Shin Ultraman เป็นภาพยนตร์ที่นำเอาซีรีส์โทคุซัทสึอย่าง Ultraman ในปี 1966 กลับมาตีความใหม่ในชื่อของ Shin Ultraman โดยผู้ที่เป็นติ่งที่ชื่นชอบโทคุซัทสึมากๆ อย่างคุณ Hideaki Anno ซึ่งเราจะคุ้นหน้าคุ้นตากับผลงานของเขาได้ดีจากเรื่อง Evangelion และ Shin Godzilla นั่นเอง และในตอนนี้หลังจากที่รอคอยกันมานานในที่สุด Shin Ultraman ก็ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของบ้านเราสักที ทาง Keydaily จึงอยากจะขอมารีวิวและแชร์ความรู้สึกหลังดูให้เพื่อนๆนักอ่านได้รับฟังกัน จะเป็นอย่างไรก็ติดตามอ่านกันได้เลยครับ(เนื่องจาก Shin Ultraman ได้เข้าฉายในหลายๆประเทศก่อนจะฉายที่บ้านเรามาหลายเดือนแล้ว ดังนั้นบทความจึงอาจจะมีการเปิดเผยเนื้อหาของหนังภายในเรื่องนะครับ"เรื่องย่อhttps://www.youtube.com/watch?v=5XT4Wbfupysสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันที่คนญี่ปุ่นต้องพบเจอ ทางรัฐบาลเองก็ไม่สามารถจัดการได้ จึงก่อตั้งทีมปฏิบัติการต่อต้านไคจูขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่อว่า "หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามไคจู" หรือ SSSP นั่นเอง ในวันหนึ่งขณะที่ SSSP กำลังรับมือกับสัตว์ประหลาดยักษ์อยู่นั้น จู่ๆ ก็ตรวจพบการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์สีเงิน ซึ่งจะมีการตั้งชื่อในภายหลังว่า "อุลตร้าแมน" นั่นเองความยาว 112 นาทีกำกับโดย Shinji Higuchiเขียนบทโดย Hideaki Annoการตีความใหม่จากที่เราได้เห็นในตัวอย่างแล้ว จะเห็นได้ว่า Ultraman หรือมนุษย์ตัวสีเงินภายในเรื่องนั้น จะมีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ที่แตกต่างจากเดิม ซึ่งจะมีความเป็นเอลี่ยนหรือมนุษย์ต่างดาวมากขึ้น จุดสังเกตที่เห็นได้ชัดอีกเลยก็คือ Shin Ultraman นั้นจะไม่มี Color Timer และรูที่ดวงตา ซึ่งที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะว่า Shin Ultraman ได้คอนเซปต์มาจากภาพ "ร่างของความเที่ยงแท้กับคุณธรรมและความงาม" ที่วาดโดยคุณ Narita Tooru ในปี 1983 ซึ่งนอกจากเหล่าสัตว์ประหลาดและเอเลี่ยนภายในเรื่องที่มีการปรับดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้นแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ผู้เขียนชื่นชอบเลยก็คือ การตีความใหม่ของหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามไคจู หรือ SSSP ซึ่งหากเป็นใน TV ซีรีส์ชุดของหน่วยนั้นก็จะเป็นเครื่องแบบที่ใส่กันทั้งตัว แต่ใน Shin Ultraman นั้น เครื่องแบบของหน่วย SSSP จะเหลือแค่เข็มกลัดและปลอกแขนที่ใส่กับชุดสูทเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเรียลและจริงจังมากขึ้น ช่วยให้เราเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่า หากมีหน่วยนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริงจะเป็นอย่างไรความรู้สึกหลังดูShin Ultraman นั้นมีการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างจะเร็ว ตลอดระยะเวลาที่เราได้ดูหนังนั้นให้ความรู้สึกเหมือนเราดูมินิซีรีส์หลายๆตอนมารวมกันซะมากกว่า และอย่างที่ทราบกันดีว่าหนังเรื่องนี้ได้คุณ Hideaki Anno ซึ่งเป็นผู้กำกับของ Shin Godzilla มาเป็นมือเขียนบท แต่ Shin Ultraman ก็เป็นหนังที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า Shin Godzilla มากๆ มีความพอดีในการให้เราได้เห็นสภาพของรัฐบาลรวมกับฉากต่อสู้ที่ดูสนุกตามสไตล์ Ultraman มากกว่าที่จะเน้นไปทางการเมืองอย่างจริงจังเหมือนกับ Shin Godzilla และด้วยความเป็นติ่งของคุณ Anno ทำให้ Shin Ultraman เป็นหนังที่มีการเคาพต้นฉบับมากๆ ทั้งความฮาต่างๆ ไปจนถึงหลายๆฉากในเรื่อง หากใครที่เป็นแฟน Ultraman อยู่แล้วก็คงถูกใจกันไม่ใช่น้อย ในส่วนของตัวละครไม่ว่าจะเป็นมนุษย์โลกหรือมนุษย์ต่างดาวนั้น ทำออกมาได้ดูมีมิติมากๆ ทั้งคำพูดและลักษณะท่าทางต่างๆ ทำให้แม้ภายนอกจะมีลักษณะที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่เราก็สามารถแยกออกได้เลยว่าคนไหนมนุษย์โลก คนไหนมีมนุษย์ต่างดาวปลอมตัวมา และโดยปกติแล้วหนังแนวสัตว์ประหลาดหรือเอเลี่ยนสู้กัน ตัวละครฝั่งมนุษย์จะเป็นได้เพียงไม้ประดับเท่านั้น แต่ใน Shin Ultraman นั้นตัวละครฝั่งมนุษย์โดยเฉพาะหน่วย SSSP จะดูน่าจดจำและได้มีส่วนร่วมไปกับการต่อสู้ของ Ultraman อีกด้วย อีกจุดที่ผู้เขียนชอบเลยก็คือสีหน้าตกใจและเหวอๆ ของคนฝั่งรัฐบาลที่ต้องเผชิญกับมนุษย์ต่างดาวขึ้นมาจริงๆ ที่แสดงออกถึงความตื่นตกใจและรับมือไม่ถูก ซึ่งหากมีมนุษย์ต่างดาวเข้ามาพูดคุยกับเราขึ้นมาจริงๆ สีหน้าของเราคงไม่ต่างจากรัฐบาลในเรื่องแน่ๆทางด้านงานเสียงประกอบ ก็น่าจะมีการนำเอาเสียงเก่าๆมาใช้ทั้งหมด ทำให้หลายๆคนที่ติดตาม Ultraman มาคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ในด้านการออกแบบงานภาพมีการใช้ CG แต่ก็ยังคงความคลาสสิคของโทคุซัทสึเอาไว้ ทำให้งานภาพออกมาดูทันสมัยมากอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการใช้มุมกล้องที่แปลกตา ทำให้รู้สึกได้ถึงความแปลกใหม่อีกด้วยในช่วงแรกไปจนถึงกลางเรื่องนั้นค่อนข้างทำออกมาได้ดี แต่กลับรู้สึกเสียดายในส่วนสุดท้ายของหนัง เนื่องจากมีความรู้สึกว่าจังหวะในการเล่ามันสะดุดแปลกๆ และจากการเล่าที่เหมือนเอามินิซีรีส์ประมาณ 3 ตอนมาเรียงกัน ทำให้ฉาก Climax นั้นไม่ค่อยที่จะมี Impact หรือว้าวมากเท่าที่ควรโดยรวมแล้ว Shin Ultraman เป็นภาพยนตร์ Fan Service ที่เอาใจแฟนๆหรือคนที่ชื่นชอบ Ultraman เป็นอย่างมาก แต่ก็มีการเล่าเรื่องที่เป็นมิตรกับคนที่ไม่ใช่แฟน Ultraman เหมือนกัน ซึ่งถ้าหากใครที่ไม่เคยรู้จัก Ultraman มาก่อนเลย ก็สามารถรับชม Shin Ultraman ได้อย่างหายห่วงเลย แต่ก็อาจจะต้องใช้ความพยายามนิดนึงสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟน เพราะอาจจะไม่อินกับ Easter Egg ที่ผู้กำกับตั้งใจใส่มาก็ได้ แต่ก็นับว่าเป็นหนังที่ดูสนุกแน่นอนนะ8/10สามารถรับชม Shin Ultraman ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์นะครับสุดท้าย รีวิวทั้งหมดนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของตัวผู้เขียนเองเท่านั้น หากอยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้สนุกหรือไม่สนุก ทุกคนก็ต้องลองไปรับชมด้วยตัวเองนะเครดิตตัวอย่างภาพยนตร์จาก YouTube: Major Groupภาพประกอบทั้งหมดจาก Twitter: Shin Ultramanภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 / 4 / ปกเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!