บทบาทชีวิต ตัวละครแห่งความทรงจำ ที่สุดแห่งหนัง LGBTQ ในรอบ 25 ปี
ข่าวสารวงการหนัง
ร่วมส่งท้าย Pride Month เดือนแห่งความอิสระและความภาคภูมิใจของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ (LGTBQ+) ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คนกลุ่มนี้ต่างมีส่วนช่วยผลักดันให้โลกได้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ท่ามกลางการเปิดใจยอมรับและปรับทัศนคติที่มีต่อมุมมองของคนสังคม พวกเขาคือกลุ่มคนที่ต่อสู้มาอย่างหนัก เพื่อสิทธิและศักดิ์ศรีของตัวเองที่เป็นความเป็นตัวของตัวเอง
เช่นเดียวกับ ผลงานภาพยนตร์ทั่วโลกที่ต่างก็มีการหยิบประเด็นกลุ่มหลากหลายทางเพศนำไปตีแผ่ออกมาเป็นหนังเรื่องเยี่ยม สะท้อนถึงปัญหาสังคม ความเหลื่อมล้ำ ทัศนคติมุมมองของคน และแวดล้อมการยอมรับ ทำให้เห็นถึงความสวยงามของกลุ่มคนที่ยืดหยัดเพื่อเพศของตัวเอง และหลากหลายคาแรกเตอร์ในหนังก็ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไป รวมทั้งยังสร้างอิทธิพลต่อแนวคิดของคนทั่วไปด้วย
Movie.TrueID ร่วมเชิดชูความโดดเด่นของความหลากหลายทางเพศ ได้คัดเลือกตัวละครและคาแรกเตอร์ LGBTQ+ ที่ยิ่งใหญ่ที่เคยโลดแล่นบนจอใหญ่มาก่อน พวกเขาคือตัวละครแห่งความประทับใจ และแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในการขับเคลื่อนชีวิต
Moonlight
หนึ่งในหนังรางวัลออสการ์ที่มาแบบเหนือความคาดหมาย "ชิรอน" หรือ "ลิตเติ้ล" จากเด็กชายผิวสีที่เติบโตมากับสภาพสังคมที่ค่อนข้างท้าทายต่ออนาคตของเขา มองเห็นแค่เพียงชีวิตที่ดับสูญเสียก่อนจะได้ใช้ชีวิตผู้ใหญ่ หรือชีวิตที่ดำดิ่งเข้าสู่วังวนของสิ่งผิดกฎหมาย แต่จากสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเขา ได้สอนให้เขากลายเป็นคนที่อบอุ่นและจิตใจดี ภายใต้เกราะแข็งแกร่งที่เคลือบเอาไว้ เขาเป็นชายที่รู้จักรสนิยมและอัตลักษณ์ทางเพศของตัวเองเป็นอย่างดี แต่ต้องปกปิดมันเพื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ เราได้เห็นชีวิตของเขาจากเด็กจนโตเขามีสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า "ความปรารถนาที่สมหวัง" ซ่อนเอาไว้ลึกๆ ที่เห็นได้จากแค่แววตาของเขาเท่านั้น
Carol
แครอล กับ เทอเรซ เป็นเงาสะท้อนของความสัมพันธ์ที่แสนเจ็บใจของคนกลุ่มเล็กๆ เมื่อในอดีต พวกเธอต่างอธิบายตัวเองไม่ได้หรอกว่า...เพราะอะไรจึงเกิดความรู้สึกเช่นนี้กับคนที่ไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้ด้วย การที่ผู้หญิง 2 คนจะได้พบพานและเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ่งขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะนำไปสู่ความวุ่นวายในชีวิตของพวกเธอในยุคที่สังคมยังไม่เปิดใจรับกับรสนิยมเช่นนี้ กลายเป็นความรักต้องห้ามที่ยากเกินจะห้ามใจ ในท้ายที่สุดต้องมาถึงทางแยกที่จะต้องเลือกระหว่างความเหมาะสมทางสังคม หรือความสุขส่วนตัวกันแน่ ช่างเป็นทางเลือกที่คาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้ต้องเลือก และยากที่จะตัดสินใจเหลือเกิน
The Danish Girl
เธอคือผู้หญิงข้ามเพศคนแรกๆ ของโลก และเธอก็คือไอคอนิกที่เป็นที่จดจำมาถึงปัจจุบัน เรื่องราวสุดประทับใจและยังเป็นบททดสอบสำคัญของชีวิตของจิตรกรหนุ่มในช่วงยุค 1930s ที่เหมือนจะปกติสุขเป็นอย่างดี เขาแต่งงานและมีภรรยาที่เคารพรักกันมา แต่ชีวิตดำเนินไปพร้อมกับรสนิยมที่เปลี่ยนไป "ลิลลี" กับ "เกอร์ดา" คือตำนานคู่รักบันลือโลกที่เป็นตัวอย่างของคู่ชีวิตที่เข้าใจซึ่งกันและกัน สุดท้ายแล้วคู่รักก็คือเพื่อนที่จริงใจและคุยกันได้สนิทใจได้มากที่สุด แม้ว่าจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงเพศสภาพ พวกเขาก็ยังคงรักและสนับสนุนกันอย่างไม่เสื่อมคลาย
Portrait of a Lady on Fire
เรื่องของความรัก...อย่าไปหาคำอธิบายให้ยุ่งยาก ก็เหมือนกับความรักที่ก่อตัวจากความใกล้ชิดของ "มาเรียน" จิตรกรสาวรับจ้างที่ออกเรือไปเทียบท่าที่เกาะห่างไกลแห่งหนึ่ง เพื่อรับงานวาดรูปภาพเหมือนให้กับ "เฮลอยซ์" คุณหนูที่จมปลักอยู่กับความรักที่ผิดหวัง เริ่มต้นจากคนรู้จักที่ห่างเหินด้วยหน้าที่การงาน กลายมาเป็นความสนิทสนมและเปิดใจเข้าหากัน ก่อนจะถลำลึกเข้าสู่รูปแบบความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่คาดคิด แต่ความรักของทั้งคู่เป็นสิ่งที่เปิดเผยไม่ได้ ไม่รู้ว่าบรรยากาศเป็นใจ ความโดดเดี่ยว ความเหงา แต่ความรักของทั้งคู่บนเกาะว่างเปล่านั้น...เป็นความทรงจำที่ยังปรากฏอยู่ในผลงานอันตระการตาของเธอ
Brokeback Mountain
ตำนานรักสุดคลาสสิกท่ามกลางขุนเขาและลำธารกลางป่า ความรักที่ก่อตัวขึ้นแบบลับๆ ระหว่าง "เอนนิส" และ "แจ็ค" เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่จะเกิดขึ้นกับพวกเขา เหมือนเป็นการสร้างโลกขึ้นมาอีกใบในผืนป่าลึกในช่วงฤดูร้อน จากความลึกซึงเพียงชั่วคราวกลายเป็นความปรารถนาที่เฝ้ารอ ขณะเดียวกันพวกเขาต่างก็มีภาระหน้าที่และครอบครัวที่ต้องดูแลและซื่อสัตย์คอยอยู่ที่บ้านด้วย ความรักฉบับต้องห้ามของพวกเขาจึงกลายเป็นบททดสอบที่ยากจะลืมเลือน เมื่อมาถึงทางแยก...พวกเขาจะต้องเลือกเพียงแต่ทางเดียว เพราะทุกความสัมพันธ์ควรมีเพียงแค่คนคู่เดียวเท่านั้น
A Fantastic Woman
นี่คือหนังสัญชาติชิลีเรื่องเยี่ยมในรอบทศวรรษ การันตีด้วยรางวัลออสการ์ที่คว้าได้มา โฟกัสอยู่ที่ชีวิตของหญิงข้ามเพศที่ชื่อว่า "มารินา" เธอต้องสู้รบปรบมือกับสภาพแวดล้อม ความเกลียดชัง การเหยียดหยาม และสายตาของสังคมที่มองเธอเป็นเหมือนตัวประหลาด ทั้งที่เธอก็เป็นแค่เพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีสิทธิและทางเลือกในการกำหนดเพศสภาพเป็นของตัวเอง หญิงข้ามเพศที่ต้องเผชิญหน้ากับโศกนาฏรรมในชีวิตที่ถาโถมเข้ามาในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน เธอไม่ต้องการสิ่งอื่นใด นอกจากความสงบสุขในชีวิต และขอทางเดินใหเธอได้เดินอยู่ในสังคมนี้ได้ราบรื่นแบบคนอื่นๆ บ้าง
Love of Siam
ถือว่าเป็นหนังไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ LGBTQ ที่ดีที่สุดและยังไม่มีเรื่องไหนมาเทียบเคียงได้เลย "โต้ง" กับ "มิว" ยังเป็นตัวละครที่ทุกคนรักอยู่เสมอ พวกเขาคือวัยเรียนที่อยู่ในช่วงค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ความสัมพันธ์ที่คุ้นเคยจากมิตรภาพในวัยเด็ก เมื่อเติบโตมากับสภาพแวดล้อมที่เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ขาดหายไป และรอใครสักคนมาเพื่อเติมเต็ม ทำให้ทั้งคู่เหมือนเป็นคนที่รู้ใจ คนที่คุยกันได้ และนำพามาสู่ความลึกซึ้งในวัยที่ยังไม่มีใครยอมรับ พวกเขาเป็นคนที่รู้จักตัวเอง แต่ถูกทำให้ไม่มั่นใจเพราะแวดล้อมสังคม เพราะบางครั้งก็ทำให้ดูเหมือนเป็นสิ่งที่ผิด ทั้งที่ความรักทุกเพศเป็นสิ่งสวยงาม
Beautiful Thing
แม้ว่าจะเป็นหนังเก่าเกือบจะ 25 ปีแล้ว แต่ต้องยอมรับเลยว่านี่เป็นหนัง LGBTQ เรื่องแรกๆ ที่สร้างออกมาได้กินใจและยังร่วมสมัยมาถึงปัจจุบันได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะตัวละคร "เจมี" กับ "สตี" ที่อาจจะคล้ายๆ กับหนังไทยเรื่องข้างบน แต่พวกเขาที่เป็นเพื่อนบ้านอยู่แฟลตเดียวกัน เติบโตมาด้วยกัน และยังต้องเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมที่ซึบซับเก็บงำมาโดยตลอด เมื่อความสัมพันธ์จากมิตรภาพแปรเปลี่ยนมาเป็นความใกล้ชิดและเข้าใจหัวอกซึ่งกันและกัน กลายเป็นการปลดแอกความรู้สึกในทันที แม้ว่าจะมีความท้าทายในการยอมรับของสังคมเข้ามาท้าทาย แต่หนังแสดงให้เห็นว่า...ความรักและเข้าใจยอมรับคือสิ่งที่สวยงามบนโลกใบนี้จริงๆ
Love, Simon
ได้ชื่อว่าเป็นหนัง LGBTQ ฟอร์มหลังเรื่องแรกของวงการ และใครๆ ก็หลงรัก "ไซมอน" เด็กหนุ่มมัธยมปลายที่อยู่ในช่วงค้นหาตัวเอง เขารู้ตัวเองดีกว่ามีรสนิยมแบบไหน และหวังจะมีความสัมพันธ์อย่างไร แต่ด้วยหน้าตาทางสังคม ไม่ว่าจะที่บ้านและที่โรงเรียน เขายังต้องปกปิดเป็นความลับเอาไว้ เพื่อเป็นการสร้างเกราะคุ้มกันตัวเอง ท่ามกลางสังคมที่สุ่มเสี่ยงต่อการดูเหยียดและบูลลีต่างๆ นานา ไซมอนจึงกลายเป็นต้นแบบในอุดมคติของเกย์หนุ่มที่เลือกเปิดเผยตัวตนอย่างถ่องแท้ เพียงแค่กล้าก้าวออกมาเปิดเผยตัวตน การเป็นตัวของตัวเองย่อมเป็นหนทางที่ตัวเองจะมุ่งมั่นไปถึงความสำเร็จ
Boys Don't Cry
บทบาทที่ทำให้ "ฮิลารี สแวงค์" คว้ารางวัลออสการ์ตัวแรกในชีวิตของเธอมาครองได้ เรื่องราวโศกนาฏกรรมชีวิตของ "แบรนดอน ทีนา" บุคคลสองเพศ (Intersexed) ที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมจากความเกลียดชัง แม้ว่าหนังจะออกฉายมานานถึง 20 ปีแล้ว แต่ก็ยังเป็นความทรงจำที่ไม่ลืม ชีวิตที่ต้องปกปิดเพศสภาพของตัวเองเพื่อเข้าหาสังคม กลายเป็นนำมาสู่เรื่องราวเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขา แม้ว่าปลายทางของแบรนดอนจะเป็นการนองเลือด แต่ชื่อของเธอก็คือจุดเริ่มต้นของการรณรงค์ความเท่าเทียมกันทางเพศ และต่อต้านความคิดเหยียดเพศในกลุ่มเพศที่ 3
----------------------------------------------------