ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น ตอน ไผ่ กับมุมมอง สะท้อน ยาทำแท้ง บาปมหันต์-อันตราย!
กลับมาร้อนแรงขึ้นประเด็นฮอตในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ กับ ซีรีส์วัยรุ่น ฮอร์โมนวัยว้าวุ่นซีซั่น 2 ที่ล่าสุด เสนอมุมมอง การชิงสุกก่อนห่ามในวัยเรียน โดยผ่านตัวละครที่ ชื่อ ไผ่ และเฟิร์น ทั้งคู่รู้จักกันไม่ถึง 24 ชมและเผลอพลาดมีเพศสัมพันธ์กัน จนทำให้ฝ่ายหญิงท้อง
เฟิร์น เด็กนักเรียนหญิง ม.6 จึงตัดสินใจรวมความกล้าไปบอกกับไผ่เพื่อให้หาทางออก โดยหนุ่มไผ่ก็ยอมรับผิดชอบทุกอย่าง แต่เฟิร์นกลัวที่จะต้องท้องและกลัวครอบครัวตนเองว่าเลยตัดสินใจ สั่งยาทำแท้งจากอินเทอร์เน็ต
เรื่องราวเดินทางมาถึงตรงนี้ ในซีรีย์ กล่าวถึงการสั่งซื้อยาผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างง่ายดาย ซึ่งวันนี้ทีมงานทรูไลฟ์ ได้รวบรวมข้อมูลของยาอันตรายที่หาซื้อง่ายมาตีแผ่ให้ฟัง
ยาที่ประกาศขายในอินเทอร์เน็ตนั้น ทางผู้ขายมีความพยายามนำเสนอข้อมูลให้เป็นเชิงการแพทย์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ มีการกำหนดช่วงอายุครรภ์กับการใช้สูตรยา ตั้งแต่อายุครรภ์ไม่ถึง 1 เดือน, 1-2 เดือน, 2-3 เดือน, 3-4 เดือน, 4-5 เดือน, 5-6 เดือน และอายุครรภ์ 6-7 เดือน ซึ่งในแต่ละช่วงอายุครรภ์ก็จะมีการใช้สูตรยาที่แตกต่างกัน
ยาที่อ้างว่าเป็นยาทำแท้ง กรณีเป็นยาแบบสอดมีการตั้งราคาที่ เม็ดละ 400-500 บาท ส่วนยาแบบกินจะมีหลายราคา เช่นกรณีเป็นยาจากจีนเม็ดละประมาณ 300 บาท ถ้าเป็นยาจากยุโรปเม็ดละ 2,000-3,000 บาท และบางรายที่ประกาศขายจะตั้งราคาที่เม็ดละ 1,200 บาท ซึ่งในการใช้ยาตามที่มีการกล่าวอ้างจะมิใช่ใช้แค่เม็ดสองเม็ด แต่จะมากกว่าโดยขึ้นอยู่กับอายุครรภ์ และบางกรณีก็มีการกำหนดให้ใช้ร่วมทั้งแบบสอดและแบบกิน
ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยพร้อมให้ความรู้ความเข้าใจต่อประชาชาชนโดยบอกว่า…ขอเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อการโฆษณาอวดอ้างเรื่องยาทำแท้งทางเว็บไซต์ ซึ่งยาดังกล่าวไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ไม่มีผู้รับรองความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยา อาจเป็นยาที่ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ อาจเป็นยาปลอม ยาเสื่อมคุณภาพ ซึ่งเสี่ยงต่ออันตรายและอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต!
การขายยานั้น โดยทั่วไปจะต้องขายในร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตจาก อย. เท่านั้น ยกเว้นยาสามัญประจำบ้าน ซึ่งการขายยาทางช่องทางอื่น ไม่ว่าจะเป็นทางอินเทอร์เน็ต การขายตรงถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น เพราะเป็นการขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ขายจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ภญ.วีรวรรณ บอกต่อไปว่า ยาที่มีการกล่าวอ้างหรือเชื่อถือกันว่าเป็นยาทำแท้งนั้น ที่เป็นยาแผนโบราณซึ่งผลิตและจำหน่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายก็มี อย่างเช่นยาแผนโบราณบำรุงเลือด บำรุงร่างกายบางยี่ห้อ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้มีฤทธิ์ในการทำให้แท้งแต่อย่างใด แต่ถ้ากินมากๆ ก็เสี่ยงที่จะมีอันตรายต่อเด็กในครรภ์ รวมถึงตัวผู้ตั้งครรภ์
กรณียาทำแท้งที่มีการประกาศขายในอินเทอร์เน็ต ภญ.วีรวรรณระบุว่า ที่มีการอ้างถึงยา “ไซโคเทค” นั้น ในข้อเท็จจริงยานี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียนให้ใช้ในการรักษาโรคแผลในกระเพาะและลำไส้ ในรูปของยาเม็ดใช้รับประทาน มีฤทธิ์ในการรักษาแผล ยับยั้งการหลั่งของกรดในน้ำย่อย ฤทธิ์ของตัวยาเป็นยากลุ่มพรอสตาแกรนดิน มีฤทธิ์ในการบีบรัดมดลูก ทำให้ปากมดลูกเปิดและขับเนื่อเยื่อในโพรงมดลูกออกมา จึงห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ เพราะอันตราย
“จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ และให้ใช้ได้ในโรงพยาบาลเท่านั้น ใครจะใช้ยาตัวนี้ต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายตามข้อบ่งชี้ การใช้ยานี้จะต้องมีคนคอยดูแล ซึ่งถ้าใช้ผิดประเภทอาจทำให้มีการติดเชื้อในกระแสเลือดและอาจทำให้เสียชีวิตได้ อาจทำให้มดลูกบีบตัวเร็วขึ้นจนทำให้ตกเลือดเสียชีวิตได้”
รองเลขาฯ อย. ให้ความรู้ความเข้าใจต่อไปอีกว่า ยาทำแท้งนั้น ในประเทศไทยไม่มีการขึ้นทะเบียน เพราะการทำแท้งเป็นเรื่องผิดกฎหมายและผิดศีลธรรม ทั้งนี้ แพทยสภาได้กำหนดเงื่อนไขในการทำแท้งซึ่งไม่ผิดจรรยาบรรณแพทย์ ไม่ผิดกฎหมาย เฉพาะกรณีถูกข่มขืนจนตั้งครรภ์ และตั้งครรภ์แล้วอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตมารดา
การทำแท้งตามหลักวิชาการจะมี 2 แบบคือ แบบหนึ่งเป็นการทำแท้งโดยใช้เครื่องมือ และอีกแบบเป็นการทำแท้งโดยใช้ยา โดยแบบใช้ยานั้น ยาที่ใช้ก็มีหลายตัว ซึ่งที่นิยมใช้ก็จะมี 2 สูตรคือ ใช้ตัวยาที่ใช้รักษามะเร็งชนิดหนึ่ง ซึ่งมีการศึกษาแล้วพบว่าสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ ทางการแพทย์จึงมีการนำมาใช้รักษาการตั้งครรภ์นอกมดลูก ต่อมาก็มีคนนำมาใช้ในการทำแท้ง โดยใช้ร่วมกับยาอีกตัวหนึ่ง ใช้กับการตั้งครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์ และยาอีกสูตรคือยาที่ใช้รักษาโรคแผลในกระเพาะและลำไส้ ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนสูตรใด แม้จะทำตามหลักวิชาการ ก็จะต้องมีแพทย์ดูแลใกล้ชิด
ทั้งนี้ รองเลขาฯ อย. ฝากถึงผู้ที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตรว่า ในการมีเพศสัมพันธ์ก็ควรจะคุมกำเนิด หรือพลั้งเผลอมีเพศสัมพันธ์แล้วก็มียาที่ใช้คุมกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ยาประเภทนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีอันตราย หากใช้บ่อยจะมีโทษเกี่ยวกับฮอร์โมน ทำให้ระบบร่างกายผิดปกติ ดังนั้น การยับยั้ง หักห้ามใจจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด
ขอบคุณเรื่องและข้อมูล จาก เดลินิวส์
ขอบคุณภาพประกอบ จาก ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น
ชมทีวีออนไลน์ช่อง GMM Channel แบบสดๆ ได้ที่นี่ |
ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง Facebook.com/TVSociety |