รีเซต

อยากกินผักขึ้นมาเลย!? เปิดใจ คะน้า ริญญารัตน์ ดาราช่อง 7 ผักรสเผ็ด ชีวิตเด็ดเวอร์!

อยากกินผักขึ้นมาเลย!? เปิดใจ คะน้า ริญญารัตน์ ดาราช่อง 7 ผักรสเผ็ด ชีวิตเด็ดเวอร์!
Entertainment Report_2
17 มกราคม 2561 ( 07:00 )
8.4K

คุณจะชอบกินผัก! ถ้ารู้จักกับดาราคนนี้ “คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ” นักแสดงช่อง 7 ที่โดนข่าวเม้าท์ในวงการอยู่หลายวันมาก่อนหน้านี้ เรื่อง “นางร้ายปากเจ่อ” รับจ๊อบเสริมทำอาชีพอื่น จนเธอต้องออกมาเปิดใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ได้สร้างกระแส แต่แคร์ “แม่” มากกว่าห่วงตัวเองจึงอยากชี้แจง ข่าวแรงที่ถาโถมเริ่มซา คะน้าเชื่อมั่นว่า เรื่องไม่จริงสักวันจะเงียบไปเอง!

วันนี้ True Entertain มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอหลายเรื่อง ด้วยความจนทำให้เธอขยัน และอยากสร้างอนาคตที่ดีในวงการบันเทิง และพร้อมพิสูจน์ความสามารถให้แฟนๆได้เห็น หลากหลายชีวิตของเธอต้องลองอ่าน รับรองว่า คุณจะชอบกินผัก “คะน้า” ขึ้นมาทันที

ข่าวแรงต้องแถลงเพราะสงสารแม่!

ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกคนรู้จักคะน้า จากข่าวเม้าท์ในวงการบันเทิงอยู่หลายวัน จนในที่สุด เจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงเพราะกระทบถึงแม่
“จำได้ว่าตอนแรกเป็นตัวย่อ ไม่รู้เรื่องเลยว่าเป็นเรา และเชื่อว่าคนอื่นก็ไม่รู้นะ แล้วตอนหลังคนมาระบุว่าเป็นเรา ทุกอย่างมาพุ่งมาที่เรา เราเลยอยากออกมาเคลียร์ความจริง พูดความจริงว่าเป็นอย่างไร ตอนที่เรารู้ก็ตั้งสติ เพราะตกใจ เราเคยแต่อ่านข่าวคนอื่น ไม่รู้สึกว่าเรายังไม่เคยเป็นข่าวตั้งแต่เข้าวงการมา พอเป็นข่าวแรง ก็คิดถึงแม่ ว่าแม่คิดยังไง เขาช็อกนะ แม่รู้ทีหลัง เพื่อนเขาส่งมาบอก เขากลัวคนจะมองลูกไม่ดี”

ผู้ใหญ่ ช่อง 7 ว่าอย่างไรบ้าง?
“ผู้ใหญ่ในช่อง 7 ไม่เชื่อ สำหรับเราก็เพียงพอแล้ว ต้องขอบคุณเพราะว่าผู้ใหญ่ไม่ถามเราสักคำเลย คะน้าเป็นคนโทร.ไปว่าเห็นข่าวหรือยังคะ ผู้ใหญ่บอกเลยว่าคิดว่าไม่จริงอยู่แล้ว มันไม่มีหลักฐานอะไรเลย”

โดนเม้าท์ว่าสร้างข่าว อยากดัง!?
เพราะเข้าวงการเร็ว เลยโดนเม้าท์ว่าสร้างข่าวขึ้นมาเอง เพื่อโปรโมต และอยากดัง คะน้ายืนยันข่าวเสียหายขนาดนั้นใครจะทำ

“มีคนมองเยอะว่าสร้างกระแส เห็นคนคอมเมนต์ด้วยนะ บางคนบอกว่าช่องปั่นก็มี เราอ่านแล้วก็ขำนะ แล้วละครเรื่องนางร้าย ที่เรากำลังเล่นดันแอบตรงกับคาแรกเตอร์ เหมือนในข่าวเลย แต่จริงๆ คือบังเอิญมากกว่า ปั้นข่าวแบบนี้ไม่ไหวมั้งคะ มันไม่คุ้ม ตอนแรกคะน้าไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่ อยากเงียบ ช่องก็อยากให้เงียบ แต่มันแรงขึ้นเรื่อยๆ ยังมีคนเล่นต่อ เลยคิดว่าต้องออกมาพูดแล้ว ขุดนั่นนี่มาประกอบเยอะแยะไปหมด ลามไปเยอะมาก”

ไม่มีชีวิตวัยรุ่น! ความจนทำให้ต้องช่วยแม่ขายขนมทุกวัน

สาวสวยของเรา ยืนยันว่าไม่มีชีวิตวัยรุ่นเหมือนคนอื่น กว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้ ลำบากไม่น้อย เพราะความจนทำให้ขยันและช่วยแม่ทำงานมาตั้งแต่เด็ก
“สมัยก่อนลำบากมากตั้งแต่เด็ก คุณแม่เป็นซิงเกิลมัม เลี้ยงน้องชาย ซึ่งเป็นน้องชายคนละพ่อกับคะน้านะคะ แม่มีครอบครัวใหม่ พ่อน้องเสีย มีคะน้าเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดูแลแม่และน้องชาย ช่วยแม่ทำขนมตั้งแต่เด็ก แบกขนมไปขายที่โรงเรียนตลอด โตขึ้นมาหน่อยก็ไปทำงานร้านสเวนเซ่นส์ พอมีแฟนก็ช่วยทำธุรกิจ โชคดีตรงว่าพอเลิกกันก็มีธุรกิจส่วนตัวของตัวเองคือ ทำเครื่องประดับ แล้วจับพลัดจับผลูได้ทำงานในวงการบันเทิง”
“ตั้งแต่มัธยมไม่เคยได้ไปเที่ยวกับเพื่อน ต้องหาสตางค์ กลับบ้านรีบกลับไปช่วยแม่ทำขนม แม่ทำเบเกอรี่ เราก็เอาไปขายที่โรงเรียนไม่เคยได้ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน จะไปก็นานๆที การจะไปผับเพื่อนยากมาก เพราะไม่มีเงิน เมื่อก่อนคะน้าจนเบอร์นั้นเลยค่ะ นั่งรถเมล์ผิดสาย ต้องขอตังค์คนแถวๆ ป้ายรถเมล์ เพราะหมดแล้ว ได้แค่ครั้งเดียว โชคดีแม่เป็นซิงเกิลมัมที่ดีมาก เลี้ยงเรามาได้ค่ะ”
แต่โดนเม้าท์เรื่องแบรนด์เนมว่ามีเยอะ?
“โดนเม้าท์เรื่องแบรนด์เนม รถหรู แต่คือเคยให้สัมภาษณ์แล้วว่าเราไม่ได้หรูหราอะไรนะ เสื้อผ้าแทบจะไม่เคยซื้อเลย ประหยัดมาก เพราะเราเคยจนมาก่อน ทุกวันนี้พอมีขึ้นมาก็รีวิวทั้งนั้น เขาส่งมาทั้งนั้น เก็บตังค์เขาอีก รับจ้างรีวิว รถก็อธิบายแล้วว่ามาอย่างไร แบรนด์เนมเนี่ย ผู้หญิงมันต้องมีกันบ้าง แต่นับใบได้เลย ไม่เยอะค่ะ แล้วบางโอกาสพิเศษ แฟนเก่าซื้อให้ เก็บตังค์ซื้อให้ มือสองใบนึงไม่กี่บาท คนใกล้ตัวจะรู้ว่าเราทำงานหนักมาก ครีมก็ขาย แต่เราทำออฟไลน์ไม่ได้ออนไลน์ ไม่ดังก็ใช่ว่าจะขายไม่ได้ คือทำทุกอย่าง เก็บหอมรอมริบไว้”

มีคนพาเข้าช่อง 7 เร่งพัฒนาฝีมือ เพราะโอกาสหายาก!

ทำงานแลกเงิน และทำงานทุกอย่างที่ได้เงิน แล้ววันหนึ่งโอกาสได้เข้าวงการบันเทิงก็มาถึงเมื่อมีคนทักมาในอินสตาแกรม จะพาเข้าช่อง 7
“สมัยก่อนเล่นละคร ช่วงมีประกวดก็ได้เงินก่อน แสนนึงบ้าง 5 หมื่น อะไรแบบนี้ อะไรเป็นตังค์ทำหมด แต่ไม่ใช่นางงามเดินสาย ประกวดก็ 3-4 เวที ได้เงินก็ดีใจมาก จนวันหนึ่งตอนนั้นเรียนที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แล้วที่หอการค้าฯ ทำหนังโฆษณา ที่นั่นเขาจ้าง gdh มาทำ คนดูเยอะมาก คะน้าเป็นนางเอกโฆษณาชิ้นนั้น ได้คัดเลือกเข้าไป มีพี่ชื่อพี่ตู่ อันนี้ในข่าวเขียนว่าเป๊ปซี่ ไม่ร็จักค่ะ ข่าวลงเยอะมาก จริงๆ คือชื่อพี่ตู่ คะน้าอยากให้เครดิตพี่ตู่ เป็นคนนำพาเข้ามา ซึ่งรักและเคารพพี่ตู่มาก เพราะเป็นคนพาเข้าช่อง 7 เขามาคอมเมนต์ในอินสตาแกรมว่าสนใจมาเล่นในช่อง 7 มั้ยทิ้งไลน์ไว้ ตอนแรกตกใจเข้าไปดูในอินสตาแกรม ก็คุยรายละเอียดนัดมาแคสต์ในช่อง 7 ก็ตอนนั้นก็เต็มที่นะ 7 วันได้งานที่ช่อง 7 โอ้โห! ดีใจมาก”
เจ้าตัวยอมรับได้โอกาสมาง่าย และครั้งหนึ่งเคยเหริงจนเล่นละครไม่ได้ แต่ปัจจุบันขยันและตั้งใจมากและอยากพัฒนาตัวเอง

“ตอนแรกมันเหริง ไม่ตั้งใจ ตอนเล่นละครอาฉลอง (ฉลอง ภักดีวิจิตร) เราไม่ได้เล่นแอคติ้ง เล่นบู๊ วิ่ง ต่อย เล่นได้ พอเริ่มได้เล่นดราม่า เริ่มเล่นไม่ได้ ร้องไห้อย่างไร ทำอย่างไร เริ่มไปเรียนแอคติ้ง พอเริ่มรู้ว่ามันมีเทคนิค มีวิธีการ เห็นตัวเองในต้นเรื่องกับท้ายเรื่อง ตอนแรกคิดว่าไม่ใช่สายนี้ เราคงไม่ใช่นักแสดง ขายของดีกว่า ไม่มีละครไป 6 เดือน งานและโอกาสมันไม่ได้มาง่ายๆตอนนั้นทำให้ฟิตขึ้นมา อยากตั้งใจไปออกกำลังกาย เรียนแอคติ้ง แล้วได้รับเชิญเรื่องเพชรตัดเพชร บทเล็กๆ แต่กระแสดี รับเชิญนิดเดียวแต่คนจำได้ พอมาเล่นมัสยากระแสดี คนชอบก็ได้ละครอีก 2 เรื่องต่อมา มันคือบทเรียนว่าโอกาสไม่ได้มาง่ายๆ ทุกวันนี้ยังต้องเรียนแอคติ้งนะคะ ตั้งใจมากขึ้น ไม่อยากให้โอกาสมันหลุดลอยไป เคยมีคนพูดกับคะน้าว่ามีเด็กผู้หญิงหลายคนอยากยืนตรงนี้แล้วไม่ได้มา มันยิ่งทำให้เราต้องพัฒนาตัวเอง ซึ่งตอนนี้ได้เซ็นกับช่อง 7 ทั้งหมด 5 ปีค่ะ มีละครอีก 2 เรื่อง ไฟหิมะ กับนางร้าย”

ไม่กลัวการขุด มั่นใจตอบได้หมด
เจอข่าวแรงตั้งแต่เข้าวงการ แต่คะน้า กลับไม่ได้กลัวการถูกขุดประวัติในโลกโซเชียล และมั่นใจตอบได้ทุกคำถาม
“ถ้าขุดอะไรมาก็ชี้แจงได้หมด เราไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกคนมีอดีตหมด แต่เราไม่ได้ทำอะไรผิดร้ายแรง ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว สำหรับคะน้าถือว่าเป็นบทเรียนให้เราวางตัวอย่างไร ใครไว้ใจได้ ใครไว้ใจไม่ได้ ในวงการนี้ เราดีทุกคน รักทุกคนแต่ไว้ใจทุกคนไม่ได้ เปิดมาเจอข่าวหนักเลย สตรองเลย ไม่ร้องไห้ แต่อ่านคอมเมนต์ บางอันรู้ดีกว่า…อีก (หัวเราะ) คือต้องขอบคุณตัวเอง คะน้าตบไหล่ตัวเองแล้วบอกโชคดีที่เราเป็นคนมีทัศนคติแบบนี้ ไม่นอยด์ แต่หนูห่วงแม่มากกว่า ขอบคุณคนรอบตัวมีคนดีๆที่ให้กำลังใจ”

ขอแก้ข่าว ไม่ถูกกับ ใบเตย อาร์สยาม!
เพราะเคยมีผู้จัดการส่วนตัวคนเดียวกัน คนเลยคิดว่าสนิทกันกับนักร้องดังอย่าง “ใบเตย อาร์สยาม” แต่คะน้ายืนยัน ไม่ได้เกลียดกันแต่ไม่ได้สนิทกันแบบเพื่อนตั้งแต่แรกแล้ว
“กับพี่เตย เราสนิทกันเพราะเราใช้ผจก.ส่วนตัวคนเดียวกัน ไม่ได้สนิทเพราะเป็นเพื่อนกัน สมัยก่อนเวลามีกิจกรรม ก็ทำด้วยกัน เพราะผู้จัดการคนเดียวกัน ตอนพี่เตยสัมภาษณ์เขาก็จะโทร.มาว่านักข่าวมาถามนะ เราสัมภาษณ์เราก็โทร.บอกกัน ไม่ใช่ว่าเราเกลียดกันนะ ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดกัน ถ้าเจอกันตามงานทักทายเหมือนเดิมปกติ ไม่ได้เกลียดกันนะคะอยากชี้แจงตรงนี้ด้วย คือคะน้าก็มีเพื่อนนอกวงการค่ะที่สนิทๆกัน ในวงการก็พบเจอพูดคุยกันได้หมด”
“สุดท้ายเราจริงใจกับทุกคน คะน้าเชื่อว่าเรามีความจริงใจ เมื่อก่อนเราเป็นเด็ก ไว้ใจไปหมด ตอนนี้เราก็นิ่งขึ้น ดีกับทุกคน จริงใจ รักทุกคนเหมือนเดิม แต่เลือกเอาว่าจะไว้ใจใครคั่น้นเองค่ะ”

สวยแต่โสด! แบ่งเวลาให้แม่ก่อนใคร
หลังจากโสด เลิกรากับแฟนเก่าเข้าวงการ หัวใจของคะน้ายังว่าง เจ้าตัวบอกตัวติดกับแม่ และอยากให้เวลาแม่มากกว่าใครในตอนนี้
“คะน้าเป็นคนค่อนข้างปิดตัวเอง คือแม่ขอเลยว่าอยากให้ทำงานเพราะเพิ่งเริ่มต้น แม่ไม่ได้กลัวหนุ่มในวงการบันเทิงค่ะ แต่คะน้าเห็นด้วยกับแม่ พอเรามีความรัก แล้วเราก็ทุ่มเทกับความรัก มีแฟนก็โฟกัส แบ่งพาร์ทไม่เป็น ถ้ามีก็คงเป็นเพื่อนกันไปก่อน ไม่มีแฟนนะ จนกว่าเราจะประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง อีกอย่างคะน้ายังอยากดูแลแม่ เราล้มไม่ได้ น้องยังเรียนมัธยมอยู่เลยค่ะ ยังต้องดูแลกันไป แล้วคือต่างคนต่างติดกัน หนูติดแม่มาก แม่ติดหนูด้วย บางทีจะไปกับเพื่อนแกก็ขอตามนะ (หัวเราะ) ก็ถ้าจะมาเป็นเพื่อนกันก่อนก็ได้ค่ะ เป็นแฟนคงยังค่ะ”

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม kana_rinyarat

อัพเดทชีวิตคนดัง ครบครันเรื่องบันเทิง เพลิดเพลินไปกับบทละคร ติดตาม Dara.trueid.net ได้อีกช่องทางที่ TrueID App  หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID