ชำแหละซีรีส์ "The King: Eternal Monarch" กับ 3 สิ่งที่หลงใหล และ 2 สิ่งต้องส่ายหัว
ข่าวสารวงการซีรีส์ The King: Eternal Monarch
"The King: Eternal Monarch" ซีรีส์จากช่อง SBS ผลงานล่าสุดของนักเขียน "คิมอึนซุก" เจ้าแม่วงการซีรีส์เกาหลี เป็นละครที่หลายฝ่ายจับตามองและคาดหวังเอาไว้สูง เนื่องจากเป็นการคัมแบ็กคืนจอในรอบหลายปีของ "อีมินโฮ" ประกบคู่กับนางเอกฝีมือดี "คิมโกอึน" ล่าสุดได้ดำเนินเรื่องราวมาถึงครึ่งทางแล้ว แต่ปรากฏว่ากระแสตอบรับยังไม่ค่อยดีมากนัก เรตติ้งไปไม่ถึงตามเป้าที่วางไว้ ซ้ำยังถูกกระแสความดังของซีรีส์เรื่องอื่นกลบอีก
หลังจากออกอากาศพ้นครึ่งทางมาแล้ว และกำลังดำเนินเรื่องไปต่อในช่วงครึ่งหลัง ทำให้เราได้เห็นถึงความเด่นและความด้อยของละครเรื่องนี้ที่ปรากฏให้เห็นอยู่ทุกตอนที่ผ่านมา จึงได้ทำการชำแหละออกมาเป็นบทสรุป จำแนกด้วย 3 สิ่งที่เรารู้สึกประทับใจและหลงใหล กับอีก 2 สิ่งที่ยังไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่จากการถ่ายทอดของซีรีส์เรื่องนี้
3 สิ่งที่ประทับใจใน The King: Eternal Monarch
"โลกคู่ขนาน" (สาธารณรัฐเกาหลี : จักรวรรดิเกาหลี)
แกนหลักของเรื่องก็คือประเด็นของโลกคู่ขนาน ต้องยอมรับว่าการออกแบบโลกคู่ขนานของเรื่องนี้ช่างน่าตื่นตา โดยเฉพาะฉากในจักรวรรดิเกาหลีมีหลายอย่างที่แตกต่างจากปัจจุบัน ไม่ว่าจะเมืองหลวงที่แบ่งออกเป็นหลายเมือง เมืองหลวงด้านปกครองอยู่ที่กรุงโซล แต่เมืองหลวงของจักรวรรดิอยู่ที่นครปูซาน และเป็นที่ตั้งของพระราชวังด้วย รวมทั้งระบบขนส่งยังคงเป็นรถราง หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ไม่ใช่แค่เกาหลีเหนือ เป็นการถ่ายทอดวิสัยทัศน์อันน่าตื่นตาบนพื้นฐานของโลกแฟนตาซี
"เคมีดีๆ ของนักแสดง"
การโคจรมาเจอกันครั้งแรกของ "อีมินโฮ" กับ "คิมโกอึน" กลายเป็นเคมีพระนางที่น่าลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยความที่ทั้งคู่เองก็เป็นนักแสดงที่มีมีเคมีสาธารณะอยู่ทุนเดิม ไม่ว่าจะต้องประกบคู่กับใครก็ดูเหมาะเจาะดี อีกทั้งบทละครที่ส่งเสริมและเพิ่มมติให้กับคู่พระนางทำ ทำให้คนดูต้องซึมซับความฟินในโหมดโรแมนติกของทั้งคู่ ไม่เพียงแค่คู่พระนางเท่านั้น คู่รองก็ยังมีเคมีเข้ากันแปลกๆ ไม่ว่าจะเป็น "อูโดฮวาน" หรือ "คิมคยองนัม" ต่างก็มีอินเนอร์นักแสดงที่น่าค้นหา พอเข้าบทบาทโหมดฟินๆ ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน
"เทคนิคพิเศษ มุมกล้อง-มุมภาพ"
ต้องยอมรับว่าหนึ่งในสิ่งที่วงการซีรีส์เกาหลีก้าวไปได้ไกลกว่าซีรีส์ชาติอื่นๆ ก็คงจะเป็นงานสร้างและเทคนิคพิเศษต่างๆ ที่ใส่เข้ามาได้อย่างลงตัวและไม่ขัดหูขัดตาเลยสักนิดเดียว แม้จะดูรู้ว่าเป็นซีจีที่เสริมเข้ามา แต่บางฉากก็แทบจะแยกไม่ออก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะละครมีเวลาในการทำงานโปรดักชั่นด้วย เพราะไม่ใช่ละครเก็บสต็อก ทำให้ฉากจักรวรรดิเกาหลีและเทคนิดฉูดฉาดต่างๆ ทำออกมาได้พอดี อีกทั้งยังมีมุมกล้องและมุมภาพที่เข้ากับบทบาทและบรรยากาศของเรื่องตามสไตล์ นี่จึงเป็นหนึ่งในจุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ที่ทำออกมาได้ดีอย่างปฏิเสธไม่ได้
2 สิ่งที่ยังไม่ปลื้มใน The King: Eternal Monarch
"บทละครยืดเยื้อและช้าไป"
ต้องยอมรับว่าบทละครของคิมอึนซุก มักจะสร้างมิติและปมต่างๆ ให้กับเรื่องราว เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในเนื้อหายิ่งขึ้น แต่ดูเหมือนว่าโจทย์ในซีรีส์เรื่องนี้จะยากและท้าทายไปสักหน่อย ด้วยความที่ขอบเขตค่อนข้างกว้าง จึงกลายเป็นว่าปูทางเริ่มต้นออกมาได้อย่างเข้มข้นและน่าติดตาม แต่กลับเสียเวลากับการปูทางให้กับตัวละครอื่นๆ และหันไปโฟกัสกับการเซอร์วิสฉากโรแมนติกของคู่พระนางแทน ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องช่วงครึ่งแรกค่อนข้างดำเนินไปอย่างเชื่องช้าและยืดเยื้อเกินไป ปมขัดแย้งต่างๆ แทบไม่มีอะไรคืบหน้า หรือยกระดับให้คนดูได้รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่ กลายเป็นว่ามีฉากฟินๆ ของพระนางแทน
"ตัวละครในเรื่องเยอะเกินไป"
นอกจากบทละครจะยืดเยื้อไป หนึ่งในจุดด้อยที่ซีรีส์เรื่องนี้ประสบอยู่ก็คือ การมีตัวละครเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งโลกปัจจุบันและโลกคู่ขนาน ผ่านไปแล้วครึ่งเรื่องก็เชื่อว่าน่าจะยังมีคนดูบางส่วนยังจำตัวละครได้ไม่ครบด้วยซ้ำ บางครั้งยังรู้สึกสับสนด้วยว่า ตัวละครนี้อยู่ในโลกใบไหนกันแน่ เพราะเวลาที่มีอย่างกำจัดในการแนะนำตัวละคร ทำให้กลายเป็นจุดบอดของเรื่องนี้ คนดูเลยจำได้แค่ตัวละครหลักๆ 4-5 ตัว ที่ปรากฏตัวอยู่บ่อยๆ แม้กระทั่งตัวร้ายหลักของเรื่องก็ยังถ่ายทอดออกมาได้ไม่น่าจดจำ ทั้งที่เป็นหนึ่งในคนสำคัญอีกตัว...แต่กลับถูกทิ้งๆ ขว้างๆ เอาไว้กลางทาง
Photo by SBSDrama
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รีวิวซีรีส์ "The King: Eternal Monarch" เปิดจักรวรรดิคู่ขนาน ชงดราม่าเข้ม..พร้อมเคมีฟิน
----------------------------------------------------