Run on เป็นผลงานซีรีส์จาก Netflix Original ที่เพิ่งจบไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ เป็นซีรีส์แนวรักโรแมนติก ดราม่าเรื่องหนึ่งที่ดีเลยทีเดียว ใครที่ชื่นชอบซีรีส์เกาหลีแนวน่ารัก และแฝงประเด็นสังคมเรื่องระบบอาวุโสในทีมกีฬา ไม่ควรพลาดเลยซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักระหว่างนักกรีฑาทีมชาติ คีซอนกยอม รับบทโดย อิมชีวาน และนักแปลภาพยนตร์ต่างประเทศ โอมีจู รับบทโดย ชินเซกยอง ทั้งคู่เจอกันโดยบังเอิญหลายต่อหลายครั้ง จนโอมีจูคิดว่าคงเป็นพรหมลิขิต ก่อนหน้านี้โอมีจูมีปัญหากับศาสตราจารย์ฮวัง เขาโกรธมาก จึงไม่ให้เธอเป็นล่ามในงานสัมภาษณ์ภาพยนตร์ แต่งานนี้เป็นงานที่สำคัญมากสำหรับเธอ เธอจึงกลับไปขอโทษและอ้อนวอนให้ศาสตราจารย์หายโกรธ และยกงานนี้ให้เธอทำเหมือนเดิม ท่านส.ส. พ่อของคีซอนกยอมโทรหาศาสตราจารย์ฮวังให้ช่วยหาล่าม Part-time มาเป็นล่ามคอยติดตามลูกชายของตนที่มีงานสัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ ศาสตราจารย์จึงบอกให้โอมีจูทำงานนี้และเธอจะต้องทำงานนี้ฟรี ๆ เพื่อแลกกับการได้กลับไปทำงานสัมภาษณ์ภาพยนตร์ เธอต้องยอมจำนน เพราะเธอต้องการทำงานสัมภาษณ์ภาพยนตร์จริง ๆ ทั้งคู่จึงได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เรื่องราวต่อจากนี้คุณผู้อ่านคงต้องไปตามดูกันต่อนะคะว่าเขาทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ตัวละครทุกตัวในซีรีส์เรื่องนี้มีคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ และซีรีส์เรื่องนี้ให้ความสำคัญกับทุก ๆ ตัวละคร ตัวละครทุกตัวมีเรื่องราวของตัวเอง ความรัก ความผูกพันของตัวละครแต่ละตัวทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินไปอย่างอบอุ่น และน่าประทับใจ สำหรับเราตัวละครที่เรารู้สึกตกหลุมรักตลอดระยะเวลาที่ดูซีรีส์คือ นางเอกโอมีจูอีกหนึ่งอย่างที่เห็นได้ชัดจากซีรีส์เรื่องนี้คือ ตัวละครหญิงทุกตัวเป็นตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ สตรอง แข็งแกร่ง working woman กล้าถกเถียง พูดตรง เป็นตัวของตัวเอง เช่น พี่สาวของนางเอก พัคเมษ์ คาแรกเตอร์ห้าว ๆ แข็ง ๆ และเป็นประธานบริษัท มีฉากหนึ่งที่ศาสตราจารย์ฮวังบอกว่าบริษัทของเธอกำลังไปได้สวยและบอกว่าพัคเมษ์ยังอวดดีเหมือนเดิม เธอจึงตอบกลับไปว่าก็เป็นเพราะฉันเองแหละค่ะ “ฉันเป็นเบี้ยล่างคนอื่นไม่ได้ ก็เลยมาเป็นประธานเองไงคะ” แซ่บสุดปังเลยใช่ไหมล่ะคะส่วนตัวละครอีกตัวชื่อว่าซอดันอา เธอเป็นประธานบริษัทเอเจนซี่นักกีฬา คนนี้ก็ห้าว และแมนมาก มั่นใจในตัวเอง ดื้อรั้น อยากได้อะไรก็ต้องได้ เธอชอบกีฬาฟุตบอลและการเป็นนักกีฬาก็เป็นความฝันของเธอ ในเรื่องเราจึงเห็นซอดันอาใส่รองเท้าผ้าใบอยู่เสมอ เธอคือผู้หญิงที่ทั้งสวย รวย และเก่งส่วนตัวละครชายของเรื่องนี้เหมือนเป็นขั้วตรงข้ามกับตัวละครหญิง ตัวละครชายจะมีความอ่อนโยน นุ่ม ๆ ละมุน น่ารักปุกปิก เป็นฝ่ายยอม และดูจะเป็นฝ่ายที่คลั่งรักแฟนเป็นพิเศษ มักจะมีฉากที่ตัดสลับให้เห็นความแตกต่างของชายหญิงอย่างชัดเจน เช่น พระเอกทำงานบ้าน ซักผ้า จ่ายตลาด ทำอาหาร ในขณะที่นางเอกเดินไปหยิบซีเรียลเทใส่ถ้วย ตามด้วยนมแล้วจบมื้อเช้าด้วยวิตามินอีกมากมายหลายกระปุก ตัวละครที่ทางเราประทับใจที่สุดคือ “โอมีจู” นางเอกของเรื่อง เธอเป็นตัวแทนของผู้หญิงที่มีความสตรอง และเป็นผู้หญิงยุคใหม่ เธอกำพร้าพ่อแม่ อยู่อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ทุกเรื่องราวที่ผ่านมา เธอผ่านมันมาด้วยตัวของเธอเอง ปัญหาและสิ่งต่าง ๆ ที่เธอเผชิญหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่สตรอง รักตัวเอง เข้มแข็ง เก่ง และฉลาด เธอเป็นที่ปรึกษาที่ดี มีคำแนะนำที่ดีให้กับตัวละครอื่น ๆ อยู่เสมอ แต่ภายนอกที่ดูเข้มแข็งและแกร่ง ภายในบางครั้งก็เปราะบาง และอ่อนไหว เพราะถึงอย่างไรเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เราประทับใจในคำพูดของนางเอกในฉากหนึ่ง คือฉากที่พ่อพระเอกมาหานางเอกที่บ้าน มาต่อว่านางเอกว่าทำให้พระเอกกลายเป็นคนไม่ดี เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าพ่อพระเอก นางเอกยังคงเข้มแข็งและกล้าที่จะโต้ตอบ แต่หลังจากที่เธอเข้ามาในบ้านแล้ว เธอก็ปล่อยโฮออกมา เพราะจริง ๆ แล้วเธอกลัวมาก เธอโดนตามและแอบถ่ายรูปอยู่ตลอด จริง ๆ แล้วในใจของเธอกลัวมาก ๆ เมื่อพระเอกรู้เรื่อง พระเอกก็มาหานางเอกที่บ้านเพื่อเคลียร์ ซึ่งนางเอกนั้นยังไม่อยากพูดด้วย เพราะกลัวจะบอกเลิกพระเอก เพราะพระเอกไม่ผิด และเธอก็ไม่ได้อยากว่าครอบครัวของเขา เธอจึงพูดกับพระเอกว่า “ฉันผิดตรงไหนหรอ ฉันก็ใช้ชีวิตมาอย่างดีในแบบของฉัน”“สำหรับฉัน ตัวฉันมีค่ากว่าใคร”นี่เป็นประโยคที่เราประทับใจมาก เรารู้สึกว่านางเอกรักตัวเองมาก ๆ และมองว่าตัวเองนั้นมีค่า หลาย ๆ ครั้งเราจะเห็นละครที่พล็อตเรื่องพ่อแม่ไม่ปลื้ม และนางเอกกับพระเอกจะแก้ปัญหาด้วยการบอกว่าเราจะฝ่าฟันไปด้วยกัน หรือไม่ก็จะเลิกกัน และมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ตัดพ้อ และมองว่าตัวเองนั้นด้อยกว่าอีกฝ่ายหนึ่งเสมอ เช่น เขาอยู่สูงเกินไปสำหรับฉัน อาจจะด้วยฐานะหรือสังคมก็ตาม แต่สำหรับโอมีจู เธอเลือกที่จะบอกเลิกพระเอก เพราะเธอคิดว่าเราต้องคบกับใครสักคนจนชีวิตพังเลยหรอ แล้วเธอไม่เข้าใจว่าเธอทำอะไรผิด ใช่เธอไม่ผิด และมันไม่ใช่ความผิด เราคิดว่าความคิดที่เธอมองว่าตนเองนั้นมีค่ามันดีมาก ๆ เลย ทำไมเราต้องมองว่าตัวเองนั้นด้อยกว่าเพียงเพราะฐานะหรือหน้าตาทางสังคม ทั้ง ๆ ที่เราต่างก็ใช้ชีวิตมาอย่างดีในแบบของเรา ไม่ได้ทำอะไรที่แย่ แต่กลับถูกตัดสินให้ดูด้อยกว่า เห็นได้ชัดจากที่ประธานซอดันอาเรียกโอมีจูว่าสามัญชน ถ้าสุดท้ายความสัมพันธ์มันไปต่อไม่ได้ เราก็แค่ไม่เข้ากัน เป็นเพียงจิ๊กซอว์ที่ต่อเข้ากันไม่ได้ ไม่ใช่เพราะจิ๊กซอว์ตัวใดตัวหนึ่งพังหรือชำรุด ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องตัดสินว่าตัวเองด้อยกว่า เพราะเราก็คือเรา.สามารถรับชมซีรีส์เรื่อง Run on ได้ทาง Netflix รับชมตัวอย่างอย่างเป็นทางการขอบคุณรูปภาพจาก JTBC Dramaภาพปก https://www.facebook.com/jtbcdramapage/photos/2267510970049556รูปภาพ 1 https://www.facebook.com/jtbcdramapage/photos/2250074688459851รูปภาพ 2 https://www.facebook.com/jtbcdramapage/photos/2261189597348360รูปภาพ 3 https://www.facebook.com/jtbcdramapage/photos/2254177668049553รูปภาพ 4 https://www.facebook.com/jtbcdramapage/photos/2256699907797329รูปภาพ 5 https://www.facebook.com/jtbcdramapage/photos/2247000788767241รูปภาพ 6 https://www.facebook.com/jtbcdramapage/photos/2263184927148827รูปภาพ 7 https://www.facebook.com/jtbcdramapage/photos/2255891137878206จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !