หนังเล่าถึง แฟรงค์ มาร์ติน (Jason Statham) หลังจากเหตุการณ์ของภาคแรกซึ่งเกิดที่ฝรั่งเศส เขามาอาศัยอยู่ในไมอามี่ และทำอาชีพพนักงานขับรถให้กลัวครอบครัวบิลลิ่งส์ที่แสนร่ำรวย และหน้าที่ของเขาคือขับรถรับส่ง แจ๊ค บิลลิ่งส์ (Hunter Clary)เพื่อไปรับส่งที่โรงเรียนเป็นประจำ และทำให้เขาถูกชะตากับแจ๊ค แต่จู่ ๆ แจ๊คก็โดนลักพาตัวไป แฟรงค์เลยต้องลุยบู๊ ใช้ความสามารถของอดีตการรบพิเศษมาช่วยแจ๊คแม้ว่าภาคแรก รายได้จะไม่ได้ดีเท่าที่ควรไม่ถึง 50 ลัานเหรียญด้วยซ้ำ แต่เพราะได้รับกระแสตอบรับจากแฟนหนังที่ดีเกินคาด แม้ว่าหนังจะกวาดรายได้ไปไม่เยอะ แต่DVD กลับขายดีจนไม่รู้จะดียังไง และแน่นอนว่าแฟน ๆ เรียกร้องขนาดนี้ ก็ต้องจัดกันต่อ โดยได้ผู้กำกับคนเดิมมารับหน้าที่ในหนังภาคต่อนี้ จะขาดก็แค่ผู้กำกับภาคที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการออกแบบภาพและท่าแอ็คชั่นสวย ๆ เท่านั้นเอง ( สำคัญมาก)เมื่อมาชมภาคสอง ทำให้ผมเห็นสิ่งที่เป็นเสน่ห์ของหนังแฟรนไชส์ทรานสปอร์ตเตอร์ได้อย่างชัดเจนครับ ลำดับแรกเลยคือ หนังมีการวางมุมกล้องที่ดี เลยส่งผลให้ฉากAction ที่ทำออกมาดีอยู่แล้ว ได้มุมกล้องที่สวยงามไปด้วยในเวลาเดียวกัน และสิ่งที่หลาย ๆ คนอาจะไม่ทราบคือหนังเรื่องนี้ใช้การตัดต่อน้อยมากเพราะว่าเพื่อความสมจริง อะไรที่พอจะเล่นเองได้ก็เล่นเอง และหนังค่อนข้างเน้นการต่อสู้ระยะประชิดที่ทำออกมาได้ดีและเจ๋งสุด ๆ ซึ่งต้องบอกว่าหนังมีความโอเวอร์ระดับสิบเต็มสิบเลย ภาคสองคือฉีกระดับความโอเวอร์กว่าภาคแบบเต็มขั้น แต่หนังอัดความมันส์บันเทิงแบบจัดหนัก แต่ความโม้และไร้ความสมเหตุสมผล ก็ไม่ได้เลวร้ายมาก เมื่อหนังให้ความสนุกมากขนาดนี้ในเรื่องของบทหนังคงต้องมองข้ามไปเพราะไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนักพล็อตเดิม ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการขับรถขนส่งคือ Signature ของหนังเรื่องนี้ไปแล้ว ที่น่าสนใจกว่าบทหนังและ Signature คือคาแร็คเตอร์ของพระเอกที่มีทักษะการต่อสู้แบบเต็มขั้นเพราะอดีตเคยเป็นทหารหน่วยรบพิเศษ และภาคนี้เจสันก็โชว์บทบาทฝีมือได้อย่างไม่มีผิดหวัง การแสดงของเขาพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ และเสน่ห์ของตัวละครตัวนี้ เขาเคร่งครัดกับกฎ 3 ข้อมาก แม้ว่าภาคแรกจะแหกไปแล้วจนวินาศสันตะโรก็ตามคะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 หนังสร้างความบันเทิงให้อย่างมากครับ ก็พอจะกลบความขี้โม้โอเวอร์ของหนังไปได้ไม่น้อยเลย ส่วนนักแสดงอย่าง เจสัน ก็เป็นตัวเดินเรื่องที่มีเสน่ห์ ทั้งฝีมือการแสดงและความสามารถข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์ 1. ความผูกพันกับเด็ก แม้ว่าแฟรงค์จะดูดิบเถื่อน ๆ และไม่เคยมีใครหรืออะไรที่เข้าถึงเขาได้ง่าย ๆ แต่เมื่อเขามาพบกับแจ็ค ลูกชายของเจ้านายที่เขาต้องคอยไปรับส่งที่โรงเรียนทก็เกิดเป็นความผูกพันธ์กัน2. การสร้าง Signature ให้กับหนัง เหมือนกับFast ที่ Signature ของตัวเองว่าเป็นหนังแข่งรถ เรื่องนี้ก็เช่นกัน แต่เป็นการขนส่งแทนนั่นเอง ดูไปดูเหมือนสารคดีขนส่งยังไงไม่รู้ภาคสองก็ถือว่าให้ความบันเทิงได้ไม่แย่ครับ แม้ว่าบทหนังจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ โม้มากไปหน่อย แต่ถ้าเราดูเพื่อความบันเทิง หนังถือว่าตอบโจทย์สายแอ็คชั่นขาลุยแน่นอนเครดิตภาพปก Europacorpเครดิตภาพที่1 Europacorpเครดิตภาพที่2 Europacorpเครดิตภาพที่3 Europacorp