สวัสดีค่ะทุกคนกลับมาพบกับบทความของ Diary Therapyกันอีกครั้งนะคะ วันนี้ผู้เขียนเองก็ยังคงอยู่กับเด็ก ๆ ค่ะออกไปไหนไม่ได้ก็ต้องรื้อค้นของจัดบ้านเก็บของแล้วเจอหนังสือ 3 เล่มในตู้จึงหยิบมาปัดฝุ่นจำได้ว่าเล่มนี้มีญาติซื้อมาให้ลูกสาวค่ะแต่ตอนนั้นลูกสาวยังเล็กมาก จึงเก็บไว้ก่อนเก็บจนลืมเลยค่ะ ไหน ๆ ก็หยิบมาปัดฝุ่นแล้วก็ขอนำมาแบ่งปันให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะวันนี้ในหัวข้อรวมมิตรเจ้าหญิงดิสนีย์มีมา 3 เล่มค่ะเล่มแรกเจ้าหญิงราพันเซล เล่มที่สอง เจ้าหญิงแอเรียล และเล่มที่สามคือเรื่อง เจ้าหญิง Frozen มาดูที่เล่มแรกกันดีกว่าค่ะเป็นเล่มที่ผู้เขียนชอบมากเป็นการส่วนตัว "เจ้าหญิงราพันเซล ราพันเซล เจ้าหญิงผมยาวกับโจรซ่าจอบแสบ" หากใครได้ดูในรูปแบบการ์ตูนแล้วเชื่อว่าต้องหลงรักความแก่น ซ่าของราพันเซล รูปภาพโดย : ผู้เขียนหน้าแรกของหนังสือจะมีการแนะนำตัวละครเบื้องต้นซึ่งมีตัวละครหลัก ๆ 6 คนค่ะ ประกอบด้วย ราพันเซล ,ฟลิน ไรเดอร์ , ม้าแม็กซิมัส , กอเธล ,และสองพี่น้องพี่น้องสแตบบิงตันค่ะ เนื้อหาของหนังสือเล่าตั้งแต่กาลหนึ่งเลยคือตั้งแต่ราพันเซลเริ่มประสูตินั่นเองค่ะ เป็นหนังสือภาษาอังกฤษทั้งเล่ม และมีศัพท์ภาษาอังกฤษแทรกมาให้แต่ไม่มากค่ะ เหมาะกับคนที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณรูปภาพจาก : Disneyเนื้อเรื่องครบเหมือนเราดูการ์ตูนเรื่องนี้ทั้งเรื่องค่ะ ที่สำคัญภาพสวยและคล้ายกับในการ์ตูนของดิสนีย์ที่ดูในโรงภาพยนตร์ค่ะ เชื่อว่าต้องถูกใจเด็ก ๆ และบรรดาแม่ ๆ แน่นอน นอกจากภาษาอังกฤษที่เราได้จากหนังสือ การได้เพลิดเพลินกับความสวยงามของภาพแล้วเรายังได้ข้อคิดอีกว่า อย่ากลัวค่ะที่จะออกนอกหอคอย เราไม่รู้หรอกว่าชีวิตข้างนอกมันเป็นยังไงและมีอะไรอยู่ข้างนอกนั้น แต่หากเราได้ออกไปสำรวจภายนอก เราอาจจะค้นพบอะไรหลายอย่างที่ชีวิตเราอาจต้องการมาตลอด ในมุมมองของแม่คืออย่าปิดกั้นความคิดของลูกค่ะ เขาอาจค้นพบสิ่งที่เขาชอบและอยากทำค่ะขอบคุณรูปภาพจาก :Disneyมาที่เล่มที่สอง "A Special Song บทเพลงพิเศษจากเพื่อนตัวน้อยของเจ้าหญิงแอเรียล" เล่มนี้ถือว่าเป็นขวัญใจของใครหลายต่อหลายคนค่ะเงือกน้อยแอเรียลที่เด็ก ๆ ฝันว่าอยากเป็นนางเงือกแบแอเรียลบ้าง เล่มนี้จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการฉลองวันเกิดของพระราชา โดย เซบาสเตียน ปูสีแดงผู้ชำนาญงานดนตรีในที่นี่มีตำแหน่งเป็นถึง วาทยกร ที่อยากจัดงานฉลองวันเกิดให้พระราชาโดยให้ "แอเรียล" เงือกสาวของเราร้องนำ แต่แล้วเรื่องราวก็ไม่เป็นอย่างที่ เซบาสเตียน คิดไว้มันไม่สมบูรณ์แบบ เพราะนักดนตรีทำผิดพลาดทุกครั้ง แล้วเกิดอะไรขึ้นตรงนี้ของไม่ออกนะคะ เผื่อท่านใดที่อยากอ่านต่อ ผู้อ่านอย่างเราจะได้เห็นบรรยากาศต่าง ๆ ในท้องทะเลที่สวยงาม จินตนาการไปพร้อมกันนะคะทุกคนรูปภาพโดย : ผู้เขียนข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้หากเราท้อแท้แล้วลองพักจากความท้อแท้ตรงนั้นหันไปทำอย่างอื่นอาจเพิ่มพลังให้เรากลับมาสู้อีกครั้ง และไม่เพียงแค่นั้นเราเองอาจเห็นถึงความสามารถอย่างอื่นที่บางคนซ่อนอยู่ในตัวของเขาก็ได้ค่ะ หากใครเหนื่อยจากการทำงานและเลี้ยงลูกอาจท้อ ก็ลองปรับเปลี่ยนบางอย่างดูนะคะแล้วเราจะพบว่าแค่ได้พักมันก็หายค่ะมาที่เรื่องสุดท้ายของบทความนี้ "Frozen ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ" เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เชื่อว่าเป็นขวัญใจของใครหลายคนค่ะ หากใครที่ดูในรูปแบบภาพยนตร์มาแล้วเชื่อว่าก็ยังคงประทับใจความสวยงามของภาพ และเด็ก ๆ หลายคนก็อยากมีพลังแบบเอลซ่า ที่สามารถปล่อยพลังเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นฤดูหนาวยิ่งอากาศร้อน ๆ แบบนี้ เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะสำหรับเล่มนี้เป็นภาคแรกของ Frozen คือ อาณาจักรแห่งเอเรนเดลล์ซึ่งพระราชาและพระราชินีมีพระธิดาสองคน ก็คือ เอลซ่ากับอันนาซึ่งตัวเอลซ่านั้นมีพลังพิเศษในการเสกน้ำแข็งออกมาได้ เรื่องราวเริ่มตรงที่วันหนึ่งนั้นอันนาผู้เป็นน้องสาวได้ปลุกเอลซ่าให้มาเล่นด้วยกัน ขณะที่เอลซ่าและอันนากำลังเล่นกำลังเล่นสนุกสนานกับพลังวิเศษนี้ พลังหิมะของเอลซ่าถูกเสกเข้าที่หน้าของอันนาด้วยความไม่ตั้งใจค่ะ ทำให้อันนาหมดสติซึ่งเนื้อเรื่องในหนังสือดำเนินเรื่องราวเหมือนในภาพยนตร์ Frozen 1 ค่ะ ซึ่งเราผู้อ่านจะได้ช่วยกันตามหารักแท้ที่จมาช่วยชีวิตของอันนาได้ค่ะรูปภาพโดย : ผู้เขียนหนังสือทั้งสามเล่มเหมาะกับผู้ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษค่ะเพราะเป็นภาษาอังกฤษทั้งเล่มมีแทรกคำศัพท์น่ารู้บ้าง แต่หากนำมาอ่านเป็นนิทานให้เด็ก ๆ ฟังในรูปแบบภาษาอังกฤษถือว่าดีค่ะ เพราะเนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวยาว บางเล่มจะเป็นเพียงประโยคสั้น ๆ เท่านั้น หลายท่านอาจสงสัยจากรูปนอกจากภาพหน้าปกหนังสือที่เห็น ไอ้เจ้าแท่ง ๆ คืออะไร อันนี้คือปากกาพูดได้ค่ะ ผู้เขียนซื้อมาเป็นเซต ที่มีหนังสือมาพร้อมกับปากกา ซึ่งสามารถนำมาใช้ช่วยเราอ่านหนังสือได้ ทำให้เจ้าตัวเล็กใช้ปากกาจิ้มแล้วให้อ่านออกเสียงให้ฟังก็จะได้สำเนียงที่ดีกว่าเราอ่านค่ะผู้เขียนหวังว่าทุกคนจะชอบบทความนี้นะคะ แค่อยากมาแบ่งปันหนังสือน่าอ่านเหมาะสำหรับเด็ก ๆ และด้วยเนื้อหาภาษาอังกฤษที่มีเชื่อว่าผู้ใหญ่หลายคนที่ต้องการฝึกทักษะในด้านการอ่านก็น่าจะชื่นชอบค่ะ มาอ่านหนังสือกันเยอะ ๆ นะคะ ในส่วนของราคาทั้งสามเล่มนี้ ผู้เขียนไม่ทราบเนื่องจากได้รับมาเป็นของขวัญให้ลูก แต่คิดว่าสามารถซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำค่ะ ไว้พบกันใหม่คราวหน้า ฝากติดตามกันด้วยนะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะDiary Therapyติดตามบทความอื่น ๆ ของ Diary Therapy ได้ : ที่นี่