Short CommentThe Pope's Exorcist โป๊ปปราบผี (2023)ดูสนุกตื่นเต้นเร้าใจลุ้นระทึกไปตลอดทางและเหมือนจะเน้นทางนี้มากกว่ามาเพื่อหลอนหรือน่ากลัวความจริงดูไปบ่นไปไม่ค่อยชอบดูหนังผีหรือหนังสยองขวัญไม่ใช่เพราะกลัวแต่เพราะไม่กลัว เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนไม่กลัวผีไม่เชื่อในสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ทำให้เวลาดูหนังผีถ้าหนังเรื่องใดก็ตามจัดการอารมณ์ผู้เขียนไม่ได้เป็นอันว่าบ้อท่าดูไม่สนุก อีกอย่างคือเมื่อเรื่องผีที่ส่งผลต่ออารมณ์กลัวไม่ทำงานกับผู้เขียนความอยากดูก็ไม่มีและส่วนใหญ่หนังผีหรือหนังสยองขวัญก็มักจะมาพร้อมฉากแหวะๆให้ไม่เริงใจนักซึ่งก็ว่ากันตามรสนิยม ซึ่งสำหรับหนังผีฝรั่งยิ่งแล้วใหญ่ด้วยความที่บริบททางสังคมความเชื่อและวัฒนธรรมวิถีชีวิตที่ต่างกันยิ่งทำให้ไม่รู้สึกว่าน่ากลัวนอกจากบางเรื่องจะมาเพื่อหลอนแต่การดูหนังมามากมายก็กลายเป็นจุดอ่อนเพราะถ้าไม่หลอนแบบจริงจังก็ไม่รู้สึกอะไร หนังผีจึงเป็นตัวเลือกท้ายๆสำหรับผู้เขียนที่จะเลือกดูแต่ถ้าถามว่าดูได้ไหมก็ดูได้และดูบ้างตามความน่าสนนใจต่อหนังแนวนี้บางเรื่อง เช่นเดียวกับหนังเรื่องต่อไปนี้ที่สารภาพว่าผู้เขียนไม่ได้ดูเพราะเป็นหนังผีแต่เป็นเพราะ Russell Crowe ในชุดบาทหลวงควบมอเตอร์ไซค์เวสป้าไปปราบผีก็เท่านั้น ว่ากันว่านี่คือการสร้างจากเรื่องจริงของบาทหลวงนักปราบผีนามว่าคุณพ่อ Gabriel Amorth (Russell Crowe) ที่ขึ้นตรงกับองค์สันตะปะปา หนังพาคนดูไปพบกับภารกิจแรกของคุณพ่อ Gabriel ในการปราบผีด้วยวิธีสุดเก๋าเมื่อหลอกให้ผีออกจากร่างคนไปสิงหมูแล้วจัดการซะ หนังยังเล่าด้วยว่าคุณพ่อ Gabriel เป็นบาทหลวงที่แหกคอกแหวกขบถสร้างความระทมกบาลให้กับเหล่าบาทหลวงยศสูงยิ่ง แต่องค์สันตะปะปากลับเชื่อมั่นเต็มร้อยและมอบหมายงานให้คุณพ่อ Gabriel ไปปราบผีในประเทศสเปนที่มีเด็กชายถูกผีสิงและทางการแพทย์บอกว่าเขาปกติดีและทุกอย่างเกิดขึ้นในโบสถ์เก่าที่เรียกว่าบ้านของพระเจ้า เมื่อไปถึงคุณพ่อ Gabriel ก็ได้พบกับคุณพ่อ Esquibel (Daniel Zovatto) บาทหลวงหนุ่มชาวสเปนที่ยังอ่อนประสบการณ์ จนเมื่อเผชิญหน้ากับผีหรือปีศาจเข้าจริงๆคุณพ่อ Gabriel ก็พบว่าผีตนนี้แข็งแกร่งตึงมือยิ่งและมันสามารถใช้บาปในใจคนมาล่อหลอกได้และทุกคนย่อมมีบาปไม่เว้นแม้แต่บาทหลวง แล้วคุณพ่อ Gabriel จะกำจัดมันได้หรือไม่และเหมืนว่ามันจะมีอะไรซ่อนเร้นอยู่ข้างในการสิงสู่ครั้งนี้เสิร์ฟความตื่นเต้นเร้าใจมาให้ตั้งแต่ต้นจนจบในเวลาที่พอเหมาะทำให้ดูสนุกจนลืมข้อบกพร่องไปจนสิ้น ถ้าว่ากันที่บทหนังเรื่องนี้ออกมาเป็นบทหนังที่แสนธรรมดาใช้ชั้นเชิงง่ายๆที่เหมือนเป็นของมันต้องมีในหนังผีหรือหนังปราบผีของฝรั่ง ทั้งยังเดินหน้าไปตรงๆไม่อ้อมค้อมไม่ต้องมีเร้นหลบเรื่องราวเพื่อสร้างความพลิกผันหรือตั้งท่ามาหักมุมคือเดินเรื่องแบบนับหนึ่งถึงสิบอย่างซื่อตรง หนังใช้เวลาฉายเพียงชั่วโมงครึ่งในการเลาเรื่องซึ่งถ้านับว่าไม่ได้มาเพื่อล่อหลอกหรือพยายามเหนือชั้นด้วยชั้นเชิงก็คือเป็นเวลาที่เหมาะสมเพราะนอกจากที่เห็นถ้ามัวไปเล่นอย่างอื่นอาจมีย้วย ทำให้ในเวลาที่เหมาะสมนี้หนังเสิร์ฟความตื่นเต้นเร้าใจมาให้ตั้งแต่เคสเปิดตัวรวมไปถึงการต่อสู้กันกับผีที่ยากจัดการที่เป็นเรื่องส่วนใหญ่ แน่นอนเมื่อเร้าใจไปตังแต่ต้นหนังจึงมีไคลแมกซ์สุดท้ายที่ต้องเรียกว่าลุ้นจนจิกหัวแม่เท้าได้ทั้งที่เมื่อย้อนกลับไปคิดมันก็คือเอาสิ่งที่เคยใช้ได้ผลในหนังแนวนี้มาใช้เต็มที่ และนั่นก็ทำให้หนังออกมาดูสนุกจนลืมไปเลยว่าความน่าสงสัยที่พยายามใส่มาไม่ค่อยทำงานหรือการขาดอะไรบางอย่างไปอย่างน่าเสียดายเหมือนจะชัดเจนในการเดินหน้าไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจลุ้นระทึกจนลืมความหลอนและน่ากลัว ออกตัวก่อนเลยว่านี่คือความเห็นของคนที่ไม่กลัวผีจึงมีความรู้สึกเสียดายที่หนังไม่ได้มีความน่ากลัวหรือสร้างอารมณ์หลอนได้ซึ่งก็ไม่แน่ใจนักว่าคนที่ขวัญอ่อนจะรู้สึกเหมือนกันหรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่คนไม่กลัวผีมองเห็นคือหนังตั้งท่ามาสนุกตื่นเต้นเร้าใจไปเลยโดยไม่พะวงอาการเสียวสันหลังทำให้เป็นหนังผีที่ขาดอะไรบางอย่างเพราะหนังผีมันต้องมีความน่ากลัวและหลอนจนเย็นหลังวาบๆ ทั้งนี้ยังสัมผัสได้ถึงการท้าทายความศรัทธาที่ก็ใส่มานะแต่เบาบางเหลือเกินทั้งที่ถ้าจะมีให้ลึกอีกหน่อยจะส่งผลต่ออารมณ์คนดูมากยิ่งขึ้น ทุกอย่างจึงเต็มไปด้วยความง่ายไปซื่อๆคือเรื่องของเทวากับซาตานที่คนดูก็รู้แหละว่าบทสรุปก็ต้องตามสูตรแต่จะแบบไหนเท่านั้น อีกทั้งการพยายามใส่ความน่าสงสัยในการค้นหาเบื้องหลังที่เหมือนเดินไปเรื่อยๆมากกว่าไม่ได้หวือหวามากมายจนกลายเป็นว่าหนังดูสนุกด้วยความตั้งใจมาให้ตื่นเต้นสะดุ้งตกใจ แน่นอนว่าเมื่อผีร้ายจัดการยากความบันเทิงจึงมาเต็มที่จนกลายเป็นหนังผีที่ไม่น่ากลัวแต่สนุกแม้บทหนังจะอยู่ในแค่ระดับธรรมดาแต่ความเก๋าของดาราช่วยยกระดับให้ดูเพลินยิ่งขึ้น ใช่แล้วนี่คือหนังที่บทภาพยนตร์แสนธรรมดาคือแทบไม่มีชั้นเชิงไม่มีลูกล่อลูกชนเป็นไปตามครรลองหนังบาทหลวงปราบผีแบบตรงๆ นั่นหมายความว่าหนังได้ถูกยกระดับความน่าสนใจมาจากการแสดงที่อาจต้องยอมรับว่าแทบจะเป็นหนังฉายเดี่ยวของ Russell Crowe ซึ่งความจริงตัวละครที่เขาเล่นก็เป็นตัวละครตามสูตรคือเหมือนเป็นจอมยุทธยอดฝีมือที่แหกคอกนอกรอบและกวนบาทาเจ้าใหญ่นายโต แต่ความเก๋าของ Russell Crowe ที่เล่นเรื่องนี้ประมาณอาบน้ำแต่งตัวมาทำงานคือเข้าฉากแล้วก็เลิกงานจากไปคือเนียนตาดูเพลินได้ทั้งเรื่อง ที่สำคัญการมารับบทบาทหลวงของ Russell Crowe ครั้งนี้อาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้หนุ่มใหญ่หลายคนอยากอ้วนแต่เท่แบบอ้วนๆเหมือน Russell Crowe ซึ่งหนึ่งในนั้นคือผู้เขียนเอง ส่วนนักแสดงคนอื่นถ้าว่ากันที่การแสดงในหนังที่มีบทหนังไม่เลิศเลอแบบนี้ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีแต่ก็เอาใครมาแสดงคงไม่ต่างกันเพราะนอกจาก Russell Crowe แล้วคือจบแล้วจบกันทุกคนนี่คือเรื่องของ "นักปราบผีของโป๊ป" ไม่ใช่ "โป๊ปปราบผี" แบบนี้ก็มีที่แปลชื่อหนังผิด และผิดแบบไม่น่าให้อภัยด้วยเพราะนี่คือภาษาอังกฤษง่ายคือมี 's อยู่ข้างหลังคำว่า Pope แล้วจะแปลว่าโป๊ปปราบผีได้ไงเล่า แต่ยังดีที่ไม่ได้ชี้นำไปในทางที่ผิดหรือชี้ทางไปทางความคาดหวังที่อาจทำร้ายตัวหนังจากความรู้สึกคาดหวังของคนดู แต่สำหรับผู้เขียนแล้วการดุหนังผีก็ไม่ได้คาดหวังเท่าไหร่อยู่แล้วเพราะบอกแล้วว่าไม่กลัวผีหนังผีบางเรื่องจึงทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีอารมณ์กลัว และผู้เขียนก็สารภาพไปก่อนหน้าแล้วว่าดูเพราะ Russell Crowe หนังเรื่องนี้จึงเป็นหนังที่ดูแล้วไม่ผิดหวัง แล้วอาจจะบอกได้เลยด้วยซ้ำว่าเป็นหนังที่ดูสนุกเกินคาดเพราะคิดว่าหนังแบบนี้ตั้งแต่ The Exorcist (1973) แล้วก็จะไม่หนีไปจากทางนี้มากนักที่จะเน้นบทสนทนาและความกดดันซึ่งบางเรื่องก็ไปถึงฝั่งฝันบางเรื่องก็ไปถึงความฝันคือหลับสนิท แต่กับเรื่องนี้หนังมีเจตนาชัด (หรือเปล่า) ที่จะใส่ความตื่นเต้นเร้าใจลุ้นระทึกสุดใจมาให้ นั่นหมายความว่าหนังผีเรื่องนี้เป็นหนังผีที่ตั้งใจมาเพื่อบันเทิงและก็ดูสนุกได้แม้จะขาดบางอย่างที่พึงมีในหนังผีไปบ้างก็ไม่เป็นไรดูไปบ่นไปhttps://www.youtube.com/watch?v=Kf1v5E7sMXY&ab_channel=SonyPicturesThailandขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Instagram popes_exorcistภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 จาก Facebook Major GroupVDO ตัวอย่าง จาก YouTube Sony Pictures Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !