จักรวาลภาพยนตร์ที่นักดูหนังทุกคนรู้จักกันดี คงจะนึกถึงจักรวาลภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel เป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งก็ไม่แปลกใจนักเพราะพวกเขาเป็นผู้บุกเบิกการทำหนังประเภทนั้น ทำให้มีภาพยนตร์หลาย ๆ เรื่องริเริ่มที่จะทำหนังแบบ จักรวาลภาพยนตร์ ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างเช่นจักรวาล Fast & Furious, Transformers, Monsterverse (Godzilla & Kong) แม้กระทั่งหนังไทยก็มีจักรวาล "หอแต๋วแตก" กับเขาด้วยนอกจากจักรวาลภาพยนตร์ที่ว่ามาก็ยังมีอีกหนึ่งจักรวาลที่น่าจับตามองอย่างมาก เรียกว่าตั้งแต่เริ่มประกาศโครงการเลยทีเดียวนั่นคือจักรวาลตำนานปีศาจ "Dark Universe" โดยสตูดิโอ Universal ครับ ที่เป็นการรวมเหล่าอสูรกาย ปีศาจ ตำนานจากเรื่องเล่าปรัมปราที่ชาวโลกคุ้นตามารวมตัวกัน ได้แก่ Dracula, Mummy, Invisible Man, Creature from the Black lagoon, Bride of Frankenstein, The Wolf Manเป็นอภิมหาโปรเจ็กต์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก พร้อมกับการประกาศนักแสดงหลักด้วยนักแสดงเกรด AAA ไม่ว่าจะเป็น Tom Cruise, Javier Bardem, Russell Crowe, Johnny Depp ก็ยิ่งทำให้จักรวาลรวมดาวปีศาจร้ายดูดีมีระดับมากขึ้น จนในที่สุดปี 2017 ทาง Universal ก็ได้ประเดิมภาพยนตร์เรื่องแรกของจักรวาลดังกล่าวด้วย The Mummy นำแสดงโดย Tom Cruiseการเปิดตัวของ The Mummy ก็สร้างเซอร์ไพรซ์เลยทีเดียว แต่เป็นเซอร์ไพรซ์แก่ทีมผู้สร้างแทน เพราะว่ากระแสคำวิจารณ์และรายได้ตกต่ำจนน่าใจหาย ทำรายได้ไปเพียง 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุก็คงเป็นเพราะว่าบท-การเดินเรื่องที่ธรรมดาและไม่น่าติดตาม แม้ว่าจะมีพระเอกมาดเท่หล่ออมตะก็ไม่สามารถพยุงหนังได้เลย ทำให้การเปิดตัวกลับกลายเป็นการปิดตัวรูดม่านจักรวาลอย่างรวดเร็วเสียอย่างนั้นด้วยวิกฤตนั้นทำให้เหล่านักแสดงชั้นนำทั้งหลายก็ถูกยกเลิกไปโดยปริยายเช่นกันถึงทิศทางหลังจากนั้นจะดูมืดมนสมกับชื่อ Dark Universe แต่ดูเหมือนว่าความหวังยังพอมีเมื่อในอีก 2 ปีถัดมา ทาง Blumhouse Productions สตูดิโอผู้ผลิตภาพยนตร์แนวสยองขวัญทุนต่ำ (Get Out, Us) ได้เสนอตัวปลุกชีพจักรวาลนี้ขึ้นมาพร้อมกับแนวทางที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแนวทางของสตูดิโอนี้ที่มีต่อ Dark Universe ก็คือรีเซ็ตใหม่ ปรับเปลี่ยนแนวให้สยองขวัญมากขึ้น รูปแบบการทำหนังจะเป็นหนังเดี่ยว Stand Aloneโดยคำว่า Stand Alone นี่แหละครับที่น่าสนใจ เพราะแรกเริ่มเดิมทีภาพยนตร์ทุกเรื่องจะต้องมีการเชื่อมต่อเรื่องราวกัน แต่ทาง Blumhouse และ Universal ตัดสินใจที่จะยุติการเชื่อมโยง แล้วหันไปโฟกัสกับการทำหนังเดี่ยว เน้นเล่าเรื่องราวตัวละครให้ลึกซึ้งมากกว่า บวกกับการทำหนังเดี่ยวก็จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายไปได้บางส่วน ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของสตูดิโอ จนในที่สุดภาพยนตร์เรื่องแรกที่คลอดออกมาภายใต้อ้อมอก Blumhouse ก็คือ The Invisible Man เข้าฉายเมื่อต้นปี 2020The Invisible Man เป็นมนุษย์ล่องหนที่ถูกเล่าเรื่องราวมาตั้งแต่ปี 1933 แต่การ Reboot ใหม่ได้ถูกปรับเปลี่ยนดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ พร้อมกับใส่ความสยองขวัญมากขึ้น เมื่อนึกถึงความสามารถของมันที่ล่องหนได้ ทำให้มนุษย์ล่องหนปี 2020 จะเหมือนกับผีผสมกับคนโรคจิตที่คอยคุกคามเหยื่อ ให้ความทริลเลอร์สยองขวัญสั่นประสาท และมันก็ได้เสียงวิจารณ์ได้แง่บวกสูงมาก เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างดีถือว่าเป็นอนาคตที่สดใส เป็นใบเบิกทางสู่ปีศาจตัวใหม่ได้ง่ายขึ้นสิ่งที่ทำให้ The Invisible Man ประสบความสำเร็จ หลัก ๆ ก็เป็นเพราะการคุมโทนหนังที่ดี เล่นอารมณ์ความรู้สึกได้ยอดเยี่ยม ด้วยมุมกล้องหรืออารมณ์ของนักแสดง แม้เราจะรู้ว่าตัวมนุษย์ล่องหนก็คือคน แต่หนังก็สามารถทำให้เรารู้สึกว่ามันคือผีที่ไร้ตัวตน พร้อมกับบทสรุปที่พลิกผันกดดันพอสมควร มันจึงไม่แปลกใจเลยครับที่จะได้เสียงวิจารณ์ในแง่บวกด้วยอนาคตที่เริ่มจะเห็นแสงสว่าง ทำให้ล่าสุดมีการพัฒนาบทภาพยนตร์เรื่องต่อไปในชื่อ Bride of Frankenstein ขึ้นมาแล้วซึ่งเดิมทีเรื่องนี้จะได้ Angelina Jolie และ Javier Bardem มาเป็นนักแสดงหลัก แต่เมื่อจักรวาลถูกรีเซ็ตใหม่ ทำให้ต้องค้นหานักแสดงใหม่อีกครั้ง ส่วนการดัดแปลงเรื่องราวให้อยู่ในยุคใหม่หรือย้อนอดีตยุคโบราณหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ ถือว่าเป็นการเดินทางครั้งใหม่ที่เป็นก้าวเล็ก ๆ แต่มั่นคงกว่าเดิม แม้ว่าทุนสร้างหรือชื่อชั้นนักแสดงจะไม่ได้ดึงดูดน่าสนใจมากมาย แต่ก็ทดแทนด้วยการทุ่มเทเรื่องบทภาพยนตร์ โทนหนังที่สยองขวัญทุนต่ำ ไอเดียที่แปลกใหม่ของผู้กำกับ ก็น่าจะเป็นทิศทางที่ดีครับของ Dark Universe ยุคใหม่ที่ไม่ Universe อีกแล้ว (เป็นหนังเดี่ยว Stand Alone แทน) อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าครับ การทำหนังแบบ Stand Alone เรื่องเดียวจะทำให้โฟกัสการเล่าเรื่องได้ดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาหยอดประเด็นนั่นนี่เพื่อปูทางไปยังหนังเรื่องถัดไป ซึ่งดูแล้วการเดินทางในแนวทางนี้ก็น่าจะไปได้สวยทีเดียว ยิ่งการได้ Blumhouse มากุมบังเหียนด้วยแล้วก็ยิ่งวางใจได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องถัดไปจะต้อง "ขนหัวลุก" แน่นอนที่มารูปภาพ: รูปภาพปก / รูปภาพ 1 / รูปภาพ 2 / รูปภาพ 3 / รูปภาพ 4 / รูปภาพ 5