ช่วงการระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้หลายคนคงต้องอยู่แต่ที่บ้าน วันนี้ทางผู้เขียนจึงขอนำเสนอ 5 หนังสงครามที่จะทำให้คุณลุ้นระทึกไปกับการต่อสู้ด้วยอาวุธสงคราม ฉากแอ๊คชั่น เเละความสวยงามตระการตาของฉากสงครามในภาพยนตร์1. Black Hawk Down (2001) Black Hawk Down ยุทธการฝ่ารหัสทมิฬ ภาพยนตร์ที่สร้างและดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในเมืองโมกาดิชู ประเทศโซมาเลีย โดยเป็นการปะทะกันระหว่างหน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐ (U.S. Rangers) กับกองกำลังโซโมเลียอาสาผู้ภักดีต่อนายกโมฮัมเหม็ด ฟาราห์ ซาลัด (Mohamed Farrah Aidid) โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเคยถูกเขียนเอาไว้แล้วในหนังสือในชื่อเดียวกันกับภาพยนตร์ โดยภาพยนตร์ได้บอกเล่าเเละถ่ายถอดถึงเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่าทหารกล้าหลังจากการตกของเครื่องบินแบล็กฮอว์ก ภาพยนตร์เลือกที่จะบอกเล่าเรื่องราวจากหลากหลายตัวละครทั้งจ่าผู้นำหน่วย นายทหารหลงหมู่ หน่วยรบพิเศษเดลต้า (Delta Force) ทหารผู้เข้าสู่สนามรบครั้งแรก และนายพลผู้บัญชาการ โดยภาพยนตร์เหล่าเรื่องได้มีอย่างมีศิลปะ ดุดัน รวดเร็ว ให้ผู้ชมได้ลุ้นระทึกอยู่ตลอดเวลาเหมือนได้ร่วมรบอยู่เคียงข้างกับเหล่าทหารกล้า และที่ดีงามที่สุดคือฉากการการปะทะกันของทั้ง 2 กองกำลังเเละจังหวะที่สมจริงมากที่สุดเรื่องหนึ่ง และแสดงให้ผู้ชมได้เห็นว่าสงครามที่แท้จริงนั้นไม่ได้มีเพียงแค่วีรบุรุษแต่ยังมีทั้งความสูญเสียและความเจ็บปวด โดยภาพยนตร์ได้ออกฉายไปเมื่อปี 2001 เเละได้คะเเนนจากเว็บ IMDB ไป 7.7/10 คะเเนน และ 76/100 จากเว็บ Rottentom ถือเป็นภาพยนตร์สงครามที่คอหนังสงครามและผู้รัการชมภาพยนตร์ไม่ควรพลาด2. American Sniper (2014) American Sniper สไนเปอร์มือพระกาฬ แห่งประวัติศาสตร์อเมริกา ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของคริส ไคล์ (Chris Kyle) อดีตหน่วยซีลประจำกองทัพเรือสหรัฐฯ (U.S. Navy SEALs) และมือสไนเปอร์ฝีมือพระกาฬตามชื่อภายนตร์ ผู้ทำสถิติในการสังหารศัตรูจากระยะห่างกว่า 1,920 เมตรหรือราว ๆ มากกว่า 18 สนามฟุตบอล โดยในภาพยนตร์มีการถ่ายทอดฉากการลั่นไกที่เป็นตำนานนี้ด้วย โดยภาพยนตร์จะเล่าเรื่องให้เห็นตั้งแต่คริสเริ่มเข้าฝึกเป็นทหารจนกระทั่งเข้าไปรบเเละกลับมาอยู่กับครอบครัว โดยภาพยนตร์จะไม่ได้แสดงให้เห็นถึงฉากสงครามที่ยิ่งใหญ่ตระการตาเเต่จะเเสดงให้เห็นถึงความกดดันและความเสี่ยงของเหล่าทหารในการทำภารกิจแต่ละครั้ง เเละยังเล่าเเละแสดงให้เห็นถึงความบอบช้ำทางจิตใจของคริส และอาการวาดระแวงหลังจากการไปรบที่อิรักมาหลายครั้ง นอกจากจะพาผู้ชมไปสำรวจความสูญเสียจากสงครามแล้ว ภาพยนตร์เรายังพาเราไปสำรวจจิตใจเเละความบอบช้ำของทหารผู้กลับมาจากสงคราม รวมถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเข้าด้วย โดยภาพยนตร์ได้คะเเนนจากเว็บ IMDB ไป 7.3/10 คะเเนน และ 72/100 จากเว็บ Rottentom 3. Full Metal Jacket (1987) Full Metal Jacket เกิดเพื่อฆ่า ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือเดอะ ชอต-ไทม์เมอร์ส (The Short-Timers) และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมในปีที่เข้าฉาย ภาพยนตร์เล่าเรื่องผ่านพลทหารทหารนาวิกโยธิน (U.S. Marine) นามว่าโจ๊กเจอร์ ตั้งแต่เข้ารับการฝึกที่ศูนย์ฝึกนาวิกโยธินจนเข้ารวมรบในสงครามเวียดนาม โดยภาพยนตร์นั้นจะแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายและสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ ตั้งการฝึกฝนที่โหดร้ายและลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ไปจนถึงสงครามในเวียดนามที่เผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมและบ้าคลั่งของเหล่าทหารผู้ถูกปลูกฝั่งมาว่าเกิดมาเพื่อฆ่า แต่ภาพยนตร์ก็ยังมีฉากสงครามที่ดิบเถื่อนและถึงใจคอหนังสงครามอย่างถึงที่สุด ภาพยนตร์ต้องการให้เราตั้งคำถามว่าจริง ๆ แล้วมนุษย์นั้นเป็นอย่างไรกันแน่ เพราะสงครามและการฝึกทำให้ทหารเหล่านี้บ้าคลั่ง หรือเพราะจริง ๆ แล้วมนุษย์เราเกิดมาพร้อมความบ้าคลั่งนี้อยู่แล้วและสงครามแค่เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นความบ้าคลั่งนั้น โดยภาพยนตร์ได้คะเเนนจากเว็บ IMDB ไปมากถึง 8.3/10 คะเเนน และ 91/100 จากเว็บ Rottentom ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับคำวิจารณ์ดีอย่างมาก และเป็นภาพยนตร์ที่คอหนังสงครามหลาย ๆ คนแนะนำว่าควรดูสักครั้งในชีวิตและผู้เขียนก็แนะนำให้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เช่นกัน4. Dunkirk (2017) Dunkirk ดันเคิร์ก ภาพยนตร์ที่ได้รับการกำกับโดยคริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์บนชายหาดดันเคิร์กของเหล่าทหารอังกฤษและพันธมิตรที่ถูกทหารนาซีเยอรมันไล่ต้อนมาติดอยู่ที่หาดแห่งนี้ และทำให้เกิดปฏิบัติการไดนาโม (Operation Dynamo) ที่เป็นการช่วยเหลือทหารเหล่านั้น โดยที่รัฐบาลอังกฤษได้ขอความช่วยเหลือจากเรือของประชาชนเพื่อร่วมกับเรือราชนาวีในการเข้าช่วยเหลือเหล่าทหารหาญในการหลบหนีจากหาดดันเคิร์ก จนเกิดเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำอย่างยิ่งของความร่วมมือระหว่างทหารและประชาชนเพื่อช่วยเหลือเหล่าทหารกล้า จนส่งผลให้การช่วยเหลือครั้งนี้เป็นสาเหตุสำคัญในการได้รับชัยชนะของอังกฤษและพันธมิตรในที่สุด โดยภาพยนตร์จะบอกเหล่า 3 เหตุการณ์ใน 3 ช่วงเวลาที่เกิดขึ้นบนหาดดันเคิร์ก คือ 1 สัปดาห์บนพื้นหาด 1 วันบนน่านน้ำ และ 1 ชั่วโมงบนท้องฟ้าของปฏิบัติการไดนาโม และถ่ายทอดผ่าน 3 ตัวละครหลักในแต่ละเหตุการณ์ โดยภาพยนตร์ถ่ายทอดให้เห็นถึงภาพสงครามได้อย่างสมจริงและสวยงาม ภาพยนตร์ไม่ได้เเสดงภาพของสงครามที่รุนแรงและเร้าใจ แต่ถ่ายทอดสงครามผ่านศิลปะทางภาพและการเเสดงได้อย่างสวยงามที่สุด และภาพวินาทีการช่วยเหลือเหล่าทหารที่จะประทับอยู่ในใจผู้ชมไปอีกยาวนาน และช่วยให้เราผู้ชมภาพประวัติศาสตร์นี้ได้อย่างสวยงามแบบที่ไม่สามารถเห็นที่ไหนได้อีก และภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คะเเนนจากเว็บ IMDB ไปถึง 7.9/10 คะเเนน และมากถึง 93/100 จากเว็บ Rottentom อีกด้วย5. Enemy at the Gates (2001) Enemy at The Gates กระสุนสังหารพลิกโลก ภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือในชื่อเดียวกัน (Enemy at the Gates: The Battle for Stalingrad) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงระหว่างยุทธการที่สตาลินกราด (Battle of Stalingrad) เป็นการต่อสู้ระหว่างสหภาพโซเวียตและนาซีเยอรมันบนนครสตาลินกราดซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าป่าเถื่อนและไม่สนใจต่อความสูญเสียของทั้งทางทหารและประชาชน โดยภาพยนตร์ดำเนินเรื่องในช่วงเหตุการณ์และเล่าเรื่องการต่อสู้ของทั้ง 2 ชาติผ่านการต่อสู้ของระหว่างนายทหารพลซุ่มยิงและวีรบุรุษสงครามของโซเวียตนามวาซีลี ไซเซฟ (Vasily Zaytsev) กับ แอร์วีน เคอนิช (Erwin König) พลแม่นปืนชั้นครูจากนาซีเยอรมัน โดยภาพยนตร์นอกจากจะแสดงให้เห็นภาพอันโหดร้ายของเหตุการณ์บุกนครสตาลินกราดของนาซีเยอรมันแล้ว ภาพยนตร์ยังฉลาดในการแสดงเทคนิคทางภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมให้เห็นอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ส่งผลช่วยให้ภาพยนตร์นั้นน่าตื่นเต้นและถ่ายทอดให้ผู้ชมรับรู้ได้ถึงความกล้าหาญของเหล่าทหารกล้าโซเวียตได้อย่างชัดเจน และสุดยอดฉากการดวลความแม่นและชิงไหวพริบของ 2 สุดยอดนักแม่นปืนนั้นก็เป็นฉากที่น่าจดจำของภาพยนตร์อย่างมากมาก เป็นฉากการดวลของนักแม่นปืนที่ได้รับการยกย่องในเรื่องเทคนิคการถ่ายทำและการตัดต่อเป็นอย่างมาก และยังเป็นฉากที่เปลี่ยนมุมมองของการถ่ายทำฉากการต่อสู้ของนักแม่นปืนในภาพยนตร์หลังปี 2001 ไปเลยตลอดกาล และสุดท้ายภาพยนตร์เรื่องนี้ได้คะแนนจากเว็บ IMDB ไป 7.6/10 คะเเนน แต่ได้คะแนนจากนักวิจารณ์เว็บ Rottentom ไปเพียง 54/100 เท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การดูสักครั้งในชีวิต และจะพลาดไม่ได้หากคุณเป็นแฟนหนังสงครามขอบคุณรูปภาพรูปภาพหน้าปก: Link 1 / Link 2 / Link 3 / Link 4 / Link 5 รูปที่ 1: Link 1 รูปที่ 2: Link 2 รูปที่ 3: Link 3 รูปที่ 4: Link 4 รูปที่ 5: Link 5