ดิสนีย์ ครอง 4 ใน 5 หนังขาดทุนสูงสุดในปี 2023 "The Marvels" เสียไปถึง 237 ล้านเหรียญ

Deadline ได้เปิดเผยรายงานล่าสุดเกี่ยวกับภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์อย่างเนืองแน่นอีกครั้งในปี 2023 นับตั้งแต่หยุดชะงักไปเมื่อปี 2020 จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส Covid-19

รายงานดังกล่าวอ้างถึงพฤติกรรมการชมภาพยนตร์ในช่วง 2 – 3 ปี หลังมานี้ ที่บริการสตรีมมิงเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรที่ทำกำไรมากไปกว่าการฉายในโรงภาพยนตร์ รวมถึงบริษัทสตรีมมิงรายใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น Apple ก็เห็นความสำคัญของการฉายภาพยนตร์ที่ตนสร้างในโรงภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน นั่นคือ ‘Killers of the Flower Moon’ และ ‘Napoleon’ เพื่อดึงความสนใจจากผู้ชมก่อนที่จะส่งลงบริการสตรีมมิงต่อไป

เดิมที Disney จะมีภาพยนตร์หลายรื่องที่ติดอยู่ใน 10 อันดับแรก ของภาพยนตร์ที่ทำกำไรสูงสุดในทุกปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโรของ Marvel Studios แต่ปี 2023 ที่ผ่านมานั้น Disney กลับครองอันดับภาพยนตร์ที่ขาดทุนมากที่สุดถึง 4 ใน 5 อันดับแรก

ทั้งนี้ ภาพยนตร์ที่ขาดทุนสูงสุดในปี 2023 คือ ‘The Marvels’ ของ Disney และ Marvel Studios ซึ่งทำรายได้ทั่วโลก รวมรายได้จากการฉายในรูปแบบ Home Entertainment, ฉายทางโทรทัศน์ และบริการสตรีมมิง ไปทั้งสิ้น 218 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างรวมค่าโปรโมตทั่วโลกที่มหาศาลถึง 455 ล้านเหรียญ ซึ่งทำให้ขาดทุนไปทั้งสิ้น 237 ล้านเหรียญ

แต่ก็มีคำถามว่า ภาพยนตร์จาก Apple Original Films อย่าง ‘Killers of the Flower Moon’ และ ‘Napoleon’ ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 157 ล้านเหรียญ และ 221 ล้านเหรียญ ตามลำดับ จากทุนสร้างที่มหาศาลกว่า 200 ล้านเหรียญ (ยังไม่รวมค่าโปรโมตทั่วโลก) ของทั้ง 2 เรื่องนั้น ติดอันดับภาพยนตร์ขาดทุนสูงสุดด้วยหรือไม่

คำตอบคือ เว็บไซต์ Deadline ได้วิเคราะห์ว่า การฉายภาพยนตร์ดังกล่าวในโรงภาพยนตร์นั้น เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใช้จ่ายทางการตลาดเพื่อผลักดันบริการ OTT (Over-the-Top) ซึ่งหมายถึงบริการรับชมภาพยนตร์และเนื้อหาต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต ในที่นี้คือ บริการสตรีมมิง Apple TV+ นั่นเอง จึงไม่ถูกจัดอยู่ในประเภทเดียวกับภาพยนตร์ของ Disney แต่อย่างใด

5 อันดับ ภาพยนตร์ที่ขาดทุนสูงสุดในปี 2023 จากการวิเคราะห์ของ Deadline มีดังนี้

ที่มา : Deadline