( cr. ภาพปกจาก https://www.netflix.com/th-en/title/80211648 ) ซีรี่ย์ที่ออกมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้วบนช่อง Netflix สตรีมมิ่งออนไลน์ชื่อดังที่ให้บริการหนังออนไลน์รวมถึงผลิตซีรี่ย์ดี ๆ ให้คนเข้ามาดูโดยการเป็นสมาชิกรายเดือน วันนี้มีซีรี่ย์เข้มข้น ดราม่า จากแดนหมีขาวอย่าง the last czars พระเจ้าซาร์องค์สุดท้าย เป็นหนังเชิงสารคดีที่เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์รัสเซียของราชวงศ์โรมานอฟ ในยุคพระเจ้านิโคลัสที่ 2 และเหล่าราชวงศ์ ซีรี่ย์มีทั้งหมด 6 ตอน อัพครบเรียบร้อยบนเน็ตฟลิก สามารถหาชมกันได้ค่ะ The last Czars พระเจ้าซาร์องค์สุดท้ายแนว : สารคดีนักแสดง: Robert Jack, Susanna Herbert, Ben Cartwrightตอนแรกออกอากาศ : 3 กรกฎาคม 2562ความยาว : 6 ตอนซีซั่น : 1 ซีซั่น แต่เราจะไม่มารีวิวหนังหลังจากดูแล้ว วันนี้จะขอมาบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ที่สอดแทรกในซีรีย์เพื่อความกระจ่างในหลาย ๆ เรื่องของคนที่ยังไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ใครทำอะไร เกิดขึ้นที่ไหน มีมูลเหตุเพราะอะไร จะเล่าเป็นข้อ ๆ เพื่อความเข้าใจง่ายค่ะ พร้อมหรือยังคะ ขอเริ่มที่... ( cr. https://www.imdb.com/title/tt7949606/mediaviewer/rm3738868993 ) 1. เริ่มเรื่องด้วยสมัยพระเจ้านิโคลัสที่ 2 ( Nicholas II หรือ Nikolai II Alexandrovich Romanov ) ได้รับตำแหน่ง พระเจ้าซาร์ หลังจากพ่อของเขา พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 ได้เสด็จสวรรคต การขึ้นครองราชย์ขณะที่อายุยังน้อยและไม่ได้มีความพร้อมมากนัก ทำให้พระองค์นำพาประเทศที่รุมเร้าไปด้วยปัญหาเศรษฐกิจและสังคม หนำซ้ำการพ่ายแพ้ต่อสงครามญี่ปุ่น และปัญหาฉาวโฉ่ของรัสปูตินในราชสำนัก เป็นเหมือนระเบิดเวลาให้ราชวงศ์โรมานอฟต้องล่มสลาย ( cr. https://www.imdb.com/title/tt7949606/mediaviewer/rm803183873 ) 2 . พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ได้ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงอลิกซ์จากเยอรมัน ( Princess Alix of Hesse and by Rhine ) ก่อนจะเป็นชื่อเป็น ซาร์รินาอเล็กซานดรา ( Alexandra Feodorovna ) ตามธรรมเนียมรัสเซีย มีพระธิดา 4 พระองค์ โอลกา ทาเทียน่า มาเรือ และอนาสตาเซีย โอรสคนเล็กหนึ่งพระองค์ คือ อเล็กเซย แต่กลับพบว่าพระโอรสทรงป่วยเป็นโรคฮีโมฟีเลีย ( โรคเลือดไหลไม่หยุด : Hemophilia ) ซึ่งเป็นโรคยอดฮิตที่เกิดในราชวงศ์ฝั่งยุโรป เพราะการแต่งงานในเครือญาตินี้ทำให้การแสดงออกของโรคนี้มากโผล่มาในรุ่นหลาน และเฉพาะเพศชายเท่านั้น การมีพระโอรสที่ป่วยเป็นโรคที่สามารถฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ การดูเลต้องเพิ่มขึ้น มีคนคอยอารักขาประคบประหงม ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเด็ดขาด ทำให้ชีวิตราชวงศ์ไม่ได้ออกไปพบปะผู้คนมากนัก ไม่ได้ใกล้ชิดกับประชาชน ก่อให้เกิดช่องว่างระหว่าง ราชวงศ์และประชาชนนอกวัง ( cr. https://www.imdb.com/title/tt7949606/mediaviewer/rm2238029057 ) 3. การตัดสินใจผิดพลาดหลาย ๆ อย่างของพระองค์ทำพาให้ประเทศเข้าสู่ความขัดสน ปัญหาปากท้อง รวมถึงปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวย ราชวงศ์ที่อยู่กันอย่างมั่งมี ในขณะที่คนส่วนมากอดอยาก ราวกับว่าอยู่คนละโลก ทั้งยังการที่รัสปูตินมีอำนาจในราชสำนัก การตัดสินใจหลาย ๆ อย่างที่รัสปูตินมีอำนาจ ก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่รัฐมนตรี จนก่อให้เกิดกลุ่มปฎิวัติบอลเชวิก นำโดย วลาดิเมียร์ เลนิน (Vladimir Lenin ) ปฏิวัติประเทศโดยเปลี่ยนจากจักรวรรดิรัสเซียภายใต้ราชวงศ์โรมานอฟ เป็น ‘สหภาพโซเวียต’ ( Union of Soviet Socialist Republics : USSR ) มีระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ รวมอำนาจสู่ศูนย์กลาง ไม่มีชนชั้นอีกต่อไปตามแนวคิดของลัทธิมากส์ ( Marxism ) ถือเป็นจุดสิ้นสุดของจักรวรรดิรัสเซียรวมถึง ราชวงศ์โรมานอฟที่อยู่มายาวนานกว่า 300 ปี ( cr. https://www.imdb.com/title/tt7949606/mediaviewer/rm296001281 ) 4. เกรกอรี่ รัสปูติน ( Grigory Rasputin ) นักบวชที่มาจากดินแดนไกลพ้นอย่าง ไซบีเรีย ผู้เข้ามาช่วยรักษาอาการของพระโอรสอเล็กเซย์ ทำให้ซาร์ริน่าไว้ใจและฐานะของรัสปูตินมีอิทธิพลมากขึ้น เพราะในฐานะมารดาที่อยากเห็นลูกทรมารกับโรคที่ไม่มีวันหาย อยู่ๆ ก็มีคนที่ทำให้อาการทุเลาลงนั้น ก็เหมือนเป็นยาวิเศษที่เธอยอมจะแลกทุกอย่าง เชื่อฟัง และรัสปูตินก็มีอำนาจที่สามารถตัดสินใจหลาย ๆ อย่างเพียงแค่กล่าวทูลกับซาร์ริน่า จนทำให้เชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ เริ่มไม่พอใจ อยากจะกำจัดเขาทิ้งก่อนที่อะไร ๆ จะสายเกินไป แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะการตัดสินใจผิดพลาดในเวลาที่เลวร้ายทำให้ประเทศเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง ( cr. https://www.imdb.com/title/tt7949606/mediaviewer/rm440573697 ) 5. หลังจากพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ทรงทัดทานเสียงกดดันไม่ไหว พระองค์จึงประกาศสละราขสมบัติ ก่อนถูกส่งตัวไปยังเมืองเยคาเตรินบูร์ก (Yekaterinburg) วันที่ทุกอย่างดูเหมือนจบสิ้น 17 กรกฎาคม 1918 เมื่อคนของบอลเชวิกส่งคำสั่งส่งตรงมาจากมอสโควให้กำจัดทุกคนในครอบครัว และคืนนั้นพระองค์และครอบครัวถูกพาไปยังห้องใต้ดินและเสียงปืนก็ดังขึ้น เป็นวันสุดท้ายของครอบครัว ปิดฉากราชวงศ์โรมานอฟที่ยาวนานกว่า 300 ปี เชื้อพระวงศ์องค์อื่น ๆ ได้ลี้ภัยทางการเมืองไปยังยุโรป แต่ยังมีทฤษฎีสมคบคิดมากมายที่คิดว่าเจ้าหญิงอนาสตาเซียรอดมา มีคนอ้างว่าเป็นเจ้าหญิงอนาสตาเซียหลายต่อหลายราย เพราะการพิสูจน์ในสมัยนั้นไม่สามารถทำได้ รวมทั้งพระศพที่กระจัดกระจาย และสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยให้พิสูจน์ศพ จนปัจจุบันได้มีการย้ายศพไปไว้ยังสุสานของกษัตริย์เพื่อเป็นเกียรติและฟื้นฟูประวัติศาสตร์ที่แม้จะเลวร้าย แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ของรัสเซียในปัจจุบัน