได้ โดยจากประโยคนั้นแสดงให้เห็นว่าชีอึนไม่ต้องการให้ทุกอย่างกลับสู่วังวนเดิมที่การต่อสู้ไม่มีวันจบสิ้น และสุดท้ายต้องลงเอยด้วยความเจ็บปวดอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กล่าวคือใน Class 1 ชีอึนต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเอาชนะพวกอันธพาลได้ แต่ใน Class 2 ชีอึนมีอดีตที่เจ็บปวดคอยเตือนสติว่าการใช้กำลังไม่ใช่ทางออกของปัญหา เพราะสุดท้ายมันจะไม่มีวันจบสิ้น (อิงได้จากคำพูดที่ชีอึนพูดกับพัคฮูมินหลังจากฟื้นขึ้นมา) ดังนั้นการต่อสู้ของชีอึนใน Class 2 ส่วนใหญ่จะเป็นการวางแผนเพื่อให้เพื่อนเกิดอันตรายน้อยที่สุด เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ร้ายกับเพื่อนตัวเองอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับซูโฮอีก แต่เมื่อถึงคราวต้องสู้ก็เรียกว่ากัดฟันสู้อย่างไม่กลัวตายจนผู้ชมต้องลุ้นเอาใจช่วยแบบลืมหายใจ และถึงแม้ว่าเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นกับซูโฮจะเป็นเหตุผลให้ชีอึนเลิกสู้ แต่ก็เป็นเพราะภาพในอดีตที่ซูโฮเคยได้ยื่นมือช่วยเหลือตัวเอง ชีอึนจึงเลือกเป็นฝ่ายยื่นมือออกไปเพื่อช่วยเหลือคนอื่นบ้าง นักเรียนตีกันแทบตาย ครูอยู่ไหน? ประเด็นนี้ถูกพูดถึงตั้งแต่ Class 1 มันเป็นความขัดแย้งที่ทำให้รู้สึกว่าซีรีส์มีความไม่สมเหตุสมผล เพราะนักเรียนตีกันเกือบตาย กลั่นแกล้งกันแบบโจ่งแจ้งกลางโรงเรียนแต่กลับไม่มีครูเข้ามาห้ามหรือมาดูสักคน…ประเด็นนี้ซีรีส์กำลังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาว่าครูไม่ได้ให้ความสำคัญกับนักเรียนเท่าที่ควร ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสภาพสังคมยุคปัจจุบันจนการกลั่นแกล้งในโรงเรียนเป็นปัญหาที่ไม่เคยได้รับการแก้ไข ใน Weak Hero Class 2 มีตัวละครครูแสดงให้เห็นมากขึ้น โดยซีรีส์ยังคงตอกย้ำกับประเด็นนี้ว่าครูที่ได้รับหน้าที่ให้ดูแลนักเรียนขณะอยู่ในรั้วโรงเรียนแทบไม่ได้ให้ความสำคัญกับเด็กในความปกครองเลยด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น ในตอนที่ซอจุนแทหายตัวไปจากห้องเรียน ชีอึนที่รู้สึกเป็นห่วงก็ยกมือขึ้นพูดกลางห้องเรียน จากสถานการณ์นี้แม้กระทั่งตัวครูยังรู้สึกแปลกใจที่เด็กนักเรียนเงียบขรึมอย่างชีอึนเอ่ยปากพูดในชั้นเรียนเป็นครั้งแรก แต่สุดท้ายครูกลับเลือกจะเพิกเฉย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจและตัดปัญหา ดังนั้นเมื่อต้องการสะท้อนประเด็นนี้ซีรีส์จึงแทบไม่มีตัวละครครูปรากฏในฉากการต่อสู้เลยสักครั้งจึงดูขัดแย้งกับหลักความจริงที่ควรมีครูสักคนเข้ามาดูในสถานการณ์เช่นนั้น Weak Hero Class 2 ไม่สนุกเหมือน Class 1 ? Weak Hero Class 2 มีการขยายสเกลเรื่องราวให้ใหญ่ขึ้นจาก Class 1 ที่มุ่งเน้นเรื่องราวของมิตรภาพซึ่งได้พังทลายลงเพราะความอิจฉา โดยเป็นพลอตเรื่องที่ทำให้ผู้ชมเข้าถึงจิตใจและความรู้สึกของตัวละครได้มากกว่า Class 2 ที่มุ่งเน้นไปยังการต่อสู้กับกลุ่มสหพันธ์ นำโดย 'นาแบ็กจิน' (รับบทโดย แบนารา) และ กึมซองเจ ดังนั้นเมื่อเนื้อเรื่องมีขอบเขตกว้างขึ้นแต่ต้องอยู่ในเวลาจำกัดส่งผลให้องค์ประกอบของเรื่องราวไม่แข็งแรงเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับ Class 1 ยกตัวอย่างเช่น ตัวร้ายที่แข็งแกร่งที่สุดในเรื่องอย่างนาแบ็กจิน หากยึดแบ็กกราวนด์เดิมตามต้นฉบับ เรื่องราวของตัวร้ายตัวนี้จะสามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้ชมหลายท่านได้ แต่ในซีรีส์การจากไปของเขากลับทิ้งความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับตัวละครนี้ไว้จนกลายเป็นเหมือนตัวละครทั่วไปสำหรับผู้ชม แต่หากจะพูดว่าสนุกไม่เท่าซีซั่นแรกคงไม่สามารถพูดได้เต็มปาก เพราะทั้งสองซีซั่นมีจุดมุ่งเน้นของเรื่องราวแตกต่างกัน ตัวละครก็มีบทบาทความสำคัญต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดและรู้สึกประทับใจใน Class 2 คือพัฒนาการของตัวละครหลายตัวในเชิงบวกต่างจาก Class 1 ที่ดำดิ่ง โดยไม่ใช่แค่ยอนชีอึนเท่านั้นที่ดูผ่อนคลายและกลับมามีชีวิตอีกครั้ง แต่ยังรวมถึงตัวละครอื่น ๆ เช่น ซอจุนแท จากเด็กหนุ่มผู้อ่อนแอที่อยู่ล่างสุดในโรงเรียนก็เริ่มเรียนรู้ที่จะก้าวออกจากความกลัวอย่างกล้าหาญ ถือเป็นอีกหนึ่งส่วนที่ช่วยให้การรับชมไม่น่าเบื่อเพราะตัวละครไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ และยังรวมถึงบรรยากาศของแก๊งเพื่อนใหม่ที่มีความตลก สนุก ผ่อนคลาย แต่เมื่อถึงคราวจริงจังก็ไม่เคยทิ้งกัน มันเลยกลายเป็นความประทับใจที่ชวนให้อยากดูซ้ำ ฉากบู๊ ซิกเนเจอร์ของเรื่อง ฉากบู๊ หรือฉากต่อสู้ระหว่างตัวดีและตัวร้าย ยังคงความตื่นเต้นและการลุ้นเอาใจช่วยในทุกฉาก โดยในซีซั่นนี้ได้มีการใส่ทักษะการต่อสู้โดดเด่นเฉพาะตัวละครลงไปทำให้มีความสมจริงและดุเดือดถึงใจ ตัวละครนักสู้ผลัดกันรับผลัดกันสู้ ไม่มีใครโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียวให้น่าเบื่อ จากความคิดเห็นส่วนตัวมีหลายฉากการต่อสู้ที่รู้สึกชอบและทำออกมาได้ดี เช่น ฉากต่อสู้ระหว่างยอนชีอึนและกึมซองเจ เป็นการสู้ที่สูสีแม้ว่าทักษะด้านพละกำลังของชีอึนและขนาดตัวจะเป็นรองซองเจอยู่มาก แต่เพราะความตั้งใจที่ต้องการปกป้องเพื่อนทำให้ชีอึนกัดฟันสู้จนสามารถเอาชนะซองเจได้ อีกทั้งเหตุการณ์นี้ยังเป็นการต่อสู้แบบจริงจังครั้งแรกหลังจากผ่านเรื่องของซูโฮมา ความสัมพันธ์ระหว่างนาแบ็กจินและพัคฮูมิน เรื่องราวของนาแบ็กจินและปาร์คฮูมินแตกต่างจากต้นฉบับโดยสิ้นเชิง โดยในซีรีส์ได้มีการปรับเปลี่ยนบทอย่างต้องการสร้างมิตรภาพของทั้งคู่ขึ้นใหม่ แต่น่าเสียดายที่ความสัมพันธ์นี้กลับดูไม่แข็งแรงมากพอที่จะทำให้ผู้ชมเข้าถึงจิตใจและความคิดของนาแบ็กจินและปาร์คฮูมินได้เหมือนกับชีอึนและซูโฮ ซึ่งหากมีเวลามากพอที่จะเล่าขยายความเพิ่มเติมด้วยการใส่มิตรภาพของสองคนนี้ไปให้สุดทาง เรื่องราวระหว่างแบ็กจินและฮูมินที่ถูกสร้างขึ้นใหม่คงเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงใน Class 2 แต่ต้องชื่นชมนักแสดงว่าสามารถถ่ายทอดความรู้สึกผ่านแววตาให้ผู้ชมรับรู้ถึงความเจ็บปวดและการยากจะคาดเดาความคิดของตัวละครได้เป็นอย่างดี ยอนชีอึนเป็นซึมเศร้าหรือไม่ หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับซูโฮ คำถามนี้อาจเกิดขึ้นในใจใครหลายคน เพราะภายใต้แววตาและใบหน้าเรียบเฉยของยอนชีอึนกลับซ่อนไว้ด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกผิด และความสิ้นหวัง โดยซีรีส์ได้เปิดเผยให้ผู้ชมเห็นตั้งแต่ในช่วงต้นเกี่ยวกับอาการนอนไม่หลับจนต้องเข้าพบจิตแพทย์และพึ่งยานอนหลับ แต่แม้กระทั่งยาก็ไม่สามารถช่วยให้ชีอึนหลุดพ้นจากฝันร้ายได้ ทุกครั้งที่ชีอึนปิดเปลือกตาลง ภาพในอดีตระหว่างเขา ซูโฮ และ บอมซอกจะฉายย้อนกลับเข้ามาในหัวเสมอ อาการนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ชีอึนได้เห็นเพื่อนสนิทอย่างซูโฮอยู่ในสภาพโคม่าด้วยฝีมือของเพื่อนอีกคน จากเหตุการณ์นี้ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจและชีวิตของชีอึนเป็นอย่างมากเพราะทั้งซูโฮและบอมซอกคือเพื่อนที่ชีอึนให้ความสำคัญ หลังจากเกิดเรื่องผู้ชมจะรับรู้ได้ว่าชีอึนกำลังไม่มีความสุข บรรยากาศรอบตัวดูหม่นหมอง รวมไปถึงการพยายามหลีกเลี่ยงและแยกตัวออกจากทุกคนเพราะไม่อยากต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เคยพบเจออีก แม้กระทั่งหลังจากเกิดอุบัติเหตุชีอึนก็ยังคงติดอยู่ในความรู้สึกผิดบนสังเวียนที่ได้พรากเพื่อนสนิทอย่างอันซูโฮไป โดยมีคำพูดของบอมซอกคอยเหนี่ยวรั้งไม่ให้ชีอึนก้าวออกไปจากความรู้สึกผิด แต่ขณะเดียวกันแก๊งเพื่อนใหม่ในอึนจังได้เข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญให้อาการเหล่านั้นค่อย ๆ ดีขึ้น ด้วยการใช้มิตรภาพที่จริงใจดึงชีอึนให้ออกจากด้านมืดในจิตใจ พัคจีฮุนซึ่งรับบทเป็นยอนชีอึน สามารถสื่ออารมณ์ทางแววตาออกมาให้ผู้ชมรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด ความเสียใจ และความหวาดกลัวของตัวละครได้เป็นอย่างดี โดยการปูเรื่องราวให้ตัวละครดูสิ้นหวังจนถึงขีดสุดส่งผลให้ในฉากที่ชีอึนแสดงท่าทางเหมือนจะแย้มริมฝีปากยิ้มเพียงนิดเดียวก็กลายเป็นฉากที่อิมแพ็คกับความรู้สึกมาก ‘มันไม่ใช่ความผิดของนาย’ ประโยคเดียวที่เปลี่ยนชีวิตของยอนชีอึน นับว่าเป็นประโยคอิมแพ็คที่ส่วนตัวรอให้ซูโฮหรือไม่ก็ใครสักคนพูดกับชีอึนมาตลอดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับซูโฮไม่ใช่ความผิดของชีอึนเลยสักนิด และตัวละครที่พูดประโยคนี้คือ ซอจุนแท คนที่ชีอึนเคยยื่นมือช่วยเหลือ โดยชีอึนสำหรับจุนแทเป็นภาพเดียวกันกับที่ชีอึนรู้สึกต่อซูโฮ…เป็นเพื่อนคนแรก และเป็นคนที่ทำให้จุนแทก้าวออกมาจากความกลัว ในฉากนี้อาจเป็นครั้งแรกที่น้ำตาของชีอึนได้ไหลลงมา เพราะส่วนใหญ่มักจะเห็นว่าดวงตาของเขาแดงก่ำแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะร้องไห้ออกมาแบบนี้นับตั้งแต่เกิดเรื่องกับซูโฮ ซึ่งถือว่าเป็นฉากที่ช่วยปลดล็อกความรู้สึกผิดในใจของชีอึน ตอนจบของอันซูโฮแตกต่างจากมังงะ สิ่งที่เหมือนกันของมังงะและซีรีส์คือ ชีอึนได้พบกับซูโฮอีกครั้ง แต่สิ่งที่แตกต่างคือต้นฉบับมังงะทั้งคู่พบกันอีกครั้งในร้านกาแฟที่ซูโฮทำงานอยู่ โดยไม่มีบทพูดถามไถ่หรือการอธิบายเพิ่มเติมว่าเพราะเหตุใดซูโฮจึงไม่เคยติดต่อหาชีอึนหลังจากฟื้นขึ้นมา ในขณะที่ซีรีส์เลือกให้ทั้งคู่พบกันในวันที่ซูโฮฟื้นสติขึ้นมาจากอาการโคม่า ซึ่งมันดูไม่ใจร้ายกับชีอึนที่คอยเฝ้าและนึกถึงซูโฮมาตลอด รวมไปจนถึงการเพิ่มบทพูดให้ซูโฮถามถึงเพื่อนใหม่ที่ตัวเขาอยากให้ชีอึนมีเพื่อนมาตลอด ฉากนี้นอกจากจะเป็นการเติมเต็มความรู้สึกให้กับชีอึนแล้ว ยังเป็นการเติมเต็มความรู้สึกของผู้ชมที่รักในมิตรภาพของพวกเขา และเฝ้ารอวันที่ซูโฮจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นนอกจากฉากอื่น ๆ ที่ประทับใจแล้วฉากจบนี้ถือว่าสมบูรณ์ที่สุดสำหรับการเฝ้ารอเกือบสามปี Weak Hero จะมี Class 3 มั้ย? หากอ้างอิงตามต้นฉบับมังงะ เรื่องราวการเดินทางของยอนชีอึนจบลงตรงที่เขาได้พบกับอันซูโฮอีกครั้งพร้อมกับเพื่อนใหม่ที่ยืนให้กำลังใจอยู่ด้านหลัง แต่สำหรับซีรีส์มีความเป็นไปได้ว่าจะมีซีซั่นสามเกิดขึ้น เนื่องจากซีรีส์ได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาอย่างเป็นการปูทางให้มีประเด็นสำหรับซีซั่นต่อไป เพราะในมังงะ นาแบ็กจินคือผู้ก่อตั้งสหพันธ์ ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของใคร แต่ในซีรีส์ได้ทิ้งปริศนาเอาไว้เกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่ได้รับเลี้ยงนาแบ็กจินไว้ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเขาด้วย และ กึมซองเจ พันธมิตรของสหพันธ์ที่ได้กลายเป็นตัวละครลับในตอนจบของ Class 2 ดังนั้นหากมี Class 3 เกิดขึ้นคงจะเป็นบทที่ถูกเขียนขึ้นใหม่เพื่อซีรีส์โดยเฉพาะ รีวิวความสนุกโดยรวม แนะนำ หรือ ไม่แนะนำ ให้ดู ความคิดเห็นส่วนตัวเพราะ Weak Hero Class 1 ปูมิตรภาพของชีอึนและซูโฮมาได้ดีมาก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เข้าใจทุกความคิด ทุกการกระทำ และทุกความรู้สึกของชีอึน ดังนั้นขณะรับชมจึงไม่เกิดความขัดแย้งหรือหงุดหงิดในการกระทำของตัวละคร กลับกันมันยิ่งทำให้เอาใจช่วยให้ชีอึนก้าวผ่านความรู้สึกผิดที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากตัวเองไปให้ได้ เนื้อเรื่องใน Class 2 มีตัวละครมากมายที่มีความสัมพันธ์ในเรื่องราวต่อกัน พลอตหลักที่ถูกนำมาใส่อย่างเรื่องราวของ สหพันธ์ ถือว่าเล่าความเป็นมา และรายละเอียดได้อย่างเข้าใจ ซึ่งมันสามารถนำไปต่อยอดได้แม้ว่าผู้นำอย่างนาแบ็กจินจะจากไปแล้ว และสิ่งที่ได้เห็นมากขึ้นคือเรื่องราวของมิตรภาพที่นอกจากซูโฮแล้ว ชีอึนยังได้พบกับพัคฮูมิน ซอจุนแท และโกฮยอนทัก เพื่อนใหม่ในอึนจัง แม้จะเป็นมิตรภาพที่เพิ่งเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงไม่นาน แต่เพราะมีจุดที่เชื่อมกันติดจึงกลายเป็นเพื่อนที่รักกันอย่างจริงใจ ซึ่งการได้เห็นว่าชีอึนไม่ต้องใช้ชีวิตโดดเดี่ยวกลับกลายเป็นสิ่งที่ต้องการมากกว่าชัยชนะในการต่อสู้ ด้านการถ่ายทอดอารมณ์ นักแสดงสามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมากโดยเฉพาะการแสดงความเจ็บปวดทางแววตา และยังสามารถแสดงเอกลักษณ์และบุคลิกของตัวละครที่ได้รับบทบาทออกมาได้โดดเด่นมีเสน่ห์อย่างน่าชื่นชมแบบใส่เต็มไม่ห่วงหล่อทำให้ตลอดการรับชมรับรู้ได้ถึงจิตวิญญาณของการเป็นนักแสดงจริง ๆ ที่ยิ่งช่วยเสริมให้เรื่องราวมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น Weak Hero Class 2 อาจไม่ใช่ซีรีส์ที่ตอบโจทย์ความคาดหวังจากซีซั่นแรกหรือจากแฟนมังงะ แต่เป็นซีรีส์ที่อยากแนะนำให้ทุกท่านได้เปิดใจรับชมในเวอร์ชั่นที่เป็นซีรีส์ เพราะนอกจากความมันส์ในเรื่องราวของนักเรียนตีกัน ทุกท่านยังจะได้สัมผัสกับมิตรภาพในชีวิตวัยรุ่นครั้งหนึ่ง คะแนนซีรีส์ (จากความคิดเห็นส่วนตัว) เนื้อเรื่อง : 9/10 (1 คะแนนคือแบ็กกราวนด์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ไม่แข็งแรงทำให้เนื้อเรื่องดูดรอปลง) การแสดงและการคัดเลือกนักแสดง : 10/10 (เคสตรง แม้รายละเอียดบางอย่างจะขาดไปแต่เพราะนักแสดงสวมบทบาทตัวละครได้ดีเสริมให้ดูสมจริง ไม่ขัดตา ในส่วนของฉากบู๊ก็ทุ่มสุดตัวที่เห็นแล้วเจ็บหลังแทน) คะแนนภาพรวม : 9/10 บทความแนะนำอื่น ๆ : ทำความรู้จัก 7 ตัวละครและนักแสดงจาก Weak Hero Class 2 นักเรียนดีเดือด รุ่นที่ 2 รีวิว Business As Usual แผนรักฉบับออฟฟิศ…เมื่อแฟนเก่ากลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานใหม่ 'อันซูโฮ' ตาย หรือ รอด? ทำไมจึงไม่ปรากฏตัวในตัวอย่าง Weak Hero Class 2 นักเรียนดีเดือด รุ่นที่ 2 ทำความรู้จัก Secret Relationships 2025 ซีรีส์บอยเลิฟเกาหลี เรื่องราวความสัมพันธ์ลับซ่อนรักของดาอนกับชายหนุ่ม 3 คน ทำความรู้จักซีรีส์ BL เกาหลีกระแสแรง ‘Love in the Big City’ (2024) เรื่องราวชีวิตและความรักของหนุ่ม LGBTQ+ ในเมืองใหญ่ นำแสดงโดย นัมยุนซู, จินโฮอึน เริ่ม 21 ตุลาคม เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพปก : ภาพ1, 2, 4, 6, 3 จาก netflixkr / 5, 7 จาก Netflix ภาพประกอบ : ภาพ1, 10.2, 2, 6, 7, 12.2, 17.2 จาก netflixkr / ภาพ4, 16, 10.1 จาก wave_official / ภาพ3.1, 8, 13.1, 13.3, 13.4, 17.1, 9, 11.1, 11.2, 11.6, 15 จาก Netflix K-Content / ภาพ3.2, 5, 11.3, 11.4, 11.5, 12.1, 12.3, 13.2 จาก Netflix / ภาพ14 จาก Netflix Korea / ภาพ 18.1, 18.3, 18.6, 18.2, 18.4, 18.5, 18.7, 18.8 จาก YYentertain เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !