Series Full ReviewThe Wind Blows : เมื่อลมพัดผ่านเมื่อความรักไม่สัมพันธ์กับความทรงจำ การที่คนที่เรารักกำลังจะเลือนหายจากความทรงจำ กับ การที่เรากำลังจะเลือนหายจากความทรงจำของคนที่เรารัก อย่างไหนเจ็บปวดกว่ากันNETFLIX : 1 Season 16 Episodes (2019)บ่อยครั้งที่หนังหรือละครก็สร้างมาจากเรื่องราวที่เป็นสามัญที่เห็นทั่วไป บ่อยครั้งเช่นกันที่หนังหรือละครก็คล้ายกับเสียงสะท้อนของบางเรื่องราวในมุมหลบเร้น เรื่องราวที่ไม่ได้มีใครใส่ใจนักหากว่าไม่ได้ประสบกับตนเอง แต่การจะเล่าเรื่องที่สังคมมองไม่เห็นอาจต้องอาศัยความกล้าอยู่หลายส่วน อาจเพราะเรื่องบางเรื่องที่ไม่ได้เป็นที่สนใจของสังคมมันส่งผลให้งานออกมาไม่น่าสนใจสำหรับคนทั่วไป ยิ่งเป็นเรื่องที่เป็นสามัญที่เป็นรากฐานหรือเรื่องของคนตัวเล็กตัวน้อยยิ่งยากที่จะถูกเขียนเป็นบทละครออกมา แต่ไม่ใช้กับละครหรือซีรีส์เกาหลีที่บางครั้งดูเหมือนเล่าเรื่องที่ไม่น่าสนใจนักแต่ทางเกาหลีมีความกล้าเล่นมีชั้นเชิงที่เป็นจุดเด่นอยู่ เช่นมีเรื่องหนึ่งที่เราตัดสินใจดูเพราะดาราอย่างฮันจีมินแต่กลับกลายเป็นเหนือความคาดหมายและสร้างความประทับใจอย่างเปี่ยมล้นอย่าง The Light In Your Eyes ที่อาจดูเหมือนงานแฟนตาซีเบาๆแต่ใส่มิติเรื่องของการขอโทษ การให้อภัยในมุมมองของครอบครัวทั้งในมุมของพ่อ แม่ หรือลูกได้อย่างคมคายลึกซึ้งอบอุ่นและงดงาม และคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เป็นงานจากสตูดิโอ JTBC ที่ดูไปบ่นไปสามารถสัมผัสได้ถึงโทนเรื่อง งานด้านภาพ และแก่นของเรื่องที่กระซิบเบาๆแต่มีพลังถึงการอยู่ร่วมกับผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ที่นอกจากความอดทนของผู้ที่ดูแลแล้วความรักคือสิ่งที่สำคัญอย่างที่สุดที่จะทำให้ผ่านไปได้ และมอบความหมายของคำว่ารักที่ถูกถ่ายทอดออกมาในมุมที่แยบยลคมคาย และที่สำคัญยังมอบสิ่งที่คนดูต้องย้อนกลับมาดูตัวเองว่า วันนี้สำหรับคนที่เรารักเรารักเขาขนาดไหนและเราจะทำยังไงถ้าอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น The Wind Blows เรื่องย่อควอนโดฮุน (คัมอูซอง) กับอีซูจิน (คิมฮานึล) คือคู่รักวัยใกล้กลางคนที่เปิดเรื่องมาด้วยความรักกันเหลือเกิน แต่ปัจจุบันคล้ายกับความรักของทั้งคู่เข้าใกล้ทางตันสืบเนื่องมาจากซูจินอยากมีลูกแต่โดฮุนไม่อยากมี ทั้งคู่จึงเริ่มระหองระแหงและยิ่งผ่านไปพฤติกรรมของโดฮุนเริ่มไม่เป็นที่พึงประสงค์ หลายคำพูดที่ออกมาเริ่มทิ่มแทงทำร้ายจิตใจซูจินจึงทำให้ซูจินมีความคิดที่จะหย่าจากโดฮุนแต่โดฮุนกลับไม่ยอมครั้นจะฟ้องหย่าก็ไม่มีเหตุเพียงพอ ซูจินจึงเริ่มมีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์บ้างด้วยการพยายามนอกใจแต่ก็ไม่เป็นผลซูจินจึงขอให้รุ่นน้องช่วยในการปลอมตัวเป็นผู้หญิงคนอื่นไปหว่านเสน่ห์ให้โดฮุนตกหลุมรักและนอกใจเธอกับเธอที่เป็นคนอื่นแล้วเก็บหลักฐานมาฟ้องหย่า แต่เรื่องตลกร้ายก็ตามมาเมื่อการมีอะไรกันครั้งนั้นทำให้ซูจินท้องและโดฮุนก็ยังทำร้ายจิตใจซูจินต่อไปและไม่กลับมาให้ซูจินเจอหน้าอีกเลยจนอีกห้าปีให้หลังซูจินได้เจอกับโดฮุนอีกครั้งแต่เขาดูแปลกไปจนกระทั่งซูจินพบว่าที่โดฮุนยอมหย่าเพราะเขาป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ตั้งแต่แรก และเขาไม่ต้องการเป็นภาระให้กับซูจินหญิงที่เขารักสุดหัวใจ และเมื่อได้รู้ยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้ซูจินหนักเข้าไปอีกเมื่อเธอรู้ว่าโดฮุนรู้ความจริงทุกอย่างแต่ยอมตามน้ำไปเพื่อที่จะทำร้ายให้เธอเกลียดถึงที่สุดเพื่อที่เธอจะไม่ยอมเข้าใกล้ให้ได้รู้ว่าเขาป่วย แต่เมื่อซูจินก็รักโดฮุนสุดหัวใจเช่นกันและการได้รับรู้ว่าที่โดฮุนหนีไปเพราะรักเธออย่างที่สุดเธอจึงตัดสินใจจะอยู่ต่อสู้ไปกับโดฮุนแม้ว่าจะถูกทัดทานจากคนใกล้ชิดเพราะการดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่ความทรงจำจะค่อยๆเลือนหายไปจนกระทั่งลืมแม้แต่ทักษะการใช้ชีวิตมันคือเรื่องหนัก แต่ความรักและความจริงใจอาจเป็นสิ่งที่ช่วยเยียวยาได้ กระทั่งเมื่อความรักที่เคยมีมาทั้งชีวิตไม่ได้อยู่ในความทรงจำการเริ่มที่จะรักใหม่อีกครั้งกับคนเก่าอาจจะเป็นทางออกที่ดี ความรักที่มากไปก็อาจเป็นปัญหา แต่ความรักมีมากไปหรือน้อยไปด้วยหรือ ความรักมีผิดมีถูกด้วยหรือ หัวใจเท่านั้นที่จะเป็นตัวกำหนดเรื่องนี้ยืนยันแบบนั้น ตลอดสิบหกตอนของเรื่องนี้สำหรับงานด้านบทผู้เขียนมองเห็นเป็นสามส่วนแต่ขับเคลื่อนด้วยความรักทั้งสิ้น หนึ่งคือความรักที่มากไปทำให้เกิดปัญหาเมื่อความรักทำให้ไม่ต้องการเป็นภาระ ไม่ต้องการสร้างความลำบากกายใจให้คนที่ตนรักจึงลงเอยที่การทำร้ายจิตใจคนที่รักด้วยความรัก ส่วนที่สองคือความเจ็บปวดจากความรักเมื่อรู้ว่าคนที่รักเราทั้งใจยอมเสียสละกระทั่งยอมถูกเกลียดเพื่อไม่เป็นภาระและยอมปล่อยเราไปมีชีวิตใหม่ โดยปราศจากเขามาเป็นตัวถ่วง และส่วนที่สามคือส่วนของการไถ่โทษ การเติมเต็มและการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งบทเล่าเรื่องได้คมคายท้าทายสมองกับหัวใจกับความหมายของความรัก เมื่อเริ่มด้วยการที่สมองถูกชี้นำให้คิดว่าโดฮุนทำผิดอะไรซูจินถึงต้องทำกับเขาถึงขนาดนั้น แล้วสมองก็คิดในมุมต่างว่าถ้ามองในมุมซูจินก็เห็นว่าเธอถูกทำร้ายจิตใจจนเกินทนหรือไม่แต่สมองยังรู้สึกกังขาในการกระทำของทั้งสองแต่เมื่อลองใช้หัวใจคิดใจกลับบอกว่าความรักคือสิ่งที่ทำให้คนคนหนึ่งยอมเจ็บปวดเพื่อหลีกทางให้คนที่รักได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เมื่อใจสัมผัสได้จากความกังขาจึงกลายมาเป็นเห็นใจ ซึ่งเมื่อเริ่มจากการเสียสละต่อด้วยความเจ็บปวดและลงท้ายด้วยการเริ่มต้นใหม่กับคนเก่าทั้งสามส่วนร้อยเรียงกันอย่างสวยงาม และสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งสมเหตุสมผลในทุกการกระทำของตัวละคร เพราะถึงจุดหนึ่งความกังขาในตอนต้นจะสลายไปแค่อาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้ใจสัมผัสเพราะการเปิดมาที่ความรักที่สวยงามของคนสองคน แล้วตัดมาที่พฤติกรรมที่ไม่น่ารักของทั้งคู่ที่จะส่งผลให้ชีวิตคู่เริ่มตีบตัน ซึ่งสุ่มเสี่ยงมากที่คนดูจะหมดความอดทนเพราะความไม่น่ารักของพฤติกรรมของคนสองคน ซึ่งมันคือการชี้นำให้คิดก่อนจะวางเหตุผลและเริ่มพบเจ็บปวด รับรู้ เห็นใจและเข้าใจว่าสิ่งที่ตาที่เห็นสิ่งที่สมองคิดมาทั้งหมดนั้นมันเกิดจากอะไรแล้วเมื่อสัมผัสได้ด้วยใจก็พาไปเจ็บปวดในช่วงกลางจนคนดูอาจกลั้นน้ำตาไม่ได้ และสุดท้ายก็พาอารมณ์คนดูคลายลงเมื่อถึงเวลาที่ใครบางคนต้องชดใช้ตอบแทนสิ่งที่ได้รับมาอย่างหนักหนา และเมื่อถึงจุดนี้ก็ได้ใจคนดูไปทั้งหมดเมื่อสื่อให้เห็นภาพของการดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง และต้องอาศัยความรักที่ยิ่งใหญ่เพียงใดจึงจะทำให้ยังยืนอยู่ได้ ซึ่งจะพูดก็ได้ว่าเริ่มจากชี้นำให้รู้สึกกังขาจนเข้าใกล้ความรำคาญในช่วงต้น โศกเศร้าในช่วงกลาง และสรุปลงตรงที่ยิ้มทั้งน้ำตาในความอบอุ่นระคนเศร้าในตอนท้าย เมื่อถึงที่สุดเราอาจจะไม่เหลือตัวตนในความทรงจำของคนที่เรารักและรักเราสุดหัวใจอีกต่อไป ที่เล่าออกมาด้วยความสมจริง เรียบง่าย บทสนทนาง่ายๆ แต่ทุกอย่างที่สื่อออกมาท้าทายนิยามของคำว่ารักได้อย่างไม่มีที่ติแม้ความทรงจำเหลือเพียงน้อยนิดแต่ความรักยังคงเต็มเปี่ยมเมื่อคนที่เรารักกำลังจะเลือนหายจากความทรงจำการเสียสละอาจเป็นทางออก แต่นั่นอาจกลายเป็นทำร้ายเพราะความรักที่ตอบกลับมาก็มีไม่น้อย ซึ่งไม่ว่าจะมองจากมิติไหนมันก็คือการทำร้ายคนที่รักเราทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทหรือครอบครัว เพราะถึงที่สุดคนที่จะอยู่เคียงข้างและต่อสู้ไปด้วยกันก็คือคนเหล่านี้ และแน่นอนความรักที่คนเหล่านี้ตอบกลับมาก็ไม่ได้น้อยกว่าที่ให้ไปคือ "แม้ว่านายจะลืมฉันแต่ฉันไม่มีวันลืมนาย" แต่...คนที่อยู่จะไม่ลืมและจะเป็นแผลใจไปตลอดชีวิตซึ่งนี่คือเหตุผลที่โดฮุนต้องการปิดบังซูจินเพราะความทรงจำเป็นสิ่งที่มีค่าจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า "เราต่างใช้สมองจดจำเรื่องราวแต่ใช้ใจทะนุถนอมความทรงจำ" กระนั้นความทรงจำก็ต้องมีวันเลือนหาย เพราะอาการป่วยที่ยากจะเอาชนะยิ่งเมื่อดูไปเรื่อยๆยิ่งรู้สึกเจ็บปวดและสงสารซูจินเมื่อยิ่งนานวันเธอต้องรับรู้และอยู่กับโดฮุนที่ความทรงจำเหลือน้อยลงทุกทีและไม่รู้วันไหนที่เธอจะสลายไปจากความทรงจำของชายที่เธอรัก ยิ่งเมื่อซูจินต้องรับรู้ว่าโดฮุนรักเธอมากแค่ไหนก็แทบล่มสลายเพราะการที่ใครสักคนถูกลบไปจากใจก็ไม่ต่างจากตายจากกันไปแล้วใช่หรือไม่ ซ้ำเมื่อความจริงปรากฏว่าโดฮุนต้องใช้ความพยายามด้วยความเจ็บปวดมากเพียงใดในการผลักใสเพราะรักจึงเป็นคำถามที่ว่าสิ่งนั้นคือความรักจริงหรือ ความทรมานใจที่เกิดกับคนสองคนเป็นเพราะความรักเช่นนั้นหรือคงไม่มีใครฟันธงได้ แต่อย่างน้อยคนทั้งคู่ยังคล้ายกับได้ไถ่บาปเมื่อความรักและความจริงใจได้ยึดเกี่ยวใจคนทั้งสองผ่านตัวกลางที่คนทั้งสองรักยิ่งกว่านั่นคือลูก แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงใช่ว่าจะมีปาฏิหาริย์ถึงที่สุดบางอย่างที่ไม่อยากเกิดก็ต้องเกิดเมื่อในความทรงจำของคนบางคนได้ลบใครอีกคนไปเรียบร้อย แต่ความทรงจำที่ลางเลือนยังมีความรักอยู่การเริ่มต้นรักอีกครั้งของใครสักคนกับคนรักคนเก่าก็อาจจะพอเยียวยาหัวใจที่แตกร้าวได้สุดท้ายความรักคืออะไร คือการเสียสละ คือความหวังดีไม่มีที่สิ้นสุด หรืออะไรก็แล้วแต่คงไม่มีใครตอบได้อย่างชัดเจน เพราะอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นจากความรักอาจไม่มีถูกและไม่มีผิดใช่หรือไม่ และเรื่องทั้งหมดถูกร้อยเรียงผ่านความเรียบง่ายแต่สวยงามตั้งอยู่บนความจริงแท้ของชีวิต ไม่เร่งเร้าไม่บีบคั้นแม้มีน้ำตาไหลกันหนักหนาในช่วงกลางและคลอเบ้าตาอยู่เนืองๆในช่วงปลายไม่ใช่มาเพราะบทใส่ความรุนแรงเพื่อกระแทกอารมณ์ หากแต่เป็นผลของการกระทำผลของการตัดสินใจในบางเรื่องของตัวละครที่อารมณ์คนดูค่อยๆพัฒนาไปจนไม่รู้ตัว และน้ำตาคนดูที่รินไหลไม่ว่าจะมาจากอารมณ์ใดคือเพราะความจริงในชีวิตที่เรื่องที่เล่ามาพาไปจุดนั้นหาใช่ถูกบีบคั้นไม่ จนบทสรุปสุดท้ายที่ลงตัวและกล้าพอที่จะให้เป็นความจริงไม่ใช่นิยายไม่บ่อยครั้งที่นักแสดงชายจะดึงดูดพลังความเด่นไปจากคิมฮานึลเพราะคิมฮานึลคือยอดฝีมือ นึกไม่ออกลองนึกถึงหนัง My Girlfriend Is an Agent (2009) กับบทเบาๆหรือ 18 Again ที่พิสูจน์มาตรฐานการแสดงว่าสูงแค่ไหน เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ฝีมือการแสดงและเปี่ยมด้วยพลังดาราอีกคนที่น้อยครั้งจะเห็นนักแสดงชายจะขโมยความเด่นไปจากเธอได้ ซึ่งเรื่องนี้ต้องปรบมือเมื่อเธอเล่นแบบเอาตายไปข้างหนึ่งซึ่งบทวางตัวเป็นสามส่วนเพื่อพัฒนาการทางด้านอารมณ์ และคิมฮานึลก็รับผิดชอบอารมณ์ตามนั้นได้เป๊ะเพราะคนดูจะหมั่นไส้ในช่วงแรก เจ็บปวดโศกเศร้าตามในช่วงกลาง มีความสุขและยิ้มไปด้วยในช่วงท้ายและไม่มีทางที่จะไม่สะท้านใจในฉากสุดท้าย ซึ่งผู้เขียนคิดว่าเธอแสดงได้ดีกว่า 18 Again ที่ออกแนวโชว์เสน่ห์ส่วนตัวด้วยซ้ำ การแสดงของเธอในเรื่องนี้คืออารมณ์ที่ไหลลื่นไม่ต้องมีมุมให้เสน่ห์ส่วนตัวช่วยก็สวยปนโศกได้แต่ที่น่าทึ่งคือคัมอูซองที่ว่าตามความสัจจริงคือผู้เขียนไม่เคยติดใจไม่เคยสนใจเลยว่าเขาแสดงเรื่องไหนมาบ้างแต่เรื่องนี้เขาคือผู้ป่วยอัลไซเมอร์ทั้งวิญญาณ ที่ต้องทึ่งมากคือสายตาที่รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก ความรวดร้าวในแววตาคือยากมากที่สีหน้าอีกอย่างแต่แววตาอีกอย่าง แววตาทรมานเมื่อต้องผลักใสคนที่ตนรัก แววตาเวิ้งว้างว่างเปล่าเมื่อความทรงจำหลุดลอยไป แววตาอบอุ่นและเปี่ยมสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่รักไม่มีดีกว่านี้อีกแล้ว และกลายเป็นว่าการแสดงของคัมอูซองขโมยซีนได้ในทุกนาทีที่ขึ้นจอ เพราะสายตาคนดูจะจับจ้องไปที่เขา อยากดูเขา มองเขาอย่างสงสารเห็นใจ ไม่มีทางเลยที่ตัวละครควอนโดฮุนจะไม่เข้าไปนั่งอยู่ในใจคนดู ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆรวมถึงต้นไม้ใบหญ้าก็ล้วนแต่ให้การแสดงที่สมจริง ยิ่งได้งานด้านภาพที่สวยทิวทัศน์ที่ดูแล้วสบายตา เพลงประกอบคลอพลิ้วแผ่วเบาปานสายลมเอื่อยๆทำให้อยู่ดีๆน้ำตาคนดูก็ไหลครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นอีกครั้งที่สมองผู้เขียนขัดแย้งกับหัวใจ ซึงเรื่องนี้หากตัดสิ่งที่เห็นด้วยตากับสิ่งที่สมองคิดตามยังมองว่ายังมีส่วนที่เกินออกมาไม่ได้ขาดแต่ล้น นั่นคือการพยายามใส่เรื่องความรักของรุ่นเล็กที่ไม่มีพลัง โดด ไม่เป็นเนื้อเดียวกับเรื่องหลัก คิดง่ายๆคือคู่รุ่นเล็กจะรักจะเลิกก็ไม่ได้มีผลอะไรกับเรื่องของควอนโดฮุนกับอีซูจิน แต่กระนั้นเรื่องในส่วนของผู้เล่นหลักคือควอนโดฮุนและอีซูจินและเพื่อนพระเอกก็เนี้ยบจนไร้ที่ติ คนดูสามารถปล่อยใจไปกับความสัมพันธ์ของทั้งสองคนได้และไม่อยากละสายตาจากคนทั้งคู่ แถมยังมอบมุมมองความเข้าใจในอาการป่วยของผู้ป่วยอัลไซเมอร์ที่ผู้ดูแลต้องจิตใจดีอย่างมหาศาล เพราะจากที่เห็นเชื่อว่าทีมงานผู้สร้างต้องทำการบ้านมาเป็นอย่างดีจนทำให้เชื่อได้หมดใจว่าโรคนี้ถ้าเป็นแล้วมันกินพลังงานทางใจคนรอบข้างอย่างสาหัส ถ้าไม่รักกันจริงแล้วยากมากที่จะอดทนอยู่ได้และเรื่องนี้ก็ย้ำครั้งแล้วครั้งเล่าว่าอีซูจินจะทนได้ขนาดไหนเพียงแต่ความรักที่มากพอประกอบกับความต้องการไถ่บาปในใจทำให้เธอสามารถยืนหยัดได้นาน นานจนกระทั่งวันสุดท้ายที่ความทรงจำของชายที่เธอรักดับสูญ แต่นั่นอาจจะเพียงพอแล้วสำหรับการต่อสู้ของเธอที่ยื้อมาได้นานพอดู แต่โรคนี้มันรักษาให้หายเป็นปกติได้หรือไม่ สุดท้ายวันที่แม้แต่เงาของเราก็ไม่เหลืออยู่ในความทรงจำของคนที่เรารัก และมันเจ็บปวดยิ่งกว่าเมื่อคนคนนั้นรักเราไม่น้อยไปกว่าเรารักเขาเลย แต่เมื่อทุกอย่างที่ทั้งดีและร้ายในเรื่องนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยความรัก ใจเท่านั้นที่จะใช้สัมผัสและตัดสินได้ว่า แท้จริงแล้วความรักที่มากเกินไปคือสิ่งที่สร้างความเจ็บปวดแต่มีความรักย่อมดีกว่าหรือไม่ และถึงที่สุดหัวใจจะตัดสินเองว่าความรักคืออะไร แม้จะไม่ถึงกับเร่งเร้ารุนแรงแต่บางทีลมที่แรงเกินไปอาจทำให้หนาวสั่น กลับกันสายลมที่พริ้วแผ่วเรื่อยๆเอื่อยๆประมาณนี้กลับทำให้รู้สึกเย็นสบาย และนี่คืองานดีที่ไม่ควรถูกมองข้ามดูไปบ่นไปNETFLIXขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 จาก tv.jtbc.joins.com/thewindblowsภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 จาก Facebook JTBC Drama *STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี` คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565