"Catwoman" หนังนางแมวขาวดำ ภาคแยก Batman Returns ของ ทิม เบอร์ตัน ที่ไม่เคยถูกสร้าง
นอกจาก ‘Batman Returns’ (1992) ผลงานกำกับแบทแมนภาคสุดท้ายของ ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) จะประสบความสำเร็จในแง่การสร้างสรรค์เรื่องราวในแบบฉบับของตัวเอง สิ่งที่แฟน ๆ หลายคนน่าจะจดจำได้ นอกจากแบทแมน เพนกวิน วายร้ายของเรื่อง ก็ยังมีตัวละคร เซลีนา ไคล์ (Selina Kyle) หรือ แคตวูแมน (Catwoman) นางแมวสาวสวย ที่รับบทโดย มิเชล ไฟเฟอร์ (Michelle Pfeiffer) ที่ออกมาปรากฏตัวด้วยลุคสุดเซ็กซี่ และฉากอมนก (แคนารี) ที่เกือบจะได้มีหนังเดี่ยวเป็นของตัวเองแล้ว
แดเนียล วอเตอร์ส (Daniel Waters) ผู้เขียนบท ‘Batman Returns’ ได้ให้สัมภาษณ์ Exclusive กับเว็บไซต์ IndieWire ถึงเบื้องหลังของการทำงานร่วมกับเบอร์ตันในหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะการพัฒนาหนัง Spin-Off ตัวละคร ‘Catwoman’ ที่เรียกได้ว่าไอเดียไม่ธรรมดา เพราะนอกจากจะทำขึ้นเพื่อสดุดีหนังคลาสสิก ‘Cat People’ (1942) ใช้ทุนสร้าง 18 ล้านเหรียญ และเป็นหนังขาวดำทั้งเรื่อง แล้ว หนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่วิพากษ์เสียดสีความเป็น ‘ชายแท้’ ของซูเปอร์ฮีโรแบบเน้น ๆ
“เขาอยากสร้างหนังขาวดำทุนสร้าง 18 ล้านเหรียญ แบบเดียวกับ ‘Cat People’ ที่ให้ เซลีนา ไคล์ ที่อาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ครับ และผมก็อยากทำหนังที่เชื่อมโยงไปถึง ‘Batman’ ด้วย ดังนั้นผมเลยให้เธอย้ายไปอยู่ในก็อตแธมซิตี้ แต่เป็นเวอร์ชันลอสแองเจลิส และบริหารงานโดยแอนตี้ฮีโรวายร้าย 3 คน มันจะเป็น (หนังเสียดสีซูเปอร์ฮีโร) ที่มาก่อนซีรีส์ ‘The Boys’ แต่สุดท้าย เขา (เบอร์ตัน) ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะอ่านบทของผมแล้ว”
นอกจากรายละเอียดเกี่ยวกับสปินออฟ ‘Catwoman’ แล้ว วอเตอร์สยังได้แอบเล่าแง้มถึงฉากที่ถูกตัดออกไปใน ‘Batman Returns’ ด้วย โดยภาคนี้จะพยายามนำเอารายละเอียดจากภาคแรก ‘Batman’ (1989) กลับมาใส่เอาไว้ ฉากเปิดในบทร่างแรก ๆ จึงเปิดเรื่องด้วยโลโก้ของแบทแมนที่ติดอยู่หน้าร้าน Merchandise ที่มีสินค้าเกี่ยวกับแบทแมนมากมายหลายชนิด ก่อนที่ลูกสมุนของเพนกวินจะบุกเข้ามาเผาทำลายในที่สุด
ซึ่งวอเตอร์สเองมองว่าฉาก (ขายของ) นี้เป็นอะไรที่ห่วยมาก เจ้าตัวยังอ้างถึงเจ้าของบทแบทแมน ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton) ที่กล่าวเกี่ยวกับฉากนี้แบบสั้น ๆ ว่า “คีตันเล่าครับว่า ‘ฉลาดนะเนี่ย แต่ว่าเอาออกไปเหอะ'”
หลังจากที่ประสบความสำเร็จตอนเข้าฉาย ‘Batman Returns’ กลายมาเป็นโปรเจกต์สุดท้ายของทั้งเบอร์ตัน รวมทั้งการรับบทแบทแมนของคีตันด้วย ทาง Warner Bros. Pictures จึงมีความพยายามจะสานต่อแฟรนไชส์แบทแมนด้วยทิศทางที่เบากว่าเพื่อให้เหมาะกับผู้ชมครอบครัวมากขึ้น สตูดิโอจึงได้เริ่มต้นประกาศ 2 โปรเจกต์ นั่นก็คือ ‘Batman Forever’ (1995) รวมทั้งหนังเดี่ยว ‘Catwoman’ ที่เป็นสปินออฟจาก ‘Batman Returns’ ซึ่งวอลเตอร์สก็กลับมาเขียนบท ส่วนไฟเฟอร์ก็กลับมารับบทเดิมเช่นกัน
โดยบทของ ‘Catwoman’ ฉบับของวอเตอร์สนั้นจะเล่าต่อจาก ‘Batman Returns’ ซึ่ง Catwoman ถูกยิงจนพรุน แต่เธอกลับจำอะไรไม่ได้เลย เธอจึงเดินทางไปพักผ่อน ณ รีสอร์ตที่ตั้งอยู่ในเมืองเมืองหนี่ง ที่มีบรรดาฮีโรคอยดูแล และหนังก็จะเล่าเรื่องของการล้อขนบซูเปอร์ฮีโรชายแท้ทั้งเรื่อง ซึ่งทำให้ เซลีนา ไคล์ ต้องกลับมาเป็น Catwoman ท่ามกลางเหล่าฮีโรชายแท้อีกครั้ง
จะมีก็แต่เบอร์ตันเอง ที่ยังอยู่ในช่วงลังเลว่าจะกลับมากำกับ ‘Catwoman’ หรือกำกับหนัง ‘The Fall of the House of Usher’ ดี โปรเจกต์เลยต้องติดลูปนรกแห่งการพัฒนา ไฟเฟอร์ที่เพิ่งจะมีลูกก็ลังเลว่าจะไปต่อดีหรือไม่ จนสุดท้าย เบอร์ตันหันไปกำกับหนัง ‘Mars Attacks!’ (1996) แทน และบท Catwoman ก็ถูกเปลี่ยนผ่านจากไฟเฟอร์ไปเป็น แอชลีย์ จัดด์ (Ashley Judd) และสุดท้าย โปรเจกต์นี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นจริง จนกระทั่งการมาของ ‘Catwoman’ เวอร์ชันของ ฮัลลี เบอร์รี (Halle Berry) ที่ออกฉายในปี 2004
แม้ ‘Batman Returns’ จะถือเป็นหนึ่งในหนังแฟรนไชส์แบทแมนยุครุ่งเรืองที่ได้รับคำชมอย่างมาก แต่แฟน ๆ หลายส่วนต่างก็รุมวิจารณ์เบอร์ตันที่ดูเหมือนจะพยายามปรับแปลงบทและภาพลักษณ์ของแบทแมนตามแบบฉบับของตัวเอง โดยไม่ได้เคารพต้นฉบับจากคอมิกสักเท่าไหร่ ซึ่งทั้งวอเตอร์สและเบอร์ตันเองต่างก็รู้ตัวดีว่าพวกเขาสร้างแบทแมน โดยที่ไม่ได้พยายามทำการบ้าน หรือพยายามต้องซื่อสัตย์กับคอมิกต้นฉบับมากนัก
“มันเป็นงานที่แปลกดี ตรงที่ผมไม่จำเป็นต้องเอาใจใครเลยนอกจาก ทิม เบอร์ตัน ก่อนจะมีอินเทอร์เน็ต คุณไม่จำเป็นต้องยืนหน้าบัลลังก์และพูดว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ มีแค่ผู้ชาย 2 คนทะเลาะกันในห้อง เราไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับวายร้ายของแบทแมนด้วยซ้ำ เอาจริงเราก็ไม่ได้เข้าใจในหนังสือคอมิกทั้งหมดหรอก ผมเองก็เพิ่งรู้ว่า DC มันย่อมาจาก Detective Comics”
“ทุกอย่างที่แฟน ๆ โจมตีเราเกี่ยวกับ ‘Batman Returns’ นั้นเพราะเขาคิดว่า ‘นี่เป็นแค่หนังแบทแมนเรื่องที่ 2 เท่านั้น พวกแกกำลังทำอะไรอยู่วะ ? กำลังจะออกนอกลู่นอกทางแล้วเห็นไหม ? ‘ แต่ตอนนี้มีหนังแบทแมนสักประมาณ 50 เรื่องได้ พวกเขาก็เลย ‘เฮ้ นี่มันก็น่าสนใจดีนะ'”
ที่มา: IndieWire, Super Hero Hype