อดีตผู้ช่วยส่วนตัวแฉยิบระลอกใหม่ สงครามอื้อฉาว "จอห์นนี เดปป์" กับ "แอมเบอร์ เฮิร์ด"
ข่าวสารวงการหนัง คดีจอห์นนี เดปป์ แอมเบอร์ เฮิร์ด
ยังคงเกาะติดประเด็นการซักพยานที่ศาลยุติธรรม ใจกลางกรุงลอนดอน เกี่ยวกับคดีอื้อฉาวของ 2 นักแสดงดังฮอลลิวูด "จอห์นนี เดปป์" และ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" ที่จบลงด้วยการหย่าร้างและกลายเป็นการสอดโคลนกันไปมาเกี่ยวกับกรณีทำร้ายร่างกาย จนเป็นปมสาเหตุที่ทำให้นักแสดงหนุ่มตัดสินใจฟ้องร้องหนังสือพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษ ฐานใส่ร้ายและกล่าวหาเขาว่าเป็นสามีที่ตบตีทำร้ายภรรยาตัวเอง
ล่าสุดถึงคราวของการซักถามพยานคนสำคัญในกรณีนี้อีกคน ซึ่งก็คือ "เควิน เมอร์ฟีย์" อดีตผู้ช่วยส่วนตัวของ จอห์นนี เดปป์ ที่เคยทำงานกับเขามา 8 ปีเต็ม ก่อนจะลาออกจากหน้าที่นี้ไปในปี 2016 ช่วงที่พวกเขาได้หย่าร้างกันแล้ว โดยเขาได้เปิดเผยข้อมูลกับศาลเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ที่เป็นชนวนเหตุที่ทำให้คู่ชีวิตทั้งคู่ตัดสินใจแยกกันไปคนละทาง เพราะปัญหาที่คาราคาซัง รวมทั้งกรณี "อึบนเตียงนอน" ก็ถูกหยิบยกมาพูดถึงด้วย
เควิน เมอร์ฟีย์ ได้ยืนยันว่า เรื่องอีบนเตียงนอนเป็นชนวนเหตุที่ทำให้ จอห์นนี เดปป ตัดสินใจถึงที่สุดว่าเขาจะหย่าร้างกับ แอมเบอร์ เฮิร์ด เพราะดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเกินเยียวยา และค่อยปล่อยให้อีกฝ่ายดูหมิ่นดูแคลนกันมากเกินไปแล้ว เหตุการณ์เรื่องอึบนเตียงเกิดขึ้นในช่วงวันเกิดอายุ 30 ปีของดาราสาว ประเด็นนี้เขาจึงได้โทรศัพท์คุย 3 สายกับ จอห์นนี เดปป์ และ แอมเบอร์ เฮิร์ด ในอีกไม่กี่วันต่อมา
• มหากาพย์เริ่ม! "จอหน์นี เดปป์" กับ "แอมเบอร์ เฮิร์ด" ขึ้นศาล-ยืนยัน "ไม่เคยตบเมีย"
• สานต่อคดีฉาว เกิดอะไรบนรถไฟฮันนีมูนที่ไทยของ "จอห์นนี เดปป์-แอมเบอร์ เฮิร์ด"
อดีตผู้ช่วยส่วนของเดปป์ เปิดเผยว่า เขาได้อธิบายและสอบถามแอมเบอร์ผ่านโทรศัพท์ เกี่ยวกับก้อนอุจจาระที่พบเห็นอยู่บนเตียงนอน ซึ่งแม่บ้านเป็นคนพบระหว่างเข้าไปทำความสะอาดภายในห้องนอนของพวกเขา ในตอนนี้แอมเบอร์ได้กล่าวยอมรับว่าเธอเป็นคนทำเอง โดยอ้างว่าเป็นเพียงการแกล้งอำกันเล่นๆ ที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่เป็นเรื่องที่เหมาะสมและสกปรกเกินกว่าที่คนเป็นผู้ใหญ่จะทำกัน
เควิน เมอร์ฟีย์ ยังบอกอีกว่า "คุณแอมเบอร์ได้อาละวาดโวยวาย และสบถด่าผมผ่านการคุยโทรศัพท์ 3 สายในตอนนั้น เธอด่าผมว่า 'ไอ้ตอแ--' อยู่หลายครั้ง ทำให้ผมต้องพยายามบอกให้เธอหยุดและใจเย็นลง ก่อนที่คุณเดปป์จะพูดแทรกขึ้นมาว่า 'พอเถอะ เธออย่าพูดแบบนั้นใส่เขาได้ไหม ให้เกียรติเขาด้วย' แต่เธอก็ยังคงสบถอย่างไร้สติต่อไป กระทั่งคุณเดปป์บอกว่าเขารู้สึกพอแล้ว จบสิ้นกันเสียที เขาจึงต้องการอยากจะหย่าในวันนั้น"
อดีตผู้ช่วยส่วนของเดปป์ ยังบอกด้วย แอมเบอร์ยังโวยวายอยู่แบบนั้นไม่หยุด ทำให้เขาตัดสินใจวางสายจากการคุยโทรศัพท์ 3 สายนั้นไป และมีเบอร์เดิมๆ พยายามโทรกลับมาหาเขาต่อเนื่องอยู่หลายนาที แต่เขาเลือกที่จะไม่รับสาย เพราะไม่อยากสนทนาใดๆ กับพวกเขาอีกแล้ว โดยหลังจากนั้น จอห์นนี เดปป์ จึงได้ดำเนินการยืนเรื่องขอหย่าร้างในเวลาต่อมา
ต่อมาก็ถึงคราวซักพยานคนใหม่ นั่นก็คือ "เคท เจมส์" อดีตผู้จัดการส่วนตัวของแอมเบอร์ เฮิร์ด ที่ทำงานให้กับเธอระหว่างช่วงปี 2012 - 2015 เป็นเวลาที่เธอกับจอห์นนี เดปป์ ได้ใช้ชีวิตสมรสด้วยกัน พร้อมกับเปิดเผยเรื่องราวที่ทำให้ช็อกไปทั้งศาล โดย เคท เจมส์ เปิดเผยว่า เธอเคยเล่าให้แอมเบอร์ฟังว่า ตัวเองเคยถูกข่มขืนกระทำชำเราที่บราซิลเมื่อหลายสืบปีก่อน แต่ปรากฏว่าเรื่องราวที่เธอเคยเล่าให้ฟังไปนั้น แอมเบอร์ได้นำเอาตกแต่งเป็นเรื่องของตัวเองในเวลาต่อมา
"คุณแอมเบอร์ได้หยิบเอาเหตุการณ์อันเลวร้ายในชีวิตของฉัน เมื่อประมาณ 26 ปีที่แล้ว นำไปพลิกล็อตเป็นเรื่องของตัวเอง โดยทั้งหมดเป็นการดัดแปลงมาจากสิ่งที่ขึ้นกับฉัน ฉันเป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุกระทำชำเรา มันเป็นเรื่องที่ซีเรียสมากๆ และไม่สมควรที่จะนำไปใช้ในกรณีนี้" เคท เจมส์ กล่าว
ทั้งนี้สิ่งที่อดีตผู้จัดการฯ ของแอมเบอร์ เฮิร์ด ได้กล่าวออกมาสร้างความฮือฮาให้กับสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากคำซักพยานของเธอกลายเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของคดีนี้ หากว่าเรื่องราวเป็นไปตามที่เธอกล่าวมาจริง ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อรูปคดีในการฟ้องร้องในครั้งนี้ ฝ่ายแอมเบอร์และหนังสือพิมพ์ชื่อดังอาจจะเสียเปรียบได้
นอกจากนี้ก็ยังมีข้อมูลอีกด้วยว่า ในคืนวันเกิดปีที่ 30 ของแอมเบอร์ เธอเป็นฝ่ายอาละวาดและเหวี่ยงหมัดชกใส่หน้าจอห์นนีอย่างแรง เนื่องจากไม่พอใจที่ตอนนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าฝ่ายชายต้องสูญเงินมหาศาลถึง 750 ล้านเหรียญไป เพราะผู้จัดการไม่ได้ทำการเสียภาษีให้กับรัฐบาลมาเป็นเวลานานถึง 17 ปี ทำให้ถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเป็นเงินมหาศาล ส่วนหลักๆ เป็นเพราะผลงานการแสดงในหนัง Pirates of the Caribbean ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของเขา ทำให้ในวันนี้เขาอ้างว่าเขาตกเป็นเหยื่อการถูกทำร้ายโดยแอมเบอร์ เฮิร์ด ก่อนจะมาเผชิญหน้ากับกองอึปริศนาบนเตียงนอนในเวลาต่อมา
Source: JustJared / The Hollywood Reporter
----------------------------------------------------