Gemini Man นักแสดงนำ: วิล สมิธ, แมรี่ อลิซาเบธ วินสตีด, เบเนดิคท์ หว่อง, ไคลฟ์ โอเวนกำกับภาพยนตร์: อั้งลี่อำนวยการสร้าง: เจอร์รี่ บรัคไฮเมอร์เจมิไนแมนเล่าเรื่องของเฮนรี่ ทหารหน่วยพิเศษวัย 51ปี ของทางการที่ตัดสินใจเกษียณตัวเองหลังทำงานฆ่าชิ้นสุดท้ายสำเร็จเพราะตระหนักถึงสิ่งที่ตัวเองกระทำ ทว่าหลังได้เจอเพื่อนเก่าอย่างแจ๊ค ความจริงเรื่องภารกิจสุดท้ายก็ทำให้เฮนรี่คลางแคลงใจในองค์กรขึ้นมา ส่งผลให้ทางองค์กรที่เฝ้าจับตาดูเฮนรี่ตัดสินใจฆ่าปิดปากเขาก่อนที่เบื้องลึกเบื้องหลังจะถูกเปิดเผย เฮนรี่จำต้องหนีการไล่ล่าไปพร้อมกับแดนนี่ คนขององค์กรที่ถูกเข้าใจผิดว่าคิดทรยศ โดยมีบาลอน เพื่อนซี้ของเฮนรี่คอยช่วยเหลือ ทั้งสามไล่ตามเงื่อนงำจนพบความจริงของปริศนาทั้งหมด เฮนรี่จึงต้องหาทางยุติเรื่องนี้ก่อนที่ชีวิตของเขาจะจบสิ้นลงวิล สมิธ รับสองบทบาทที่ต้องมาไล่ล่ากันเอง หนึ่งคือเฮนรี่ นักฆ่าอันดับหนึ่งขององค์กรที่ต้องการถอนตัวกับสอง จูเนียร์ มือสังหารที่ถูกส่งมากำจัดเฮนรี่ แม้จะถูกโปรโมทว่าเป็นหนังแอคชั่นที่มีความล้ำตรงการนำวิล สมิธมาเล่นสองบทบาทและใช้เทคโนโลยีการถ่ายทำแบบไฮเฟรมเรต งานภาพแบบ 120 เฟรมต่อวินาที เพื่อให้ภาพคมชัดมากที่สุด ซึ่งปกติจะใช้เพียง 24 เฟรมต่อวินาที แต่ในส่วนความสมจริงของตัวละครจูเนียร์ซึ่งเป็นวิล สมิธในวัยหนุ่ม ก็ไม่ได้เนียนตาในทุกฉากที่ปรากฏตัว แถมเครื่องฉายในไทยก็ไม่ได้มีเทคโนโลยีรองรับภาพแบบไฮเฟรมเรต ทำให้หนังไม่สามารถดึงศักยภาพของความคมชัดได้อย่างที่ตั้งใจทว่านั่นไม่ใช่จุดด้อยจุดเดียวที่ถูกกล่าวถึง เพราะสิ่งที่คนดูส่วนใหญ่พูดไปในทิศทางเดียวกันคือพล็อตของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างเชยไปแล้วสำหรับปี 2019 การให้คนๆ หนึ่งถูกไล่ล่าด้วยโคลนนิ่งของตัวเอง ถูกเหมารวมว่าเป็นแนวไซไฟที่ควรทำให้ตื่นตาตื่นใจ แต่ในยุคนี้ ยุคที่เราเห็นหนังบางเรื่องให้ตัวละครเอกใช้มือเปล่ารั้งเฮลิคอปเตอร์ไว้ได้ ไอเดียของเจมิไนแมนก็ไม่ได้สดใหม่อะไรอีกต่อไป นั่นคือเสียงส่วนใหญ่ที่มีต่อหนังเรื่องนี้แต่หากเราไม่เปรียบเทียบเรื่องนี้กับภาพยนตร์อื่น สิ่งที่ค้นพบคือการกล่าวถึงแนวคิดและคุณค่าของชีวิตที่เคลือบไว้ด้วยกระสุนกับฉากขับรถไล่ล่าสุดระห่ำ ตัวละครหลักอย่างเฮนรี่มีความสำนึกต่อสิ่งที่กระทำ ถึงจะสังหารหลายชีวิตที่ชั่วช้า ทว่าการกระทำของเขาตั้งอยู่บนความหวาดหวั่น หากวันหนึ่งเกิดทำพลาดขึ้นมาละ คนบริสุทธิ์อาจตายอย่างไม่สมควร ยิ่งเมื่อเขารู้ว่าผู้ก่อการร้ายในภารกิจสุดท้ายที่ตายไปกลับเป็นเพียงนักวิทยาศาสตร์เท่านั้น มันจึงเป็นแรงขับเคลื่อนให้เขาต้องหาความกระจ่างเพื่อแก้ไขทุกสิ่งที่ทำไป ในทางกลับกันแนวคิดของตัวร้ายอย่างเคลย์ หัวหน้าหน่วยเจมิไนขององค์กรที่ไคลฟ์ โอเวนแสดงมีปมขัดกับความสำนึกนี้ กล่าวคือเพราะทหารเป็นเพียงคน มีความคิด มีความรู้สึก มีอารมณ์ทำให้ไม่อาจทำงานได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงต้องมีการโคลนนิ่งเพื่อให้ได้ทหารที่สมบูรณ์แบบเพื่อไม่ให้ประชาชนต้องมามือเปื้อนเลือดในสงคราม ประเด็นจึงตกมาเป็นการถกเถียงกันว่าโคลนนิ่งนับเป็นมนุษย์คนหนึ่งหรือไม่ในแง่ของการเล่าเรื่อง วิธีลำดับเรื่องราวของเจมิไนแมนไม่ได้ซับซ้อนอะไร คนดูจะได้รู้ถึงปมต่างๆ อย่างรวดเร็วตั้งแต่ต้นเรื่อง ฉากแอคชั่นใหญ่มีอยู่สองฉากหลัก ส่วนที่โดดเด่นอีกอย่างที่มองข้ามไม่ได้คือวิวต่างๆ ที่สวยงามมาก นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดูได้เพลินอีกเรื่องหนึ่งขอขอบคุณรูปภาพจากhttps://tickets.geminimanmovie.com/https://www.imdb.com/