School of Rock หรือในชื่อไทยว่า ครูซ่าเปิดตำราร็อค (2003) เป็นภาพยนตร์ที่อยู่ในใจของผู้เขียนมานานมากเหมือนกัน เป็นการประชันฝีมือการแสดงของนักแสดงที่ได้ชื่อว่า นักแสดงตลกแนวหน้าของวงการฮอลลี่วู้ดอย่าง แจ็ค แบล็ค ผู้ที่เคยวาดลวดลายฝีมือการแสดงมานักต่อนักอย่าง Tenacious D in The Pick of Destiny ชื่อไทย ปิ๊กซาตานกะเกลอร็อคเขย่าโลก (2007) เป็นภาพยนตร์แนวมึนๆฮาๆที่สนุกอีกเรื่องหนึ่ง หรือ Gulliver's Travels กัลป์ลิเวอร์ผจญภัย (2011) เรื่องราวของคนตัวใหญ่ในดินแดนคนตัวเล็ก King Kong คิงคอง (2005) ภาพยนตร์ขึ้นหิ่งอีกเรื่อง หรือ Jumanji ในหลายๆภาพ และล่าสุดกับ Borderlands ที่น่าจะลงจอเงินในเร็วๆนี้เล่าย่อๆเรื่องราววายป่วงเมื่อ Dewey Finn ถูกไล่ออกจากวง เขาที่อาศัยอยู่กับเพื่อนสมัยเรียนที่ทำงานเป็นครูช่วยสอนชั่วคราวก็ต้องนอนให้เพื่อนเลี้ยง และแล้วอยู่มาวันหนึ่งเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นว่าจะมีการจ้างครูช่วยสอน แต่แล้วตัวเขาก็ได้ปลอมเป็นครูซึ่งเป็นเพื่อนของเขา เรื่องราววายป่วงของอดีตนักดนตรีร็อคจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม“กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน” 1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / เอาเข้าจริงๆก็เป็นแฟนภาพยนตร์ของนักแสดงที่ชื่อ แจ็ค แบล็ค เข้าไปอย่างไม่รู้ตัวผู้เขียนชอบในการวางตัวและลีลาการแสดงของเขา ครูซ่าเปิดตำราร็อค ที่ได้ผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Richard Linklater ภาพยนตร์ธรรมดาที่เล่าเรื่องราวและฉายฉากธรรมดาออกมาได้อย่างน่าหลงใหล ธีมหลักเป็นโรงเรียน โรงเรียนแนวหน้าของรัฐนั้น การวางตัวฉากภาพยนตร์ก็ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจและใส่ ธีมหลักโดยการที่มีใครก็ไม่รู้ปลอมตัวเขามาเป็นครู ถึงแม้ภาพยนตร์จะไม่ได้มีฉากแอ็กชันต่อสู้เลือดสาดมันหยดก็ตามที แต่ภาพยนตร์ก็เล่าเรื่องราวผ่านฉากที่สอดแทรกความหมายต่างๆ ผ่านตัวเด็กนักเรื่องในเรื่องได้อย่างลงตัว ฉากค่อยๆเล่าและเผยในเราเห็นตัวละครต่างๆของภายนตร์ได้อย่างไม่เคอะเขิน ถึงภาพยนตร์จะเล่าฉากส่วนใหญ่แต่ในโรงเรียน แต่มันก็มากเกินพอสำหรับภาพยนตร์เด็ก2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / บทของภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมากๆไม่ว่าจะเป็นตัวละครตัวหลังอย่าง Dewey Finn ที่โดดเด่น ตัวละครที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่งแต่กลับล้นไปด้วยบทที่ส่งให้ตัวละครน่าจดจำมากยิ่งขึ้น การจะเล่าถึงดนตรีร็อคที่ส่งพลังมันต้องเล่าแบบนี้แหละ ผู้เขียนมองว่าอย่างนั้น ตัวละครในภาพยนตร์ที่มีความหมายหลายแต่ก็กระจายบทภาพยนตร์และวางตัวละครได้อย่างตรงไปตรงมามากที่สุด ไม่ตกหล่นเลยแม้แต่คนเดียวถึงบางตัวละมีบทน้อยนิดก็ตามแต่ก็เด่นได้อย่างไม่เคอะเขิน 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / ตัวละครต่างๆของภาพยนตร์ในเรื่องนี้ถือว่ามีคาแรคเตอร์ที่เด่นมากๆ การเติบโตของตัวละครในเรื่องเป็นการเติบโตที่ตรงไปตรงมาและจริงที่สุดหากเปรียบเทียบกับโลกแห่งความเป็นจริง ตัวละครที่มีความสามรถเฉพาะตัวอยู่แล้วแต่ไม่มีใครไปช่วยส่งเสริมและสร้างพลังบวกให้กับพวกเขา และแล้วพอมีคนมาจุดประกายไฟในตัว ตัวละครทั้งหลายจึงฉายแววในตัวเองออกมา ตัวละครหยิบจับสิ่งที่อยู่รอบตัวมาเป็นแรงผลักดันให้กับได้เองได้อย่างตรงไปตรงมา ภาพยนตร์ไม่ได้นำเสนอให้เราเหล่าคนดูเห็นถึงความก้าวกระโดดของตัวละคร แต่ในมิติให้ตัวละคร เช่นเมื่อตัวละครยอมแพ้ บทก็ส่งให้ตัวละครมาคุยกัน และส่งให้ตัวละครค่อยๆพัฒนาจนกลายเป็นตัวละครที่มีการเติบโตอย่างมั่นคง ภาพยนตร์สอดแทรกสิ่งนี้ดีมากๆ4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / เมื่อคนเราโดนกดดันในสังคมเราจะไม่เป็นตัวของตัวเอง ภาพยนตร์นำเสนอความหมายได้เป็นอย่างดี ตัวละครที่เป็นตัวละครเด็กในเรื่อง ถูกตีกรอบจากพ่อแม่และผู้ปกครอง เลยทำให้พวกเขาไม่เป็นตัวของตัวเอง จนกระทั้งคุณครูผู้รู้แต่วิชาร็อคเขามาเปิดโลกให้กับพวกเขา เขาจึงกระโดดออกจากกรอบนั้นได้ และอีกตัวละครที่น่าสนใจนั้นก็คือ ครูใหญ่ที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้เป็นคนเข้มงวดเท่าไหร่แต่เมื่อถูกกดดันด้วยหน้าที่การงานตัวเขาเลยกลายเป็นคนละคนกับตัวเธอเอง ภาพยนตร์สอดแทรกความหมายนี้ตั้งแต่เปิดเรื่องมาเลย และก็ค่อยๆแทรกซึมเขามาในบทและในทุกๆฉากอย่างแนบเนียน เป็นความหมายที่ดีนะผู้เขียนว่าเพราะว่าหากนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ตัวเราเองอาจจะมีความสุขกลับชีวิตมากขึ้นไปอีกก็ได้ใครจะรู้5 “คัท !!!!”ภาพยนตร์ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของมิติตัวละคร แง่ของความหมาย และในแง่ของการสร้างแรกผลักดันและกำลังใจ ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นภาพยนตร์น้ำดีอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ใช้แค่ความหมายดีอย่างเดียวแต่ตัว Mood & Tone ก็นับว่าดีไม่แพ้กัน ตัวละครหลายหลากแต่ก็มีมิติไม่ซ้ำกัน ปล่อยความสามารถของตัวเองออกมาสู่สายตาผู้ชมได้อย่างดีเยี่ยม ถึงแม้ภาพยนตร์อาจจะค่อนข้างเก่าแต่ก็ยังหาชมได้ สตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม หรือผ่าน Video On Demand แต่หากใครเป็นสายสะสมเหมือนกับผู้เขียนก็สามารถหาซื้อ บลูเรย์ดิสค์ (Blu-ray Disc และ DVD Disc) ก็ยังมีขายอยู่เช่นเดียวกัน เอาละสรุปง่ายๆสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ School of Rock ครูซ่าเปิดตำราร็อค ที่ดีในทุกด้าน แสงสีเสียงและเพลงประกอบมันส์ชอบ Dialog นี้ "ลุยเลยให้เขารู้ว่าเธอก็มีดี" (สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก School of Rock - ปก / 1 (ปกแผ่น Blu-ray Disc ของสะสมผู้เขียน ) / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 (ปกแผ่น Blu-ray Disc ของสะสมผู้เขียน)ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม และในวันนี้ก่อนจากกันไปบอกเราหน่อยว่าผู้อ่านเป็นแฟนภาพยนตร์เรื่อง School of Rock ครูซ่าเปิดตำราร็อค เพราะอะไร อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ แล้วท่านจะไม่พลาดเหล่าคอนเทนต์ใหม่ๆที่ทาง จิปาถะ และ อรรถรส จัดมาให้ ด้วยเน้อ จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !