Movie Review Escape (2024) หนี ให้พ้นนรก แรงจูงใจที่มาเต็มสร้างความลุ้นระทึกเอาใจช่วยสุดตัวแม้วจะมีอรอยแผลบนความบังเอิญหรืออาการยัดเยียดแต่กลายเป็นไม่สำคัญไปเฉย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ผู้เขียนมีความมั่นใจอย่างหนึ่งว่าถ้าว่ากันที่หนังหรือซีรีส์เกาหลีจุดเด่นอยางแรกคือเรื่องดราม่าที่จะมาด้วยการแฝงไว้ในเนื้อหาไม่ว่าจะถูกเสนอออกมาแนวไหน อีกอย่างที่เชื่ออย่างยิ่งว่าทางเกาหลีทำได้ดีและดีจนน่าทึ่งคือการเอาของเก่าเล่าเจียนจะเป็นความเหล่าเหย่มาทำใหม่ให้รู้สึกว่ามีความสด เพราะหนังหรือซีรีส์ในปัจจุบันอาจต้องยอมรับว่าหาไอเดียใหม่จริงๆคงยากที่จะไม่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังหรือซีรีส์เก่าๆที่เรียกกันว่าแนว แน่นอนต่อให้เป็นเกาหลีที่บางครั้งก็สร้างเรื่องน่าทึ่งอยู่เรื่อยๆแต่นั่นก็ใช่ว่ามาจากความสดใหม่ทางไอเดียเสมอไป เพราะในปัจจุบันหนังเก่าๆงานคลาสสิคต่างๆได้ถูกอ้างอิงถึงทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่เนืองๆเช่นเดียวกับหนังเกาหลีเรื่องนี้ที่ผู้เขียนอยากดูพอสมควรเพราะเป็นงานแสดงของอีเจฮุน กระนั้นถ้าว่ากันตามแนวหนังยังเป็นของเก่าที่เคยเห็นมานักต่อนักในแนวเอาชีวิตรอดจากการไล่ล่าที่ไม่ว่าจะเป็นหนังจากที่ไหนก็มี แต่เมื่อมาเป็นเกาหลีไอ้ครั้นจะไล่ล่าหรือหนีเอาชีวิตรอดแบบมาเพื่อบันเทิงอย่างเดียวก็ใช่ที่เลยกลายเป็นว่าเมื่อจะหนีก็ต้องรู้สิว่าทำไม สิบโทอิมกยูนัม (อีเจฮุน) ทหารเกาหลีเหนือที่ประจำการอยู่ชายแดนแสนลำบากและเขาวางแผนจะหนีทัพเพื่อมาแปรพักตร์อยู่กับฝังไต้แล้วยังวางแผนวางเส้นทางหลบหนีที่ต้องฝ่าหมื่นตายในดงกับระเบิด ทว่าแผนการของเขาก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาพลทหารคิมดงฮยอก (ฮงซาบิน) แต่แทนที่พลทหารคิมดงฮยอกจะเปิดเผยความลับเขากลับร้องขอที่จะหนีไปกับจ่าสิบโทอิมกยูนัมเพราะแม่และน้องสาวเขาอยู่ที่ฝั่งไต้ แต่เมื่อมันยังไม่ถึงเวลาจ่าอิมกยูนัมจึงยังทำไม่ได้แต่พลทหารคิมดงฮยอกกลับรอไม่ไหวพยายามหนีแต่ไม่รอดแล้วจ่าอิมกยูนัมก็ช่วยไว้ ทว่าทั้งสองกลับถูกกล่าวหาว่าหนีทหารร้อนถึงผู้พันรีฮยอนซัง (กูคโยฮวาน) เพื่อนสมัยเด็กของจ่าอิมกยูนัมที่เป็นนายทหารฝ่ายความมั่นคงมาช่วยไว้ กระนั้นเมื่อเอาเข้าจริงๆไม่ว่าทางผู้พันรีฮยอนซังจะพยายามเสนอตำแหน่งที่ดีให้ยังไงก็ยังไม่อาจเปลี่ยนใจจ่าอิมกยูนัมได้และเขาได้ไปช่วยพลทหารคิมดงฮยอกเพื่อหนีไปด้วยกัน เมื่อเพื่อนซี้หนีทหารคนที่จะต้องตามจับกลับมาแม้ว่าจะเป็นผีก็ย่อมต้องเป็นผู้พันรีฮยอนซัง เป็นไปตามครรลองของหนังแนวเอาชีวิตให้รอดหนีตายจากการไล่ล่าที่ก็ไม่ได้เหนือชั้นอะไรถ้าว่ากันที่พล็อต ถ้าว่ากันที่พล็อตคงไม่มีอะไรเกินกว่าคำว่ามาอีกแล้วกับแนวหนีตายจากการไล่ล่าถึงขนาดว่าต้องรอดแล้วพระเจ้าจะให้อภัย เพราะนี่คือหนังที่มาตามครรลองของหนังแนวนี้หนึ่งคนต้องหนีสุดชีวิตอีกหนึ่งก็ต้องทุ่มทุกอย่างตามล่าตัวไม่ว่าจะจับกลับมาเป็นผีหรือคน แล้วสำหรับการเล่าเรื่องและการเดินเรื่องก็ไม่มีอะไรเหนือชั้นไม่มีสับขาหลอกว่ากันตรงๆไปตามสถานการณ์ที่ผันแปรเพียงแต่ไม่ว่าจะแปรผันไปทางไหนจุดยืนของหนังยังมั่นคงคือหนึ่งหนีหนึ่งล่า ซึ่งก็ตามนั้นเมื่อครึ่งเรื่องปูมาเพื่อให้รู้ว่าว่าคนหนีและคนล่าเป็นใครมีความเป็นมายังไงเพื่อสร้างแรงจูงใจในการหนีและการล่า หลังจากนั้นก็มาเต็มสูบเมื่อคนหนึ่งก็ต้องหนีไม่คิดชีวิตคนล่าก็โดนบีบด้วยพลังงานมืดบางอย่างต้องในทุกสรรพกำลังในการล่า แต่ข้อดีคือเกาหลีมีวัตถุดิบให้เล่นด้วยเส้นแบ่งดินแดนระหว่างไต้กับเหนือจึงอาจเหมือนเดิมก็จริงแต่ไม่จำเจแม้ว่าอาจเคยเห็นมาบ้างแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่เหนือกว่าหนังแนวนี้ทั่วไปคือแรงจูงใจที่มาเต็มแม้จะดูยัดเยียดไปหน่อยแต่เมื่อมันได้ใจอะไรทำนองนั้นก็ไม่มีผล เพราะแรงจูงใจจะทำให้เรื่องที่เล่ามีน้ำหนักแล้วยิ่งเป็นเรื่องของการต้องหนีทหารจากกองทัพเกาหลีเหนือยิ่งต้องชัดเพราะเอาจริงคงบอกยากว่าทำไม แล้วเมื่อบทหนังไม่ได้มีชั้นเชิงมากมายออกจะซื่อๆตรงๆด้วยซ้ำแม้จะพลิกผันไปมาก็ไม่ได้เหนือกว่าการคาดเดา แต่ที่ทำให้เรื่องเดินหน้าไปอย่างมีพลังคือแรงจูงใจในการหนีของตัวละครอิมกยูนัมที่ไม่เหลือใครในบ้านเกิดฝั่งเหนือแถมยังมีความฝันและแรงบันดาลใจบางอย่าง แน่นอนเรื่องแค่นี้อาจไม่พอจึงใส่ความเป็นมนุษย์ศักดิศรีความเป็นมนุษย์ที่ต้องมีสิทธิ์ที่จะคิดและตัดสินใจไม่ใช่ถูกตีกรอบแม้กระทั่งความคิด แล้วเรื่องความเป็นมนุษย์นี่เองที่ดูยัดเยียดหน่อยๆเพราะเห็นอาการเร่งเร้าแต่เมื่อถึงเวลานั้นเส้นแบ่งทางหัวใจของคนดูถูกขีดไปแล้วอาการยัดเยียดจึงไม่มีผลอะไรเพราะตัวละครได้ใจ อาจเพราะการใช้ชีวิตโดยไม่มีกรอบมาบีบบังคับที่แม้กระทั่งความล้มเหลวยังไม่มีสิทธิ์นั่นแหละนรกที่ต้องหนีให้พ้น "อีเจฮุน" ก็ยังเป็น "อีเจฮุน" ที่เล่นเรื่องไหนยังหนีบุคลิกเดิมไม่พ้นแต่ก็เหมือนพัฒนาไปอีกขั้น สำหรับด้านการแสดงนั้นจะมีนักแสดงอยู่สองแบบหนึ่งคือสามารถเปลี่ยนไปตามตัวละครที่ได้รับสามารถเปลี่ยนแปลงบุคลิกตัวเองได้ปานกิ้งก่าเปลี่ยนสี อีกแบบคือแสดงเรื่องไหนก็เหมือนมีบุคลิกเดิมๆไม่ค่อยต่างกันจังหวะการพูดการแสดงอารมณ์ยังเหมือนเดิมแต่สามารถเป็นตัวละครที่ได้รับในแบบที่เห็นว่าตัวละครนี้มีบุคลิกแบบนักแสดงคนนั้น ยกตัวอย่างง่ายๆคือนัมกุงมินที่เล่นเรื่องไหนจังหวะการพูดหรือการแสดงสีหน้าแววตาภาษากายจะเป็นในแบบของตัวเองแต่เมื่อมารับบทตัวละครไหนก็กลายเป็นตัวละครนั้นในแบบตัวเอง แล้ววันนี้ผู้เขียนสังเกตเห็นว่าอีเจฮุนพัฒนาไปถึงจุดนั้นแล้วเพราะเอาจริงก็ยังเหมือนกับอีเจฮุนในเรื่องอื่นๆแต่เชื่อได้ทั้งใจว่านี่คือคนที่มีความฝันและแรงบันดาลใจเพื่อที่จะหนีจากการถูกกดขี่ตีกรอบความเป็นนุษย์ ซึ่งมันต่างจากูคโยฮวานที่แสดงแบบเปลี่ยนบุคลิกตามตัวละครซึ่งก็ทำได้ดีทำให้ทั้งรักทั้งเกลียดแต่ถามว่าดีไหมมันคือดีและดีกันไปคนละแบบแถมยังส่งเสริมกันไม่เตะถ่วงกันด้วยทำให้หนังที่เหมือนจะยัดดราม่าหน่อยๆกลายเป็นมีพลังเดินหน้าไปอย่างไหลลื่น ดูสนุกตามแนวที่ควรเป็นได้ลุ้นระทึกเอาใจช่วยแต่ที่เหนือคือเมื่อคนดูเทใจให้ตัวละครริ้วรอยที่มีก็ลืมไปสิ้น สุดท้ายนี่คือหนังที่จัดว่าสนุกคุ้มค่าเดินหน้าไปแบบลุ้นระทึกแม้บางเวลาจะเป็นเพียงสถานการณ์เล็กๆง่ายๆ นั่นเพราะคนดูเทใจให้ตัวละครไปแล้วทั้งหมดก่อนหน้าด้วยความที่แรงจูงใจของตัวละครที่จะทำหรือไม่ทำอะไรมันเข้มแข็งชัดแจ้ง แม้ว่าบางสถานการณ์ก็อดคิดไม่ได้ว่าว่าทำไมถึงพยามยามพาตัวเองไปหาสถานการณ์แบบนั้นก็ช่างมันเพราะบทหนังไม่ได้มาเนี้ยบเรียบร้อยอยู่แล้วและสิ่งที่มีคืออาการลุ้นไปจนถึงเอาใจช่วยสุดขีดที่ความจริงมันก็ความเร้าใจตามแนว แต่แม้จะเป็นไปตามแนวอย่างเคร่งครัดเมื่อคนดูยังลุ้นและสนุกได้อยากเห็นพระเอกหนีไปให้ได้อาการลุ้นจนหยดสุดท้ายก็ต้องมาแถมยังคิดว่าอะไรกันนักกันหนาล่ะเนี่ย นั่นหมายความว่าหนังเรื่องนี้สนุกได้เพราะพื้นฐานทางอารมณ์และหัวใจที่สามารถเกาะกุมหัวใจคนดูได้ก่อนริ้วรอยที่มีจึงหาได้สลักสำคัญไม่ แต่ที่สำคัญแน่ๆคือหนังได้นักแสดงรับเชิญที่มีสีสันและชื่อเสียงเบอร์ใหญ่มาแจมเช่นซงคังและอีซมทำให้นอกจากจะลุ้นการหนีจากการไล่ล่ายังต้องมาลุ้นว่านักแสดงคนไหนที่คุ้นหน้าคุ้นตาจะโผล่มาอีก ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 จาก Instaram plusm_entertainment เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !