เสน่ห์ของการ์ตูน One-Piece ถ้าให้พูดนั้นมันคงจะมีเยอะมากน่าดู ไม่ว่าจะเป็นความลับต่าง ๆ ภายในเรื่อง ตัวละครเอกและพรรคพวกที่มีมิติและดีไซน์ที่แตกต่างกัน พลังพิเศษของเหล่าบรรดาตัวละครหลายร้อย และก็ค่าหัวของเหล่าบรรดาโจรสลัดในเรื่อง ใช่แล้วครับ ในวันนี้ผมจะมาจัด "10 อันดับบุคคลที่มีพลังไฟหรือลาวาที่รุนแรงมากที่สุด" จะมีอะไรกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยครับ! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! อันดับที่ 10 : มัลโก้ มัลโก้เป็นผู้ใช้พลังจากผลปีศาจ โทริ โทริ โมเดล นกฟีนิกซ์ ซึ่งให้เขาสามารถแปลงร่างเป็นนกฟีนิกซ์ในตำนานและใช้เปลวไฟสีฟ้าที่มีความสามารถพิเศษในการรักษาตัวเองและผู้อื่นแทนที่จะสร้างความเสียหายโดยตรง แม้ว่าไฟของมัลโก้จะไม่ได้รุนแรงเหมือนไฟจากผลเมระ เมระ แต่เปลวไฟสีฟ้าของเขาก็มีพลังที่ช่วยให้เขาฟื้นฟูบาดแผลได้ทันที เปลวไฟนี้จึงไม่ได้มีไว้เพื่อโจมตีศัตรูโดยตรง แต่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการต้านทานและลดความเสียหายในสถานการณ์การต่อสู้ ในสงครามมารีนฟอร์ด มัลโก้ได้แสดงความแข็งแกร่งของพลังนี้อย่างเต็มที่ เขาสามารถรับการโจมตีรุนแรงจากพลเรือเอกและคู่ต่อสู้ระดับสูงได้หลายครั้งโดยไม่เป็นอันตรายมากนักเพราะการฟื้นฟูของไฟฟีนิกซ์ที่ช่วยรักษาบาดแผลและป้องกันการโจมตีในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ มัลโก้ยังใช้พลังฟีนิกซ์ของเขาในการสนับสนุนพันธมิตรในภาควาโนะคุนิ ศึกโอนิงาชิมะ เช่นการปกป้องและฟื้นฟูเพื่อนร่วมทีมจากไวรัสและรับมือศัตรูไปพร้อม ๆ กัน มัลโก้จึงไม่เพียงแต่เป็นนักรบที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในฐานะผู้ช่วยเหลือที่น่าเกรงขามในสงคราม อันดับที่ 9 : ลูฟี่ ลูฟี่สามารถใช้ไฟในการต่อสู้ได้ผ่านพลังจากผลปีศาจของเขา เพราะเขากินผลฮิโตะ ฮิโตะ โมเดล นิกะ ซึ่งนิกะก็คือเทพพระอาทิตย์ ฉะนั้นลูฟี่จึงมีพลังการสร้างไฟได้ในทางอ้อม หลังจากลูฟี่พัฒนาฮาคิขึ้น ลูฟี่ก็มีท่าที่สามารถใช้ร่วมกับไฟได้มากมาย เช่น ท่าเรดฮอว์ก ลูฟี่พัฒนาท่านี้ขึ้นเพื่อต่อสู้หลังจากสูญเสียเอส พี่ชายที่เขารักและเคารพอย่างยิ่ง โดยมีเจตนารมณ์ที่จะสืบสานพลังแห่งไฟของเอส ซึ่งใช้ผล เมระ เมระ มาก่อน ท่าเรดฮอว์กจึงสะท้อนความเคารพและความทรงจำที่ลูฟี่มีต่อเอส เป็นเหมือนการระลึกถึงพี่ชายที่เสียไป และเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขายังคงสานต่อเจตนารมณ์ของเอสในฐานะนักสู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ ในอนาคต พลังไฟของลูฟี่อาจพัฒนาได้มากขึ้นและหนักหน่วงยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อมีการเชื่อมโยงกับเทพแห่งดวงอาทิตย์ในตำนาน ซึ่งผลปีศาจของเขาน่าจะเกี่ยวข้องด้วย ลูฟี่อาจจะสามารถใช้ไฟอย่างอิสระและมีพลังทำลายล้างสูงกว่านี้ ในการต่อสู้เพื่อปกป้องพรรคพวกและอุดมการณ์แห่งเสรีภาพของเขา ลูฟี่จะได้สานต่อความฝันของเขาในฐานะนักสู้ที่ไม่เพียงแต่พึ่งพาพลังร่างกาย แต่ยังมีไฟที่เปี่ยมไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่เขาได้รับจากพี่ชายคนสำคัญ การเติบโตของเขาในฐานะ “จอยบอย” ผู้ที่มีพลังไฟในแบบฉบับของตัวเอง อาจทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักสู้ที่น่าเกรงขามที่สุดในโลก อันดับที่ 8 : บิ๊กมัม บิ๊กมัมมีความสามารถในการใช้ไฟผ่านการควบคุม โพรมีธีอุส ดวงไฟที่ได้รับวิญญาณจากพลังของผลปีศาจ โซล โซล ซึ่งทำให้เธอสามารถใส่ชิ้นส่วนของวิญญาณเข้าไปในสิ่งของหรือองค์ประกอบต่างๆ เพื่อสร้าง “โฮมมี่” ขึ้นมา โพรมีธีอุสคือโฮมมี่ที่เป็นก้อนเปลวไฟสีส้มขนาดใหญ่ ทำหน้าที่เป็นอาวุธโจมตีที่มีพลังไฟรุนแรง ช่วยให้บิ๊กมัมสามารถสร้างการโจมตีด้วยเปลวเพลิงที่เผาทุกสิ่งรอบข้างให้เป็นจุล เปลวไฟจากโพรมีธีอุสไม่เพียงแต่ร้อนแรง แต่ยังควบคุมได้อย่างแม่นยำและยืดหยุ่นเพราะเชื่อฟังบิ๊กมัมเสมือนเป็นอาวุธส่วนหนึ่งของเธอ ในหลายสถานการณ์การต่อสู้ บิ๊กมัมใช้พลังของโพรมีธีอุสเพื่อสร้างความได้เปรียบอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะการโจมตีจากระยะไกลที่รุนแรง ตัวอย่างเช่น ในการต่อสู้กับลูฟี่และพรรคพวกในโฮลเค้กไอแลนด์ เธอใช้โพรมีธีอุสสร้างไฟที่เผาทำลายได้อย่างรวดเร็ว หรือในสงครามวาโนะที่เธอร่วมมือกับไคโด ต่อสู้กับคิดส์และลอว์ โพรมีธีอุสได้กลายเป็นทั้งตัวโจมตีและตัวป้องกันที่ช่วยให้เธอสามารถควบคุมสนามรบได้อย่างดุดัน บิ๊กมัมไม่เพียงแต่ใช้ไฟในการสร้างความหวาดกลัวแก่ศัตรูเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถในการควบคุมวิญญาณและเปลี่ยนสิ่งที่จับต้องไม่ได้อย่างไฟ ให้กลายเป็นพลังที่ทรงอานุภาพ อันดับที่ 7 : ซาโบ้ ซาโบ้ได้รับพลังไฟจากผล เมระ เมระ แบบเดียวกับเอส ทำให้เขามีความสามารถในการควบคุมเปลวไฟที่ร้อนแรง และสามารถสร้างไฟเพื่อใช้โจมตีหรือป้องกันได้ในหลายรูปแบบ แม้ว่าเขาจะเพิ่งได้รับพลังนี้ไม่นาน ทำให้ยังไม่คุ้นชินหรือชำนาญในการใช้เท่ากับเอส แต่ซาโบ้สามารถปรับตัวและผสานพลังไฟเข้ากับทักษะการต่อสู้ที่มีอยู่แล้วได้อย่างรวดเร็ว ด้วยพื้นฐานการใช้หมัดมังกรที่แข็งแกร่ง การผสานพลังไฟทำให้การโจมตีของเขาหนักหน่วงและมีความรุนแรงขึ้นหลายเท่า เช่นการใช้ท่า ฮิเคน หรือ “หมัดเพลิง” ที่สร้างการโจมตีด้วยเปลวไฟอันดุดันที่เผาผลาญทุกสิ่งในเส้นทางการโจมตีได้ ในการต่อสู้ที่เดรสโรซ่า ซาโบ้ได้แสดงให้เห็นถึงพลังไฟที่เขาได้รับจากเอส โดยการปะทะกับพลเรือเอกฟูจิโทระและศัตรูคนอื่นๆ เขาใช้พลังไฟร่วมกับพลังการต่อสู้ของเขาได้อย่างคล่องตัว แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ซาโบ้มีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ไกลยิ่งกว่าที่เอสเคยไปถึง เพราะเขาสืบทอดเจตจำนงและความฝันของเอสมาด้วยใจที่หนักแน่น การที่เขาสานต่อพลังไฟในฐานะพี่ชายคนใหม่ของลูฟี่ ทำให้พลังนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและเต็มไปด้วยความรับผิดชอบ การพัฒนาของซาโบ้ในอนาคตอาจทำให้เขากลายเป็นนักสู้ที่ใช้พลังไฟได้อย่างชำนาญและหนักหน่วงที่สุดคนหนึ่งในโลก ทำให้เจตนารมณ์ของเอสยังคงดำรงอยู่ในทุกเปลวไฟที่ซาโบ้ใช้ อันดับที่ 6 : เอส เอสเป็นผู้ใช้พลังจากผล เมระ เมระ ซึ่งทำให้เขาสามารถควบคุมไฟได้อย่างสมบูรณ์และสร้างการโจมตีที่ทรงพลังมหาศาล เขามีท่าโจมตีหลายท่าที่ใช้เปลวเพลิงในการสร้างความเสียหายอย่างหนักหน่วง เช่น ฮิเคนหรือ “หมัดเพลิง” ที่เป็นการปล่อยเปลวไฟขนาดใหญ่ที่เผาทุกสิ่งในเส้นทาง นอกจากนี้ เขายังสามารถสร้างไฟเพื่อสร้างโล่ป้องกันและหลอมรวมร่างกายเข้ากับไฟ ทำให้สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีทางกายภาพได้ ด้วยพลังของผลเมระ เมระ เอสสามารถควบคุมไฟในระดับที่รุนแรงจนสร้างความหวาดกลัวแก่คู่ต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีใกล้หรือไกลก็ตาม ในสถานการณ์การต่อสู้ที่น่าจดจำ เอสสามารถปะทะกับอดีตพลเรือเอกอย่างอาโอคิยิ ที่ใช้พลังน้ำแข็งได้อย่างเชี่ยวชาญ การปะทะระหว่างไฟและน้ำแข็งนั้นเกิดขึ้นอย่างสูสีและดุเดือด ความสามารถของเอสในการใช้ไฟได้อย่างหนักหน่วงทำให้เขาไม่เป็นรอง แม้คู่ต่อสู้จะเป็นระดับพลเรือเอก พลังไฟของเอสสามารถแสดงให้เห็นถึงความร้อนแรงและความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดได้ นอกจากการใช้พลังนี้ในการโจมตีแล้ว เอสยังมีความมุ่งมั่นและเจตจำนงที่แน่วแน่ในการปกป้องพรรคพวกและอุดมการณ์ของเขา ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เขาสามารถดึงศักยภาพของผลเมระ เมระ มาใช้ได้เต็มที่ในฐานะพี่ชายผู้เสียสละของลูฟี่ อันดับที่ 5 : คิง คิง หนึ่งในสมาชิกเผ่าลูนาเรีย มีความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ในการควบคุมเปลวเพลิงอันทรงพลังที่มาจากร่างกายของเขาเอง ความสามารถพิเศษนี้ทำให้เขามีพลังในการสร้างและควบคุมไฟที่ร้อนแรงยิ่งกว่าธรรมดา บางครั้งยังสามารถปล่อยไฟที่มีความร้อนระดับแมกม่าออกมาเพื่อโจมตีศัตรูได้ ในการต่อสู้ คิงสามารถใช้เปลวเพลิงจากปีกของเขาเสริมความสามารถในการบินที่รวดเร็วและการโจมตีที่ทรงพลังได้ เปลวเพลิงนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทำให้เขากลายเป็นนักสู้ที่ดุดันอย่างยิ่ง เพราะเขาสามารถเปิดไฟเพิ่มความร้อนแรงในขณะที่ต่อสู้ ทำให้ร่างกายทนทานขึ้นและสามารถสร้างแรงโจมตีที่หนักหน่วงขึ้นอีกระดับ ในศึกสุดท้ายกับโซโลที่โอนิงาชิมะ คิงได้ใช้ความสามารถเต็มพิกัด เขาปลดปล่อยพลังไฟระดับแมกม่าที่อัดแน่นด้วยแรงทำลายล้างใส่โซโลอย่างไม่หยุดยั้ง การโจมตีด้วยเปลวไฟที่เข้มข้นและรุนแรงนี้ทำให้การต่อสู้ยิ่งดุเดือดและยืดเยื้ออย่างมาก เนื่องจากคิงสามารถโจมตีอย่างหนักหน่วงจากทั้งการโจมตีทางกายภาพและความร้อนของไฟที่สูงถึงระดับแมกม่า แต่โซโลก็สามารถรับมือและค้นพบจุดอ่อนของคิงได้ ถึงกระนั้นคิงจึงเป็นนักสู้ที่ใช้ไฟได้อย่างไร้เทียมทาน และการต่อสู้ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและศักยภาพที่แท้จริงของเขาในฐานะสมาชิกเผ่าลูนาเรียที่เปี่ยมไปด้วยพลัง อันดับที่ 4 : โมโมโนะสุเกะ โมโมโนะสุเกะได้รับพลังจากผลมังกรเทียมที่สร้างโดยดร.เวก้าพังค์ ซึ่งเลียนแบบพลังของไคโดมาแทบจะครบถ้วน นั่นทำให้โมโมโนะสุเกะมีความสามารถในการสร้างและควบคุมเปลวเพลิงจากร่างมังกรได้อย่างทรงพลัง แม้ว่าในตอนแรกเขาจะยังไม่คุ้นเคยและมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้พลังนี้ แต่ในช่วงการต่อสู้และปกป้องโอนิงาชิมะ เขาค่อยๆ เรียนรู้และพัฒนาความสามารถของตนเองในการควบคุมไฟอย่างชำนาญยิ่งขึ้น เขาสามารถสร้างเปลวเพลิงเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายและใช้เป็นอาวุธโจมตีที่รุนแรงได้ ความสามารถนี้ทำให้เขาใกล้เคียงกับไคโดในแง่ของพลังเพลิงและความทนทาน แม้ว่าเขาจะยังอยู่ในช่วงการเรียนรู้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงพลังที่ซ่อนอยู่และศักยภาพอันยิ่งใหญ่ ในการปะทะกับพลเรือเอกเรียวคุกิว โมโมโนะสุเกะสามารถใช้พลังไฟของตนเพื่อต่อต้านพลังควบคุมพืชของอีกฝ่ายได้อย่างดี เขาใช้เปลวเพลิงจากร่างมังกรเพื่อสกัดกั้นและป้องกันการโจมตีจากเถาวัลย์และไม้ที่เรียวคุกิวปล่อยออกมา ด้วยความตั้งใจที่จะปกป้องวาโนะ โมโมโนะสุเกะได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถในการใช้พลังของตนในการต่อสู้ ทำให้เขายืนหยัดต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งได้อย่างน่าประทับใจ แม้เขายังไม่ได้เชี่ยวชาญในการใช้ไฟเทียบเท่าไคโด แต่การเติบโตและการฝึกฝนที่เพิ่มขึ้นของเขาบ่งบอกว่า โมโมโนะสุเกะมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปได้อีกไกล อันดับที่ 3 : ไคโด ไคโดเป็นหนึ่งในผู้ใช้พลังไฟและแมกม่าที่ทรงพลังที่สุดในโลกวันพีซ โดยเขาได้รับพลังจากผลปีศาจ "อุโอะ อุโอะ" ที่เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นมังกรยักษ์ เมื่ออยู่ในร่างมังกร ไคโดสามารถสร้างเปลวเพลิงที่ร้อนแรงได้รอบตัว ทำให้สามารถโจมตีด้วยเปลวไฟที่โหมกระหน่ำหรือใช้ปกคลุมร่างกายเพื่อเพิ่มความทนทาน นอกจากนี้ ไคโดยังสามารถเพิ่มความร้อนจนถึงระดับแมกม่า โดยการสร้างเปลวเพลิงที่ร้อนแรงจนสามารถเผาทุกสิ่งที่สัมผัส เปลวไฟระดับแมกม่านี้เพิ่มความหนักหน่วงในการโจมตี ทำให้ศัตรูได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้กระทั่งนักสู้ที่แข็งแกร่งก็ยากที่จะรับมือได้ ในศึกสุดท้ายกับลูฟี่ที่โอนิงาชิมะ ไคโดได้ปะทะกับลูฟี่ เกียร์ 5 ซึ่งเป็นการปลดปล่อยพลังเต็มที่จากพลังผลปีศาจของลูฟี่ แม้ว่าลูฟี่จะอยู่ในสภาวะที่แข็งแกร่งและมีพลังโจมตีอันหนักหน่วงจากการแปลงร่าง แต่ไคโดก็ยังสามารถตอบโต้ได้ด้วยพลังแมกม่าของเขา ทำให้การโจมตีของลูฟี่แทบไม่มีผลต่อร่างกายของเขาในบางครั้ง การใช้พลังแมกม่าของไคโดในศึกนี้แสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมและความแข็งแกร่งที่ทำให้เขาสามารถทัดทานเกียร์ 5 ของลูฟี่ได้อย่างสูสี ไคโดจึงถือเป็นนักสู้ที่ไร้เทียมทานซึ่งไม่เพียงแค่มีพลังในการโจมตีอันหนักหน่วง แต่ยังสามารถใช้ไฟและแมกม่าเป็นอาวุธที่สร้างความหวาดกลัวให้กับคู่ต่อสู้ อันดับที่ 2 : อาคาอินุ อาคาอินุ หรือ พลเรือเอกซากาซึกิ เป็นผู้ใช้พลังแมกม่าจากผลปีศาจ "มากุ มากุ" ซึ่งให้ความสามารถในการสร้างและควบคุมแมกม่าที่ร้อนระอุและมีความสามารถในการทำลายล้างสูงมาก พลังแมกม่านี้ทำให้อาคาอินุเหนือกว่าไฟธรรมดา เช่น ไฟของเอส ซึ่งพลังของเขาสามารถเผาไหม้และทำลายเปลวไฟได้อย่างง่ายดาย นอกจากการสร้างความร้อนรุนแรงแล้ว พลังแมกม่าของเขายังทำให้เขาสามารถโจมตีที่ทะลวงได้สูง ทั้งยังสร้างแรงอัดและการทำลายที่หนักหน่วงแก่คู่ต่อสู้ จึงทำให้อาคาอินุกลายเป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขามที่สุดในโลกของวันพีซ ในการต่อสู้ที่มารีนฟอร์ด อาคาอินุได้ใช้พลังแมกม่าของเขาเพื่อเผชิญหน้ากับเหล่าโจรสลัดหนวดขาว ในศึกนี้ เขาได้สร้างแผลเป็นบนร่างของหนวดขาว และสามารถจัดการกับเอสจนถึงแก่ชีวิตได้ โดยพลังของแมกม่าสามารถทะลุผ่านร่างของเอสที่มีพลังไฟจากผล "เมระ เมระ" ได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ อาคาอินุยังสร้างบาดแผลลึกบนหน้าอกของลูฟี่ รวมถึงทำร้ายจินเบอย่างหนัก นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พลังแมกม่าของอาคาอินุได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความโหดเหี้ยมและความเด็ดขาดในสมรภูมิ ด้วยความหนักหน่วงและทำลายล้างของพลังนี้ เขาจึงกลายเป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่หลายคนยำเกรง อันดับที่ 1 : ซันจิ ซันจิ มีความสามารถพิเศษในการใช้ "ไฟ" เป็นอาวุธในการต่อสู้ ซึ่งเป็นทักษะที่เกิดจากการฝึกฝนตนเองอย่างหนักหน่วง โดยเริ่มจาก "ดิอาโบลจัมบ์" ที่ทำให้เขาสามารถสร้างเปลวไฟสีแดงรอบขาเพื่อเพิ่มความหนักหน่วงในการโจมตี จากนั้นเขาได้พัฒนาความสามารถในการต่อสู้ของเขาเรื่อยมา หลังจากผ่านการปลุกพลังสายเลือดวินสโมคในฐานะมนุษย์ดัดแปลง ทำให้ร่างกายของซันจิแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก และในที่สุดเขาก็สามารถสร้าง "ไฟสีฟ้า" ที่ร้อนแรงกว่าปกติด้วยการโจมตีรูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า "อิฟริตจัมบ้" ซึ่งมาจากไฟในระดับอุณหภูมิที่สูงมาก ทำให้ซันจิสามารถเผาผลาญและสร้างความเสียหายได้สูงกว่าเดิม ในการต่อสู้กับควีน ซันจิแสดงให้เห็นถึงความชำนาญในการใช้ฮาคิเกราะและการผสานกับไฟได้อย่างไร้ที่ติ เปลวไฟสีฟ้าของซันจิถือเป็นไฟที่มีพลังทำลายล้างสูงสุด เนื่องจากไฟสีฟ้ามีอุณหภูมิสูงกว่าไฟสีแดงธรรมดาหรือแม้กระทั่งแมกม่าของอาคาอินุ ด้วยพลังไฟสีฟ้านี้ ซันจิสามารถสร้างการโจมตีที่รุนแรงและแม่นยำ รวมถึงทำลายเกราะป้องกันของศัตรูได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ความเร็วและความคล่องตัวที่เหนือชั้นของซันจิยิ่งเพิ่มความอันตรายให้กับไฟสีฟ้านี้ ทำให้ซันจิกลายเป็นนักสู้ที่คู่ต่อสู้ต้องเกรงขามอย่างแท้จริง เครดิตรูปภาพทั้งหมด รูปภาพหน้าปก : Facebook : Toei Animation รูปภาพที่ 1.) : Facebook : One Piece รูปภาพที่ 2.) : Facebook : Toei Animation รูปภาพที่ 3.) : Facebook : One Piece รูปภาพที่ 4.) : Instagram : onepiece_staff รูปภาพที่ 5.) : Facebook : One Piece รูปภาพที่ 6.) : Facebook : One Piece รูปภาพที่ 7.) : Facebook : Toei Animation รูปภาพที่ 8.) : Facebook : Toei Animation รูปภาพที่ 9.) : Instagram : onepiece_staff รูปภาพที่ 10.) : Facebook : Toei Animation เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !