Movie Review Aap Jaisa Koi (2025) ใครสักคนที่เหมือนเธอ รอมคอมวัยผู้ใหญ่ที่ดูเผินๆอาจไม่น่าสนใจแต่กลายเป็นสนุกเฉยมาพร้อมรอยยิ้มทั้งเรื่องแถมด้วยความแหลมคมในคำถามตามประสาหนังอินเดีย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ถ้าจะถามถึงเอกลักษณ์ของหนังจากแดนภารตะสิ่งแรกที่ผู้เขียนคิดถึงเลยคงจะเป็นเพลงที่เรื่องไหนก็ต้องมีถ้าไม่มีมันอาจไม่ใช่ของแท้ สิ่งต่อมาที่เหมือนขาดไม่ได้แล้วอาจเพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทัศนคติของคนรุ่นใหม่ที่มองเข้าไปในบริบททางสังคมที่ค่อนข้างล้าหลังในเชิงทัศนคตินั่นคือการตั้งคำถามต่อความผิดปกติบนความปกติในสังคมอินเดีย นั่นคือความบิดเบี้ยวที่มาจากรากฐานของความเชื่อจนเกิดทัศนคติที่บิดเบี้ยวแต่เมื่อมันถูกหล่อหลอมมานานในทางสังคมและวัฒนธรรมมันจึงกลายเป็นเหมือนเรื่องปกติทั้งที่มันไม่ควรปกติ แต่ในปัจจุบันทัศนคติของคนเปลี่ยนไปคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดต่างเริ่มมากขึ้นอะไรที่มันเป็นเรื่องปกติทั้งที่ไม่ปกติจึงไม่ถูกมองข้ามอีกต่อไปทำให้เสียงเรียกร้องเริ่มดังขึ้นและถี่ขึ้น และช่องทางที่จะสามารถกระตุกกระตุ้นสังคมให้เหลียวมามองสิ่งเหล่านั้นที่สามารถเข้าถึงง่ายและไปในวงกว้างมากที่สุดก็ไม่พ้นภาพยนตร์ เช่นเดียวกับหนังเรื่องนี้ที่เสนอตัวมาเป็นงานรอมคอมที่เหมือนมีวุฒิภาวะในแบบผู้ใหญ่แต่แฝงอะไรไว้ในนั้นได้อย่างเนียน Shrirenu "Shri" Tripathi (Ranganathan Madhavan) ซึ่งในที่นี้ของเรียกว่าพี่ศรีหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสองปีที่ยังโสดซิงเพราะเหมือนโดนคำสาปจากหญิงเมื่อวัยรุ่น พี่ศรีมีอาชีพเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยที่บ่อยครั้งพี่เขาจะโดนลูกศิษย์ล้อเลียนเรื่องความซิงที่ยังไม่ได้ยิงกระสุนให้น่าน้อยเนื้อต่ำใจยิ่งนักบนความเปลี่ยวเหงาอย่างหนักของพี่ศรี จนวันหนึ่ง Deepak (Namit Das) เพื่อนซี้ของพี่ศรีแนะนำให้ลองเข้าแอปคอลเสียวชื่อว่าใครสักคนที่เหมือนเธอแล้วพี่ศรีก็ได้คุยกับสาวแต่ไม่เสียวเพราะพี่ศรีค่อนข้างเรียบร้อย ทว่าโชคชะตาก็ไม่ใจดำกับพี่ศรีที่ส่ง Madhu Bose (Fatima Sana Shaikh) มาให้พี่ศรีได้นัดบอดแล้วก็เหมือนกับทั้งคู่คลิกกันจนพี่ศรีที่เดียวดายคล้ายจะมีความรัก แน่นอนเมื่อคนสองคนเข้ากันได้ดีโดยที่ไม่มีใครต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่ออีกฝ่ายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไปได้ดีจนกระทั่งจะเดินเข้าสู่ประตูวิวาห์ แต่แล้วพี่ศรีก็พบว่านางในดวงใจในตอนนี้คือนางทางโทรศัพท์ในตอนนั้นความเป็นพวกลัทธินิยมชายในตัวพี่ศรีจึงทำงานแล้วรักครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร เดินตามสูตรเป๊ะๆเหมือนเพลย์เซฟกับหนังแนวนี้ที่ถ้าทำถึงจึงจะดีและนี่คือการทำถึงซึ่งมีจุดเปลี่ยนที่เล่นแรงพอประมาณ คนสองคนที่มาพบกันปานโชคชะตาบันดาลแล้วตกหลุมรักกันแล้วผิดใจกันเพื่อที่จะไปลงเอยกันด้วยดีในตอนสุดท้ายหนังรอมคอมจะมีเส้นเรื่องแบบนี้เสมอ ทำให้เมื่อมองเข้าไปในส่วนของบทภาพยนตร์ดูเหมือนจะพยายามปลอดภัยไว้ก่อนเพราะเมื่อดูก็รู้ว่าหนังจะเดินทางไปอย่างไร โดยที่หนังยังใช้ตัวละครทั่วไปที่เคยเห็นคือหนุ่มเนิร์ดที่ไม่น่าจะมีใครสนใจกับสาวสวยรวยเสน่ห์ที่ใครๆก็ต้องเหลียวมอง บทหนังพยายามใช้สิ่งรอบข้างมาเป็นตัวแปรในความรักของสองคนที่เหมือนเยอะแยะมากคนแต่ไม่มากความเพราะไม่พยายามเรื่องมากทำให้ปัจจัยรายล้อมดูเบาบางไปบ้าง โดยเฉพาะจุดเปลี่ยนใหญ่ในช่วงท้ายที่ยอมรับว่าเล่นเอาเหวอไปเหมือนกันแต่มันไม่ใช่การหักมุมเพราะการหักมุมคือการถูกชวนให้คิดแล้วตลบหลัง แต่เมื่อบทหนังใช้ปัจจัยรอบข้างที่มีมากมายได้ไม่คุ้มทำให้จุดเปลี่ยนที่ว่ามาจึงเหมือนโผล่มาเฉยๆแม้ว่าจะเล่นแรงเอาการก็ตาม ใช้ลูกเล่นลูกฮามาเป็นลูกล่อลูกชนที่ได้ผลเมื่อเป็นงานอารมณ์ดีดูแล้วมีรอยยิ้มมีความสุขดูสนุกกว่าหน้าหนังที่เหมือนไม่น่าจะมีอะไร เมื่อเห็นมิติตัวละครพี่ศรีแล้วไม่มีทางไม่คิดถึงหนัง The 40-Year-Old Virgin ที่มีลูกเล่นลูกฮาอยู่ในตัวกับคนที่จะเป็นหนุ่มวัยทองแล้วยังไม่ได้ลองแอ้มสาว หนังจับเอาตรงนั้นมาเล่นได้สะอาดเรียบร้อยเสริมคาแรกเตอร์ตัวละครได้อย่างสนุกที่ตัดกับความเป็นสาวสมัยใหม่ของนางเอกยิ่งทำให้หนังสนุก ซึ่งผู้เขียนเองเมื่อเห็นหน้าหนังยังคิดว่าจะเอาอะไรมาเล่นกับหนังรอมคอมแก่ๆต้องว่ากันแบบนี้เพราะหนังเลือกเล่าเรื่องความรักของคนวัยผู้ใหญ่ แต่ความเป็นผู้ใหญ่นี่ล่ะที่สนุกเพราะบางครั้งผู้ใหญ่ก็มีมุมอะไรที่น่ารักน่าชังโดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้ลองทำอะไรมาจนปูนนี้ ทำให้หนังกลายมาเป็นงานอารมณ์ดีที่ดูแล้วเหมือนมีความสุขทุกฉากทุกซีนจะมีตอนกลางเรื่องที่เมื่อทัศนคติที่ล้าหลังมาทำเรื่องพังที่จะขุ่นใจหน่อยๆ แต่หลังจากนั้นก็คืองานที่ดูแล้วมีความสุขที่อาจต้องอ้างอิงเพลงของพี่เสือที่ว่ารักคงยังไม่พอเพราะยังมีปัจจัยอีกหลายอย่าง ด้วยความพร่องไปบ้างของบททำให้การแสดงในบางช่วงดูขาดไปไม่เต็มอารมณ์เท่าไหร่แต่โดยรวมแล้วก็สอบผ่านได้ฉลุย เอาจริงผู้เขียนมองว่าหนังตั้งธงตัวละครมาถูกต้องน่าสนใจแม้ว่าจะไม่ได้ฉีกแนวกับคาแร็กเตอร์พี่ศรีที่ดูๆไปก็คล้ายมิสเตอร์บีนส่วนนางเอกก็คิดอยู่ว่าหน้าคุ้นๆจนมาถึงบางอ้อเพราะนี่คือนางเอก Fatima Sana Shaikh จาก Dangal (2016) หนังอินเดียในดวงใจของผู้เขียนเอง ซึ่งในความเป็นพระเอกนางเอกหนังรอมคอมที่เล่าเรื่องของคนที่มีวัยวุฒิระดับหนึ่ง Fatima Sana Shaikh กับ Ranganathan Madhavan ทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจเพราะคนดูก็จิ้นไปกับทั้งคู่ แต่อย่างที่บอกคือหนังมีผู้คนมากมายรายล้อมอยู่ที่เป็นปัจจัยหลักที่จะสร้างความต่างของหัวใจแต่หนังจับเอาตรงนั้นมาเล่นได้อย่างพร่องๆ ทำให้เมื่อถึงเวลาที่มันควรจะบีบหัวใจในฉากที่เป็นจุดเปลี่ยนจึงเห็นการแสดงพร่องๆเพราะไม่ได้วางอะไรมาล่วงหน้าเลย แต่ถ้ามองในภาพรวมทั้งนักแสดงนำและสมทบก็สอบผ่านฉลุยเพราะทำให้หนังดูสนุกได้ในทุกลีลานั่นเอง งานรอมคอมที่มาพร้อมกับความน่ารักตามแนวแถมด้วยคำถามที่แหลมคมในแบบหนังอินเดียยุคใหม่ทำให้ในความบันเทิงมีอะไรให้จับต้อง นี่คือหนังที่น่ารักบอกเลยแม้ว่าจะเล่าเรื่องมนุษย์ลุงพุงพลุ้ยที่เดินผ่านสาวๆต้องแขม่วพุงเหมือนผู้เขียนด้วยความเข้าใจเล่นและเอาลูกเล่นลูกฮามาใช้อย่างลงตัว ที่ต้องชื่นชมคือความใสสะอาดเพราะเรื่องของความโสดซิงในวัยปูนนี้นั้นมันง่ายมากถ้าจะตลกลงต่ำกว่าสะดือแต่หนังเลือกไปในทางน่ารักน่าชังจึงทำให้ดูดีกว่า แน่นอนหนังยังตั้งคำถามแบบคมๆในสังคมนิยมชายจ๋าอย่างอินเดียกับความเท่าเทียมกันระหว่างชายหญิงที่มันควรแต่ถูกวัฒนธรรมและสังคมกลบฝังไว้ เช่นเรื่องนี้ที่รักแท้ที่อาจผ่านมาแค่ครั้งเดียวในชีวิตเกือบสูญสลายเพราะทัศคติงี่เง่าของตัวเองโชคดีที่ยังมีจุดเปลี่ยนมาให้ได้คิด ไม่งั้นล่ะก็อาจต้องอยู่แบบซิงๆไม่ได้ยิงกระสุนไปจนแก่ตายหรือไม่ได้รักใครอย่างแท้จริงซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และคำถามคมคายแบบนี้ที่มักมีในหนังอินเดียยุคใหม่แบบหนังเรื่องนี้นี่เลยที่ทำให้ในความบันเทิงมีอะไรให้ได้จับต้อง ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 จาก Instagram netflix_in จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !