“ฟลุ๊ค ไอน้ำ” เล่าเบื้องหลังจุดอิ่มตัวของวง กับข้อครหาว่าแอบซุกลูก!

เบิ้ล AM สัปดาห์นี้พบกับ ฟลุ๊ค ไอน้ำ ศิลปินผู้สร้างปรากฏการณ์ในวงการเพลงแห่งยุค 20 ปีที่แล้วไม่มีใครไม่รู้จักเพลง "รักคนมีเจ้าของ" และ "ที่หนึ่งไม่ไหว" กับเส้นทางที่เริ่มต้นเป็นศิลปิน เล่าเบื้องหลังเพลงดังระดับตำนานที่แต่งขึ้นจากประสบการณ์จริง เคยถูกกล่าวหาว่า “ซุกลูก” สู่วันที่ตัดสินใจยุติวง
เข้าวงการมาได้ยังไง ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : ประกวดโครงการของ RS Star Challenge คัดเลือกทั่วประเทศ จริง ๆ อยากประกวด Hot Wave แต่เขารับแค่กรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งเราเป็นคนบุรีรัมย์ เราก็เลยไม่ประกวด พอดีกับที่ RS มีรายการนี้ขึ้นมาเราเป็นวงมัธยมจากบุรีรัมย์ที่ไปประกวดจนเราได้มาเป็นวงไอน้ำเรารวมตัวเจอกันมาตั้งแต่เด็กเข้า RS มาก็ไม่ได้เปลี่ยนมีแต่หายออกไป
จุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็นวงไอน้ำ ใครเป็นคนตั้งชื่อ ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : เมื่อก่อนเราเป็นวงโรงเรียนจะไปเล่นตามโรงเรียนต่าง ๆ เราก็จะต้องหาชื่อวง เมื่อก่อนมีน้องในวงชื่อเบส เขาก็หาชื่อวงไม่ได้สักทีแล้วเขาก็ไปเห็นหยดน้ำแล้วอยู่ดี ๆ ก็พูดขึ้นมาเลยว่า ไอน้ำ เราอยากตั้งชื่อให้มีความเป็นไทย
ช่วงประกวดเป็นยังไง ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : ตอนประกวดเราต้องส่งเดโม่ก่อน โครงการก็จะมีเพลงบังคับ เขามีเนื้อเพลงให้แต่เราไปทำทำนองเอาเอง มีเพลงบังคับ 1 เพลง และอีกเพลงที่ทำเดโม่ไปคือ "บุษบา" ซึ่งภายหลังถูกขอให้เปลี่ยนเป็นเพลงในค่าย RS คือ "ต่อหน้าฉันจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร" คนอื่นทำเป็นโปรเกรสซีฟ แต่เราทำเป็นเพลงป๊อปใส ๆ ผลการประกวดได้ "วงดนตรีมัธยมศึกษายอดเยี่ยมภาคอีสาน" โดยมีการคัดเลือก 2 วงจากภาคอีสานไปแข่งขันระดับประเทศ พอประกวดระดับประเทศได้ "วงดนตรีมัธยมศึกษาดีเด่นระดับประเทศ" คือได้ที่ 2 ผู้ที่ได้เซ็นสัญญาคือวงที่ได้ยอดเยี่ยมคือที่ 1 ตอนนั้นใกล้จะจบ ม.6 แล้ว เลยคิดว่าการประกวดคือการทำผลงานร่วมกันเป็นชิ้นสุดท้าย และต่างคนก็อาจจะแยกย้ายกันไปเรียนในสิ่งที่ชอบ
ถ้าไม่ได้ทำวงไอน้ำจะไปอะไร ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : จะไปเรียนในสายที่ถนัด ก็คือศิลปะ
สุดท้าย RS ติดต่อกลับมา ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : เขาติดต่อกลับมาบอกว่าสนใจนะ อยากทำผลงานกับไอน้ำ ต้องขอบคุณพี่ชมพู ฟรุตตี้ ทางค่ายสนใจให้เข้ามาคุย เราก็เซ็นสัญญาทันที เพลงแรกคือ "ที่ 1 ไม่ไหว"
ที่มาของเพลง ที่ 1 ไม่ไหว ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : เพลงสื่อถึงการได้ที่ 2 จากการประกวด แล้วก็ยังเกี่ยวกับเรื่องความรัก ที่รักคนมีเจ้าของ โดยคิดว่ามันเหมาะกับไอน้ำ เพราะไม่ได้เป็นที่ 1 แต่ที่ 2 ก็ได้ พี่ชมพูเป็นคนเขียนเพลงนี้
สิ่งที่ทำให้วงไอน้ำดังนอกจากเพลงคือ ทรงผม ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : เป็นทรงผมยาวรากไทร ย้อนกลับไปตอนประกวดเสร็จวงไอน้ำเป็นกลุ่มเดียวในโรงเรียนที่ได้รับบัตรอนุญาตให้ไว้ผมยาวได้ พร้อมลายเซ็นผอ. ทางค่ายต้องการให้ไว้ผมยาวไว้ก่อนเพื่อเป็นคอนเซ็ปต์ของวง อัลบั้มแรกก็ยังสั้น แต่พอเป็น "รักคนมีเจ้าของ" เริ่มผมยาว เหมือนกับตอนเรียนเราตัดผมสั้นมาตลอด แล้วยุคนั้นคือแบบศิลปินต้องไว้ผมยาว เราก็เลยปล่อยยาวเลย เคยไปตัดสั้นช่วงเพลง "มีสิทธิ์แค่คิดถึง" แล้วทางค่ายบอกให้ไปต่อผมคืนให้เป็นทรงรากไทรเหมือนเดิม
เข้มงวดกับศิลปินมากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับสมัยนี้ ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : สิ่งที่คีพที่สุดคือ คอนเซ็ปต์ เสื้อผ้า หน้าผม และรายการทุกอย่างต้องมีการจัดให้
กระแสของช่วงเพลง ที่หนึ่งไม่ไหว ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : เพลง "ที่หนึ่งไม่ไหว" ก็พอมีงานบ้างทุกสัปดาห์ แต่พอเพลงดังแล้วก็มีคอนเสิร์ตเยอะขึ้นถึงประมาณ 20 งานต่อเดือน ซ้อมอยู่ในห้องซ้อมเป็นเดือน ๆ แต่พอโชว์จริงก็ตื่นเต้น ร้องผิดบ้าง โซโล่ผิดบ้าง
เพลงที่ 2 ที่โด่งดังต่อจาก "ที่หนึ่งไม่ไหว" คือเพลงอะไร ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : อัลบั้มที่ 2 "รักคนมีเจ้าของ" มีทั้งหมด 10 เพลง แต่มี 9 เพลงที่เข้าชาร์ตวิทยุทั่วประเทศ
ความสำเร็จของเพลง รักคนมีเจ้าของ ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : มีคอนเสิร์ตแทบทุกวันตลอด 2 ปีเต็ม เราแมสมากในต่างจังหวัด ตีตลาดคลื่นวิทยุต่างจังหวัดได้หมด เพราะแนวเพลงของเรายังไม่ใช่สไตล์ที่คนกรุงเทพฯ แต่เพลง “รักคนมีเจ้าของ” นี่แหละที่เป็นจุดเปลี่ยน ทำให้เรากลืนเข้ากรุงเทพฯ ได้ งานก็เยอะ แล้วยอดขายก็ทะลุล้านก๊อปปี้ด้วย
ภาพลักษณ์ในวงการสมัยนั้นเรื่องของความรักและครอบครัวต่างกับสมัยนี้ยังไง ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : หลัง ๆ ปี 2000 ปลาย ๆ ช่วงที่มีลูกแล้วเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ลงหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งอยู่ประมาณเกือบทั้งสัปดาห์ แต่ตอนนั้นมันมีกำลังใจอย่างหนึ่ง คือเรากับแฟนมีลูก ก็ไม่ได้ติดใจอะไร ทุกคนก็รู้ จนมีวันนึงมีนักข่าวไปเห็นแล้วก็เขาก็เล่นข่าวว่า ฟลุ๊ค ไอน้ำ ซุกลูกแต่ว่าตั้งแต่แฟนท้องมันดีตรงที่ว่าเฮียฮ้อรู้ เฮียบอกก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไร ทุกคนก็เป็นกันได้ ก็ลุยงานให้เต็มที่ แล้วจากนั้นก็พอมีข่าว ค่ายจัดงานแถลงข่าว ผมก็ยอมรับก็จบไม่ได้มีอะไรไม่ได้มีผลกระทบต่องาน กระแสอะไรมันก็ต้องจะมีบ้าง มุมมองของคนความคิดของคนมันแตกต่างกัน แต่เราก็ไม่ได้ว่าเขาเพราะเราไม่ได้หรอก เราต้องการที่จะเปิดเผยความจริง หลังจากที่แถลงข่าวต่อมาดาราก็เริ่มเปิดตัวกันมากขึ้น รู้สึกว่าเราเหมือนเป็นต้น ๆ ที่ให้ความจริงใจกับแฟนเพลงเรา หลังจากนั้นมาอาจจะมีผลกระทบบ้าง คนก็อาจจะไม่ชื่นชมน้อยลงบ้างแต่ว่าผลงานเพลงเรายัง มีต่อไปเรื่อย ๆ ก็ยังมีคอนเสิร์ตอยู่ต่อเรื่อย ๆ
ในวงเคยมีทะเลาะกันบ้างไหม ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : ก็มีบ้าง มุมมองว่าคนอยู่ด้วยกันมานาน เป็นวัยรุ่นด้วย เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ อายุ 16 ปี จนมาทำผลงานอายุ 30 ปีอยู่ด้วยกันอย่าง มันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่มันจะเป็นอะไรที่คุยง่ายนะ พูดกันตรง ๆ บอกกันให้จบตรงนั้นเลย
ไอน้ำอยู่ด้วยกันมากี่ปี ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : ใช้เวลาอยู่กับ RS 10 ปี
เคยมีค่ายอื่นมาสนใจ แต่วงไม่ไป ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : เขาทาบทามมา เขารู้ว่าวงเราจะหมดสัญญาแล้ว เหมือนซื้อตัวนักฟุตบอล ยุคนั้นเขาก็จะรู้จักกันเขาฝากบอกมาโดนทาบทามมาจากผู้ใหญ่ ว่าให้มาทาบทามไอน้ำหน่อยสนใจย้ายไปอยู่กับเขาไหม สัญญา กำลังจะหมด ตอนนั้นเราไม่ได้ย้าย เราคิดว่าเราโตมาจากตรงนี้ ถ้าเราย้ายจริง ๆ เราต้องทิ้ง "ที่ 1 ไม่ไหว" แล้ว "รักคนมีเจ้าของ" ออก ผมจะพูดอย่างหนึ่งว่า "ที่ 1 ไม่ไหว" พอไป "รักคนมีเจ้าของ" มันคือจุดสูงสุดของไอน้ำ ถ้าเราไปอยู่ทางนู้นก็ยากที่จะอยู่ดี ๆ จะกระโดดมาให้เท่ากับ "รักคนมีเจ้าของ" แล้วเราก็ไม่อยากจะทิ้ง RS ไม่อยากจะทิ้งเพลงที่เราโตมาแล้วเรามีคุณค่ากับเรามากทำให้เราได้มาเปลี่ยนไอน้ำในทุกวันนี้ ก็เลยตัดสินใจว่าผมทิ้ง "รักคนมีเจ้าของ" กับ "ที่ 1 ไม่ไหว" ไม่ได้จริง ๆ ก็เลยไม่ไป ต่อสัญญาเป็น 10 ปี เราเซ็นเมื่อปี 2545 หมดสัญญาปี 2555
สาเหตุที่วงไอน้ำยุบวงคืออะไร ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : ตอนแรกวงเรามี 5 คน เราก็อยู่ไปเรื่อย ๆ แต่ละคนเริ่มมีแนวทางที่ชัดเจน แอร์มือกีตาร์ออกไปก่อน ออกไปทำเป็นแนวทางดนตรีเพื่อชีวิต เราก็เหลือ 4 คน สักพักมือกีตาร์อีกคนขอแยกย้ายเพื่อไปทำงานของตัวเองที่บ้าน เราก็เหลือ 3 คน มีใหม่ กอล์ฟแล้วก็พี่ เราก็เอาแบ็คอัพกีตาร์ 2 คนมาช่วงสุดท้ายของไอน้ำ หลังจากนั้นเราก็รู้สึกว่าแต่ละคนมันเหมือนกับมีจุดที่อิ่มตัว เราก็ยังเจอเพื่อน ๆ อยู่ สุดท้ายใหม่ก็มีครอบครัว เพราะว่าเราทำงานตรงนี้มา 10 ปี ตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันนานมาก แล้วก็แต่ละคนเริ่มมีครอบครัวมีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องดูแลแล้วก็เลยตัดสินใจว่าพอแล้ว ก็เลยตัดสินใจว่า ยุติวงไอน้ำ แต่พี่พูดกับเพื่อน ๆ เสมอว่าเรายังมีความสุขกับการร้องเพลงเลยไปต่อ
มีโอกาสที่วงไอน้ำจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งไหม ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : อาจจะมีโอกาสในอนาคต แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันอย่างจริงจัง เพราะแต่ละคนยังมีหน้าที่ที่ต้องดูแล
เป้าหมายในอนาคต ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : คือครอบครัว อยากให้ลูกดูแลตัวเองได้และใช้ชีวิตกันได้ก่อน ยังร้องเพลงอยู่ มีความสุขกับการได้ร้องเพลง และรับงานไม่เยอะ
วงการเพลงในปัจจุบันเป็นยังไง ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : ทุกวันนี้มันง่ายขึ้นและดีกว่าเมื่อก่อนมาก ทุกคนมีอิสระในการทำงานทำสิ่งที่ตัวเองรักได้มากขึ้น มีช่องทางรองรับและโอกาสทำสิ่งที่ตัวเองรักได้มากกว่าสมัยก่อน
มีผลงานเพลงใหม่ไหม ?
ฟลุ๊ค ไอน้ำ : มีแล้ว เคยมีเพลงเดี่ยวและล่าสุดคือเพลง "เทแก้วที่เหงา"
สามารถติดตาม “เบิ้ล AM” ได้ที่ช่องทาง Facebook: WE DO , Youtube: WE DO วันพฤหัสบดี เวลา 19.00 น.