เตรียมพบกับความหลอนครั้งใหม่ ในซีรีส์ผี School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า… ที่สร้างจากการ์ตูนสยองขวัญ 8 เรื่อง สู่ออริจินัลซีรีส์ 8 ตอนจาก Netflix ซึ่งทาง Netflix ก็ได้ปล่อยตัวอย่างซีรีส์อย่างเป็นทางการมาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม และได้สตรีมพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยซีรีส์ School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า… จะพาคุณไปพบกับความน่าสะพรึงกลัวสุดสยองที่เกิดขึ้นภายในรั้วโรงเรียนต่างๆ เพราะเขาว่ากันว่า...ทุกโรงเรียนมีเรื่องเล่า... ซีรีส์ School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า… เป็นออริจินัลซีรีส์จาก Netflix โดย 6 ผู้กำกับ มีทั้งหมด 8 ตอน คือ 7 โมงพิศวง , แรงสาปแช่ง , สวย , นิทานอีศพ , หัวครูวัยวรรณ , สูตรลับร้านป้าจง , พรต้องสาป และเดินล่าท้าผี ซึ่งสามารถดูแยกกันได้ เพราะแต่ละตอนไม่เกี่ยวข้องกัน โดยทุกตอนเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนเหมือนกันทั้งหมด ตอนที่ 1 : 7 โมงพิศวง (7 AM) กำกับโดย ธนดล นวลสุทธิ์เขาว่ากันว่า ทุกๆ เจ็ดโมงเช้า จะมีข้อความลึกลับปรากฏอยู่บนกระดานดำ ข้อความนั้นจะระบุชื่อหนังสือเรียนแต่ละวิชา และถ้าวันไหนนักเรียนในห้องไม่เอาหนังสือที่ปรากฏบนกระดานดำนั้นมา นักเรียนคนนั้นจะต้องตาย และถูกลืมไปจากความทรงจำของทุกคน "คิว" (รับบทโดย เค เลิศสิทธิชัย) ที่บ้านอยู่ใกล้โรงเรียนที่สุด จึงจำใจต้องรับหน้าที่มาโรงเรียนก่อนเจ็ดโมงเช้า เพื่อถ่ายรูปข้อความบนกระดานส่งให้เพื่อนทุกคน ถึงอย่างนั้นเพื่อนในห้องก็ยังคงกลั่นแกล้งและกดดันเขาอยู่ตลอด จนเขาเริ่มลังเลว่าจะช่วยเพื่อนๆ ต่อไปดีไหมเนื้อเรื่องในตอน 7 โมงพิศวง ยังเป็นอะไรที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าที่ควร ตอนที่อ่านในรูปแบบการ์ตูนรู้สึกว่าสนุกกว่านี้ แต่พอมาเป็นซีรีส์กลับรู้สึกตลกมากกว่า โดยเฉพาะฉากผีที่เหาะมาเหมือนซูเปอร์แมน บางจุดของเรื่องยังดูงงๆ ผีไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ตกใจเสียงเป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่ชอบคือความกดดันของตัวละครที่ทำออกมาได้ดี เพื่อนในห้องเห็นแก่ตัวเกินเบอร์มากจนรู้สึกอึดอัดแทนคิว แม้จะดูได้เรื่อยๆ แต่เป็นเรื่องที่ไม่ถึงกับพีคมาก พอเอามาเป็นเรื่องแรกที่เปิดซีรีส์ ทำให้คนดูบางส่วนอาจรู้สึกเบื่อจนไม่อยากดูตอนต่อไปได้ตอนที่ 2 : แรงสาปแช่ง (Vengeful Spell) กำกับโดย พุฒิพงศ์ สายศรีแก้วเขาว่ากันว่า เคยมีรุ่นพี่ทำพิธีสาปแช่งเพื่อนให้ตายทั้งห้อง และก่อนที่จะฆ่าตัวตายตาม รุ่นพี่คนนั้นได้เก็บซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้ในกล่องคำสาปแช่ง และมันถูกซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งในโรงเรียนนี้โดยที่ไม่มีใครรู้ หากมันถูกเปิดออกเมื่อไหร่ มันจะนำความตายกลับมาสู่โรงเรียนนี้อีกครั้ง "เพลง" (รับบทโดย เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ) ได้ค้นพบกล่องคำสาปแช่งนั้นเข้า จึงลองใช้มันเพื่อสาปแช่งคนที่เธอเกลียด และนั่นทำให้เธอต้องเจอกับสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวผีในตอน แรงสาปแช่ง ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ออกมาเป็นตัวเป็นตน ความน่ากลัวจะอยู่ที่ความสยดสยองมากกว่า ทั้งเลือด ทั้งไส้ มาแบบเต็มๆ เป็นตอนที่เล่นกับความรู้สึกของคนดูได้ดี ดูแล้วหวาดเสียวมาก ใครกลัวเลือดอาจต้องปิดตาเลย ในส่วนของพล็อตเรื่องก็ทำออกมาได้ดี มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น แต่ก็มีบางจุดที่รู้สึกอิหยังวะ อย่างการกระซิบเรียกชื่อตัวละครที่ดูแล้วแปลกๆ นอกจากนี้ยังไม่รู้ว่าตัวเรื่องต้องการทำออกมาให้หักมุมมั้ย แต่เป็นการหักมุมที่เดาได้ไม่ยาก ก็เลยไม่ได้รู้สึกว้าวเท่าที่ควรตอนที่ 3 : สวย (Beautiful) กำกับโดย ทรงศักดิ์ มงคลทอง"เอมอร" (รับบทโดย ทสร กลิ่นเนียม) นักเรียนหญิงที่มีปมด้อยเรื่องหน้าตา เธออยากสวยเหมือนกับ "ดาว" (รับบทโดย ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ) ดาวโรงเรียนที่สวยจนใครๆ ก็หลงรัก จนกระทั่งวันหนึ่ง เอมอรได้เจอกล่องปริศนาบรรจุขวดน้ำยาสีชมพูที่เขียนไว้ข้างกล่องว่า penanggalan โดยไม่รอช้า เธอจึงรีบดื่มน้ำยานั้นเข้าไปทันที ในวันต่อมา เอมอรก็สวยขึ้นผิดหูผิดตาจนดาวเกิดความอิจฉา ดาวจึงทำทุกวิถีทางเพื่อหาความลับเกี่ยวกับความสวยของเอมอรสวย เป็นอีกตอนที่ไม่มีผีออกมาเลย (นอกจากตอนจบ) แต่เป็นการดำเนินเรื่องที่ชวนให้คนดูสงสัยเหมือนกับทุกคนในเรื่องว่าทำไมเอมอรจึงสวยขึ้น ถือเป็นตอนที่ชอบมากตอนนึงเลย อาจเรียกไม่ได้เต็มปากว่าเป็นผีในโรงเรียน แต่เนื้อเรื่องก็เกิดขึ้นในโรงเรียนเป็นส่วนใหญ่ แม้จะดูเว่อร์ๆ แฟนตาซีอยู่บ้าง แต่ก็ถือเป็นพล็อตที่แปลกใหม่ แบบไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ แต่มีบางจุดที่ขัดใจอย่างการดื่มน้ำยาโดยไม่สนอะไรเลยของเอมอร หรือการพยายามหาคำตอบของดาว รวมทั้งความอยากสวยของทั้งสองคนที่ดูไม่สมจริงสักเท่าไหร่ตอนที่ 4 : นิทานอีศพ (The Book of Corpses) กำกับโดย นัฐพงศ์ วงษ์กวีไพโรจน์ และ พุฒิพงศ์ สายศรีแก้วเขาว่ากันว่า ห้องสมุดของโรงเรียนคือแหล่งรวบรวมหนังสือ ทว่า...นอกจากความรู้แล้ว มันอาจจะมีเรื่องราวเร้นลับซุกซ่อนอยู่ ซึ่งวันหนึ่ง คุณอาจจะมีโอกาสได้เปิดอ่าน ดังเช่นหนังสือ "นิทานอีศพ" เล่มนี้ ที่ "สายป่าน" (รับบทโดย พัศชนันท์ เจียจิรโชติ) พบเจอมันในห้องสมุดโดยบังเอิญ หลังจากเข้าไปหลบเพื่อนที่จะกลั่นแกล้งเธอ ทำให้สายป่านได้เจอกับครูนาริน (รับบทโดย ษริกา สารทศิลป์ศุภา) ครูบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดที่มักจะเล่าเรื่องราวลึกลับของโรงเรียนแห่งนี้ให้เธอฟังอยู่เสมอ และหนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ว่าหากเขียนคำอธิษฐานลงไปในหนังสือนิทานอีศพ คำขอนั้นจะสมปรารถนานิทานอีศพ เป็นตอนที่เอาเรื่องผีหลายเรื่องมาโยงเข้าด้วยกันผ่านหนังสือนิทานอีศพเล่มนี้ โดยเป็นความอาฆาตแค้นที่ส่งผ่านมารุ่นสู่รุ่น บอกเล่าผ่านบรรยากาศลึกลับวังเวงของห้องสมุดใน พ.ศ. 2515 ด้วยความที่โลเคชั่นไม่ใช่ยุคปัจจุบัน ทำให้ตัวหนังมีความน่ากลัวเพิ่มขึ้น แต่ขัดใจนิดนึงว่าทำไมห้องสมุดมันถึงได้มืดขนาดนั้น เข้าใจว่าต้องการทำให้น่ากลัว แต่มันขาดความสมจริงไปหน่อย รวมถึงตอนจบที่งงๆ ว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ตอนที่ 5 : หัวครูวัยวรรณ (Headless Teacher) กำกับโดย ภณธฤต โชติกฤษฎาโสภณ"ครูวัยวรรณ" (รับบทโดย ธงชัย ทองกันทม) คุณครูเจ้าแม่เงินกู้ประจำโรงเรียน แถมยังเฮี๊ยบจนเด็กๆ พากันขยาด แต่ยกเว้น "ทิม" (รับบทโดย ปัณณวิชญ์ พัฒนศิริ) กับ "ปิ๊ง" (รับบทโดย วรัชธิปต์ กิตติสิริไพศาล) ที่มักจะแกล้งครูวัยวรรณอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่ครูวัยวรรณถูกฆาตกรรมตัดคออย่างปริศนา ซึ่งตัวของครูถูกฝังอยู่ที่แปลงเกษตร แต่ส่วนศีรษะได้หายไป ครูวัยวรรณจึงได้ขอร้องให้ทิมและปิ๊งช่วยตามหาหัวที่หายไปตอน หัวครูวัยวรรณ เป็นเรื่องผีที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีความน่ากลัวเลย เป็นหนังผีคอมเมดี้มากกว่า ตอนที่อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ก็คิดว่าตลกแล้ว พอมาทำเป็นหนังทำให้ตลกกว่าเดิม เพราะนอกจากบทที่ดัดแปลงออกมาได้ฮาสุดๆ แล้ว การแสดงของปิงปอง ธงชัย ในบทครูวัยวรรณยังส่งให้เรื่องนี้สนุกมากขึ้นไปอีก ส่วนตัวก็ชอบตอนนี้มากเหมือนกัน เพราะเป็นตอนที่มีทั้งความสนุกและความซึ้ง รวมถึงการเปิดเผยตัวตนของฆาตกรที่หักมุมพอสมควรตอนที่ 6 : สูตรลับร้านป้าจง (Lunch) กำกับโดย ทรงศักดิ์ มงคลทองในโรงอาหารของโรงเรียนแห่งนี้ ร้านของ "ป้าจง" (รับบทโดย สีดา พัวพิมล) ที่เมื่อก่อนขายข้าวแกง แต่พอเปลี่ยนมาขายต้มแซ่บเล้งก็กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า นักเรียนทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยมาก ทำให้ "ก้อง" (รับบทโดย ต้นหน ตันติเวชกุล) ยูทูบเบอร์ประจำโรงเรียน อยากพิสูจน์ความจริงว่าร้านป้าจงใส่อะไรลงไปในอาหารกันแน่ ทำให้เขาได้พบเจอกับความลับที่ป้าจงซุกซ่อนไว้สำหรับตอน สูตรลับร้านป้าจง เป็นตอนที่เดาได้ไม่ยากว่าทำไมต้มแซ่บเล้งของป้าจงถึงได้อร่อย แต่จุดที่ชอบมากคือการแสดงของต้นหนที่รับบทเป็นก้อง เป็นตอนที่รู้สึกว่าต้นหนแสดงได้ดีจนรู้สึกอินตาม โดยเฉพาะซีนที่ก้องรับโทรศัพท์จากเพื่อน แล้วพยายามกลั้นน้ำตา กลั้นเสียงสะอื้นเพื่อไม่ให้เพื่อนรู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้ คือเป็นซีนแสดงอารมณ์ที่สมจริงมาก ไม่มีที่ติเลย โดยเรื่องนี้ไม่ได้ออกแนวผีสางเท่าไหร่ เน้นไปทางพิธีกรรมซาตานมากกว่าตอนที่ 7 : พรต้องสาป (Curse) กำกับโดย ศนิพงศ์ สุทธิพันธุ์เขาว่ากันว่า ที่ห้องพยาบาลร้างตรงสุดทางเดินในตึกเก่าหลังโรงเรียน ถ้าใครเข้าไปนั่งเก้าอี้รถเข็น (วีลแชร์) ที่อยู่ในห้องนั้น แล้วหันหลังให้ประตู ผีครูพยาบาลจะออกมา แล้วถ้าเราอธิษฐานขออะไรไป เรื่องที่ขอจะเป็นจริง "กร" (รับบทโดย พัทธดนย์ จันทร์เงิน) ที่มักจะถูกเพื่อนในโรงเรียนแกล้งอยู่เสมอ ถูกเพื่อนบังคับให้ไปขอพรให้พวกเขาสอบผ่าน แต่กรกลับขออย่างอื่นแทน ซึ่งพรที่สมปรารถนาก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อด้วยเช่นกันผีในตอน พรต้องสาป ยกให้เป็นผีที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาผีทั้ง 8 ตอนเลย แม้ว่าจะไม่ได้โผล่มาแบบเต็มๆ สักเท่าไหร่ แต่เพราะการโผล่วับๆ แวบๆ ทีละนิดนี่แหละที่ทำให้รู้สึกน่ากลัว บวกกับเสียงหัวเราะที่ชวนขนหัวลุก ยิ่งทำให้ผีครูพยาบาลในตอนนี้น่ากลัวแบบสุดๆ แม้ว่าบทจะไม่มีอะไรหักมุมมาก แต่หลอนเอาเรื่องอยู่ตอนที่ 8 : เดินล่าท้าผี (A Walk in School) กำกับโดย ธนดล นวลสุทธิ์เขาว่ากันว่า ทุกโรงเรียนมีผี... แต่ "บอย" (รับบทโดย ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา) ไม่เชื่ออย่างนั้น นอกจากบอยจะไม่เชื่อเรื่องผีแล้ว เขายังจะพาทุกคนไปท้าพิสูจน์ว่าผีไม่มีจริงอีกด้วย โดยชวน "ตั้ม" (รับบทโดย วชิรวิชญ์ เรืองวิวรรธน์) เพื่อนสนิทที่กลัวผีจับใจไปไลฟ์สดพิสูจน์เรื่องเล่าผีในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวความหลอนในห้องนาฏศิลป์ หรือเรื่องราวสุดสยองในโรงยิม แต่เมื่อทั้งคู่พยายามพิสูจน์ความเชื่อนั้นไปเรื่อยๆ กลับพบเรื่องราวลึกลับที่ทำให้บอยต้องเปลี่ยนความคิดถือว่าตอน เดินล่าท้าผี เป็นตอนปิดซีรีส์ที่ดีพอสมควร ทั้งพล็อตเรื่องและผีที่น่ากลัวจนขนลุก โดยเฉพาะผีนางรำที่แค่นึกถึงก็หลอนแล้ว อีกทั้งยังเป็นตอนที่รวบรวมเรื่องตำนานผีในโรงเรียนไว้หลายเรื่องในตอนเดียว ทำให้ยิ่งทวีความน่ากลัว ส่วนในตอนจบ แม้ว่าบทจะพยายามทำให้ออกมาหักมุม แต่คนดูส่วนใหญ่ก็น่าจะพอเดาออกว่าจะออกมาแบบไหน ตอนแรกที่ดูอาจจะงงนิดนึง เพราะในตอนหลังมีตัวละครเพิ่มเข้ามาด้วย แต่พอดูอีกรอบก็เข้าใจมากขึ้น ถือว่าเป็นอีกตอนที่ชอบมากความรู้สึกโดยรวมหลังดูซีรีส์ School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า... (2022)ในทั้ง 8 ตอนของซีรีส์เรื่องนี้ ผีที่น่ากลัวที่สุดขอยกให้ตอนพรต้องสาป เพราะผีคุณพยาบาลน่ากลัวมากกก เสียงหัวเราะคิกคักหลอนหูเป็นที่สุด แม้ว่าผีนางรำในตอนเดินล่าท้าผีจะน่ากลัวเหมือนกัน แต่พอมาหักล้างกับตอนจบที่ออกแนวซึ้งก็เลยทำให้ลดความน่ากลัวลง ส่วนฉากที่ชอบที่สุดก็หนีไม่พ้นฉากกลั้นน้ำตาของต้นหน จากตอนสูตรลับร้านป้าจงที่ดูแล้วเรียลสุดๆ โดยรวมแม้ว่าบางเหตุการณ์ในซีรีส์อาจดูไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าน่ากลัวใช้ได้ ถ้าใครที่ไม่ชอบฉาก jump scare อาจต้องบ๊ายบายเรื่องนี้ เพราะบางฉากก็ชวนหัวใจวายเอาได้ https://youtu.be/iBeNwpuiM44 หากใครอยากพิสูจน์ความหลอน สามารถรับชมซีรีส์ School Tales The Series โรงเรียนผีมีอยู่ว่า... ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix และยังสามารถรับชม Netflix ผ่านกล่อง TrueID TV ได้ด้วยนะ ผลงานอื่นๆ จากผู้เขียน✦ รีวิวหนัง Darlings ที่รัก (2022) ผลงานใหม่ของ อาเลีย บาตต์ (Alia Bhatt) นางเอก คังคุไบ #รีวิว✦ รีวิว Carter คาร์เตอร์ (2022) หนังแอ็กชั่นสุดมันส์มาใหม่ ของ จูวอน จาก Netflix #รีวิว✦ รีวิว ซีรีส์เกาหลี One More Time ขอโอกาสรักเธออีกครั้งหนึ่ง (2016) ซีรีส์ย้อนเวลาใน Netflix ที่ดูทีไรก็น้ำตาแตก!✦ รีวิว ซีรีส์เกาหลี Lovers Of The Red Sky EP 1 ดีงามสมการรอคอย!✦ เปิดประวัติ ชินมินอา พร้อมส่องผลงานสุดประทับใจ ก่อนดูซีรีส์ Hometown Cha-Cha-Cha ขอบคุณภาพประกอบNetflix Thailand : วิดีโอ 1 │ Netflix : ภาพปก , ภาพ 1 , ภาพ 2 , ภาพ 3 , ภาพ 4 , ภาพ 5 , ภาพ 6 , ภาพ 7 , ภาพ 8 , ภาพ 9 , ภาพ 10 , ภาพ 11 , ภาพ 12 , ภาพ 13 , ภาพ 14 , ภาพ 15 , ภาพ 16 , ภาพ 17 , ภาพ 18เกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!